ตอนนี้ชาวโลกกำลังเพ่งความสนใจไปที่ศึกระดับโลก ระหว่างไอ้นกอินทรีหัวล้านและพญามังกร ซึ่งดูเหมือนว่ายกแรกผ่านไป พญามังกรยังอยู่ดีมีสุข แค่เซนิดๆ ส่วนตาลุงผมเป๋โดนัลด์ ทรัมป์หน้าดำเป็นถ่านเพราะโดนมังกรพ่นไฟใส่จนเกรียม
ยิ่งแกขว้างหินใส่พญามังกรมากเท่าไหร่ ก้อนหินเหล่านั้นกระเด้งกลับมาทะลุหลังคาบ้านลุงแซมหล่นใส่หัวชาวบ้าน จนต่างก็ร้องโอดโอยไปตามกัน ตั้งแต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท บริษัทไนกี้ รวมไปถึงเกษตรกรต่างเลือดท่วมเพราะก้อนหินในมือลุงทรัมป์กันทั้งสิ้น ตอนนี้ลุงผมเป๋บินไปญี่ปุ่น คงต้องรอดูว่าแกจะวาดลวดลายแบบไหนอีก
ช่วงเวลาที่นอนรอข่าว ขอพักเบรคคั่นรายการด้วยข่าวที่กำลังฮือฮาในบ้านลุงแซมอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือการพลิกลิ้นไม่ยอมใช้ภาพสตรีผิวดำบนธนบัตรยี่สิบดอลลาร์ตามที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ขอเล่าสู่กันฟังว่าทำไมถึงเกิดพลิกโผขึ้นมาได้
มะริกันส่วนมากมักไม่ค่อยพกเงินสด พวกที่ชอบพกเงินสดคือคนเอเซียกับกลุ่มเม็กซิกัน ซึ่งธนบัตรที่พกกันจะมีใบละ 1 ดอลลาร์ 5 ดอลลาร์ 10 ดอลลาร์ และ 20 ดอลลาร์ ส่วนใบละห้าสิบและร้อยดอลลาร์นี่แทบจะไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ หากใครจ่ายเงินสดด้วยธนบัตรใบละห้าสิบหรือร้อยดอลลาร์จะถูกเพ่งเล็งทำนองว่าแบงค์ปลอมหรือเปล่า เพราะเจ้าของร้านจะกางแบงค์ส่องอย่างพินิจพิเคราะห์กันเลยทีเดียว ที่เล่าให้ฟังนี่คือเพียงอยากให้รู้ว่าธนบัตร 1 5 10 และ 20 ดอลลาร์นั้นเป็นธนบัตรยอดนิยมในหมู่อเมริกัน
ธนบัตรแต่ละใบจะมีรูปประธานาธิบดีและรัฐบุรุษคนสำคัญทำหน้าเคร่งขรึมประดับอยู่ เช่น ธนบัตรใบละหนึ่งดอลลาร์ ป๊ะป๋าจอร์ช วอชิงตัน ผู้ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกยืนทำหน้าสง่างามอยู่บนนั้น ส่วนใบละห้าดอลลาร์จะเป็นใบหน้าของใครไปเสียไม่ได้ นอกจากเฮียอับราฮัม ลินคอล์น ส่วนใบละสิบดอลลาร์เป็นรูปอเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน รัฐบุรุษแห่งอเมริกา และใบละยี่สิบดอลลาร์ก็มีรูปหน้าผอมซูบของประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็คสันปรากฎอยู่
หลายคนให้คนนับถืออดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็คสัน เพราะถือเป็นหนึ่งในผู้วางรากฐานสำคัญของประเทศ แต่หากศึกษาประวัติศาสตร์อย่างจริงจังแล้วจะเห็นว่า ประธานาธิบดีรายนี้คือผู้สนับสนุนระบบทาส และเป็นหัวเรี่ยงหัวแรงขับไล่ชาวอินเดียนแดงออกจากถิ่นฐานเดิม
แอนดรูว์ แจ็คสันเป็นประธานาธิบดีที่มีด้านมืดเร้นอยู่เยอะมาก แม้อเมริกันจะยกย่องให้เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งก็ตาม แอนดรูว์ แจ็กสันมีชื่อเล่นว่า “โอลด์ฮิกกอรี่ (Old Hickory) นับเป็นรัฐบุรุษอเมริกันและประธานาธิบดีคนที่ 7 แห่งสหรัฐอเมริกา แอนดรูว์เกิดที่เมืองแวกซ์ฮอว์ รัฐเซาท์แคโรไลนา จบการศึกษาด้านกฎหมาย แต่ก่อนหน้าที่จะมาทำงานการเมือง แอนดรูว์ แจ็กสันเคยเป็นนักค้าที่ดินและนักค้าทาส โดยมีทาสในครอบครองเป็นจำนวนมาก
นอกเหนือจากการค้าทาส อินเดียนแดงทุกคนยังจดจำชื่อของประธาราธิบดีคนนี้ไว้ขึ้นใจด้วยความคับแค้นเพราะแอนดรูว์ แจ็คสันลงนามเพื่อใช้วิธีการโยกย้ายชาวพื้นเมืองอเมริกันตามรัฐบัญญัติว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานของชาวอเมริกันอินเดียน (Indian Removal Act of 1830) ในปี ค.ศ. 1831
เส้นทางการโยกย้ายอินเดียนแดงออกจากแผ่นดินเกิดไปเขตสงวนนั้นเรียกว่า Trail of Tears หรือเส้นทางธารน้ำตา ส่งผลให้อินเดียนแดงล้มตายลงเป็นจำนวนมากจนเกือบสูญเผ่าพันธ์เพราะไม่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศและความอดอยากได้ กระนั้นแอนดรูว์ แจ็คสันก็ได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษจนได้รับการตีพิมพ์ลงบนธนบัตรใบละยี่สิบดอลลาร์ ท่ามกลางน้ำตาของทาสผิวดำและเหล่าอินเดียนแดง
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2559 กระทรวงการคลังประกาศว่า จะนำภาพ “แฮร์เรียต ทับแมน” ผู้นำหญิงผิวสีต่อสู้เลิกทาสมาตีพิมพ์บนธนบัตร 20 ดอลลาร์แทนที่แอนดรูว์ แจ็กสัน
แฮเรียต ทับแมนเกิดในครอบครัวทาสในรัฐแมรีแลนด์ในช่วงปี ค.ศ. 1820 จากนั้นก็หลบหนีจากการเป็นทาสเมื่ออายุ 29 ปี และสมรสกับจอห์น ทับแมน ชายผิวดำที่เป็นเสรีชน แฮเรียตไม่ได้หนีไปเพื่อประโยชน์ของตนเอง หากแต่แอบกลับไปช่วยครอบครัวอื่นๆให้หลบหนีเพื่ออิสรภาพผ่านเครือข่ายของผู้ต่อต้านการค้าทาสซึ่งรู้จักกันในชื่ออันเดอร์กราวด์เรลโรดหรือ The Underground Railroad ซึ่งเป็นขบวนการใต้ดินที่มุ่งนำทาสจากรัฐทางใต้ขึ้นสู่รัฐทางเหนือ ซึ่งไม่ใช่รัฐค้าทาส ดังนั้นทาสที่หลบหนีขึ้นมาสู่รัฐทางเหนือจะเป็นอิสระและเป็นไทแก่ตนทันที
การลักลอบลำเลียงทาสให้กลายเป็นไทของแฮเรียต ทับแมนทำให้เจ้าของที่ดินและเจ้าของทาสโกรธแค้นมากจนถึงขั้นตั้งรางวัลนำจับเธอเลยทีเดียว ต่อมามีกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เจ้าของที่ดินและผู้ครอบครองทาสคือกฎหมายทาสที่บังคับใช้ในปี ค.ศ.1850 ที่ระบุว่า “ทาสทุกคนจะต้องกลับไปหาเจ้าของ”
เมื่อเป็นเช่นนี้ แฮเรียตจึงนำทาสที่ช่วยเหลือให้เป็นอิสระไปแคนาดาและหางานให้ทำ ภายหลังกลายเป็นสายลับให้ทหารฝ่ายเหนือในสงครามกลางเมือง โดยทำหน้าที่สำรวจพื้นที่และชักชวนทาสเข้ามาเป็นทหารฝ่ายเหนือ นอกจากนี้เธอยังช่วยรักษาพยาบาลกองทหารฝ่ายเหนือที่บาดเจ็บในช่วงระหว่างสงครามกลางเมืองอีกด้วย และเป็นนักรณรงค์เพื่อสิทธิในการลงคะแนนของสตรีที่โดดเด่นคนหนึ่ง ก่อนจะเสียชีวิตในวัยเกือบ 90 ปี
หากเป็นไปตามแผนเดิม ภาพแฮเรียต ทับแมนจะปรากฎบนธนบัตรใบละ 20 ดอลลาร์ในปีหน้า เดิมทีธนบัตรดังกล่าวมีกำหนดจะออกใช้ในปี พ.ศ. 2563 เพราะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ มาตรา 19 ให้ผู้หญิงทุกรัฐมีสิทธิเลือกตั้ง
แต่นาทีนี้ลุงแซมกลืนน้ำลายตัวเอง กระทรวงการคลังประกาศว่าจะเลื่อนกำหนดการปล่อยธนบัตรออกไปจากภายในปี พ.ศ. 2563 โดยอ้างว่ากลัวจะมีการปลอมแปลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ในขณะที่สื่อตั้งข้อสังเกตว่าการใช้ภาพหญิงผิวดำนั้นไม่เป็นที่สบอารมณ์ของตาลุงผมเป๋นั่นเอง
เรื่องนี้ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย เพราะทรัมป์เองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเดินสายหาเสียง โดยพูดจาถากถางเยาะเย้ยว่า การนำรูปแฮเรียต ทับแมนพิมพ์ลงในธนบัตรนั้นเป็นแค่เรื่องทางการเมืองล้วนๆ จากนั้นก็เบ้ปากหยามเหยียดว่า ควรพิมพ์รูปแฮเรียต ทับแมนบนธนบัตรใบละสองดอลลาร์ดีกว่าไหม เพราะธนบัตรใบละสองดอลลาร์แทบไม่มีใครใช้กันแล้ว
อย่าคิดว่าจะบอกปัดว่าเลื่อนไปก่อนนะพวกยูได้โดยง่าย เพราะเริ่มมีการออกมาทักท้วงตามมา เช่น สมาชิกสภาสตรีผิวสีจากรัฐรัฐแมสซาชูเซตต์ทวีตว่า ในความเป็นชาติอเมริกานั้น นอกจากคนผิวขาวแล้วยังมีคนผิวสีอื่นๆ ที่ร่วมสร้างชาติด้วยเช่นกัน
จากนั้นก็มีการนำประเด็นนี้มาแสดงความเห็นอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ จนเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ขณะนี้ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวาทะของแฮเรียตพลางถอนหายใจ เธอกล่าววาทะเรียบๆ แต่ลึกซึ้งว่า
“ทุกฝันอันยิ่งใหญ่เกิดจากผู้ที่มีความฝัน โปรดตระหนักว่าเราทุกคนล้วนมีความเข้มแข็ง ควาอดทนและความฝันที่จะก้าวออกไปเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้”
ดูเหมือนว่าแฮเรียต ทับแมนคงยังต้องอดทนรอต่อไป จนกว่าอคติแห่งสีผิวจะเบาจาง หรือจนกว่าประธานาธิบดีผู้กุมอคติไว้อย่างเหนียวแน่นจะพ้นจากตำแหน่ง
.......................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี