ใกล้วันประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งกำหนดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ข่าวงูเห่าก็ออกมาจากปากของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ซึ่งอ้างว่ามีคลิปเสียงแกนนำพรรคพลังประชารัฐพยายามเสนออามิสสินจ้างให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ
กระแสข่าวงูเห่าดูจะเป็นความจริง เพราะแม้คุณหญิงสุดารัตน์จะไม่สามารถนำคลิปเสียงออกมายืนยันได้ตามที่คุยไว้ แต่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า กระแสข่าวที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกัน เนื่องจากฝ่ายค้านกับรัฐบาลก็ทำงานร่วมกัน พยายามจะช่วยกัน เพื่อให้การทำงานเดินไปข้างหน้า
_ ขณะเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นอกจากออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่ามีตัวแทนฝั่งรัฐบาลมาเจรจาจริงและมาในหลายรูปแบบแล้ว ยังออกมาปราม ส.ส. ฝ่ายค้านที่คิดจะโหวตสวนมติพรรค ลงคะแนนให้รัฐบาลว่า แม้สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่ในทางการเมืองถือว่าผิดมารยาท ซึ่งสุดท้ายแล้วประชาชนอาจจะไม่ยอมรับ พร้อมทั้งเตือนว่าระวังจะสอบตก ถ้าทำเรื่องฝืนความรู้สึกประชาชน
ปรากฏการณ์งูเห่าในวงการเมืองไทยครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกในภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอย่างทุกวันนี้
จริงเท็จอย่างไร กลางเดือนตุลาคมได้รู้กัน
ในอดีต ปรากฏการณ์งูเห่าเกิดขึ้นเป็นระยะๆ นักการเมืองหน้าเก่าหลายคน (หลับตาก็คงนึกหน้าออก) เป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ต้องขอเกาะอยู่ฝ่ายรัฐบาล เพราะ “เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง” ยุคไหน สมัยไหน พลาดท่าไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็พร้อมจะเป็นงูเห่าหากินเป็นงานๆ ไป
ยุครัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีงูเห่า ยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย ก็มีงูเห่า
ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร หนักยิ่งกว่า เพราะมันซื้องูเห่ายกรัง ยกพรรค !
จุดยืนทางการเมือง สัจจะ และศักดิ์ศรีของนักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยสยบอยู่แทบเท้าของอำนาจเงิน อำนาจทุน และอำนาจรัฐ
มิพักต้องสนใจว่า คนที่ไร้จุดยืน ไร้สัจจะ และไร้ศักดิ์ศรี ก็ไม่ต่างกับคนที่ตายไปแล้ว
และถ้าการเมือง อยู่ในมือของคนที่ตายไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเรา ?
พูดถึงตอนนี้แล้ว ก็ยิ่งเศร้าใจ
และยิ่งเศร้าใจขึ้นไปอีกเมื่อได้ยิน คนที่เคยประกาศว่าจะมาปฏิรูปการเมือง ออกมาต้อนรับงูเห่าทั้งหลายว่า “ถ้าเขามาก็เอา ถ้าเขาอยากมาจะทำยังไงได้”
ครับ, คนเรา ถ้าศีลเสมอกัน มันก็สมสู่อยู่กินร่วมกันได้ ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไร
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี