นั่งๆ นอนๆ ด้วยความอึดอัดอยู่กับบ้านมาสองเดือน ได้แต่โทรศัพท์รำพึงรำพันกับเพื่อนฝูงถึงความเบื่อหน่าย เมื่อรัฐบาลสั่งคลายล็อกเฟสสอง ก็ได้แต่ยินดีปรีดาหารือในหมู่เพื่อนออกนอกบ้านไปเปิดหูเปิดตา หาของอร่อยฉลองกันหน่อยถึงแม้จะยังมีเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ต้องนั่งห่างๆ กันในร้านที่เป็นร้านเปิดโล่ง สามารถระบายอากาศได้ดี
ต่างใจเตลิดเพริดหาที่ไป ตกลงกันไปทางตะวันตก ครั้นจะไปเมืองกาญจน์ก็ไปกันบ่อย สรุปกันว่าจะไปอำเภอจอมบึงจังหวัดราชบุรีแทน เพราะเหินห่างไม่ได้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ว่าแล้วก็นัดหมายสถานที่นัดพบเพื่อจะได้นั่งรถไปคันเดียว
ตัวอำเภอเจริญขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เคยมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่บรรยากาศระหว่างทางยังเขียวชอุ่มสบายตาสบายใจ เมื่อถึงตัวอำเภอมองฝั่งขวาของถนน มีร้านอาหารแนวชาวบ้าน
ฝีมือดีชื่อแปลก “ปั๋งหงาย” ตัวร้านแบบบ้านตามชนบทโล่งๆ
คุณป้าเฟื้อ วิเศษหมื่น
ที่มาที่ไปของชื่อร้านแปลกกว่าใคร คนผ่านมาเห็นเตะตา มักถามถึงความเป็นไปเป็นมาของชื่อนี้ โดยร่ำลือกันว่าคุณป้าเฟื้อ วิเศษหมื่น ผู้เป็นเจ้าของร้านและเป็นแม่ครัวฝีมือดี มีลูกสาว 3 คน หนึ่งในจำนวนนั้นสวยระดับนางงาม จึงเป็นที่หมายปองของหมู่ภมร คอยช่วยบริการลูกค้าในร้านเรียกลูกเข้าร้านล้นหลาม สมัยนั้นพอตกเย็นที่ร้านนี้จึงเป็นที่ชุมนุมเหล่าบรรดาบุคคลในเครื่องแบบ มานั่งชนแก้วแถมชมโฉมลูกสาวป้าไปในตัว บ้างก็ดื่มมากจนจำความไม่ได้ เริ่มตีรวนถามคนโน้นคนนี้ว่า เฮ้ย..!! รู้เปล่าว่า...ตูเป็นใคร ต่อมามีอยู่วันหนึ่งเกิดมีกรณีหมั่นไส้ระหว่างคนมีดาว กับชาวป่าไม้ จึงมีมวยคู่เอกชกต่อยกันให้ร้านมีสีสัน เหล่าลูกค้าต่างก็เชียร์ฝ่ายข้างที่ถือหาง .... เป้งปั้ง ปั๋งเข้าให้ อ้าว....หงายซะแล้ว ชื่อร้านปั๋งหงายจึงถือกำเนิดจากท่านทั้ง 2 คนนี้เป็นตำนานเล่าสู่กันฟังจนทุกวันนี้
ประกาศนียบัตรยืนยันความอร่อย
หมูสามชั้นทอด
เริ่มด้วยหมูสามชั้นทอดซ้ำ 2 ครั้งเพื่อสกัดไขมันออกเกือบหมดจนเหลือแต่ความกรอบ เหมาะกับคอเลสเตอรอลการเคี้ยวแก้เหงาของเครื่องดื่มในปาก เป็นสามชั้นที่กินได้สบายปากชนิดไม่ต้องเกรงใจ เผลอกินติดลมจนต้องสั่งต่ออีกจาน
ไข่ตุ๋นตั้งไฟ
ต้นฉบับไข่ตุ๋นตั้งไฟเป็นไข่ฟูสูตรเฉพาะของป้าเฟื้อที่ทำขายได้รับความนิยมมากว่า 30 ปี ใครจะเลียนแบบอย่างไรก็ไม่อร่อยเท่า เพราะมีกรรมวิธีพิเศษโดยป้าเฟื้อเปิดเผยว่าใช้หม้อเหล็กเหมือนหม้อทำกุ้งอบวุ้เส้น ตีไข่ไก่มากถึงหม้อละ 6 ถึง 7 ฟอง มีหมูสับเล็กน้อย เติมน้ำซุป แล้วตีจนไข่ผสมน้ำแตกฟอง แล้วปิดฝายกตั้งไฟนานไม่ถึงสิบนาที ไข่ในหม้อจะฟูนูน ทีเด็ดทีขาดอยู่ตรงราดกระเทียมเจียวเป็นอันมากจนหน้าไข่ประทุเล็กน้อย เป็นรายการอาหารชนิดที่สมัยนี้เรียกว่าซิกเนเจอร์ เมื่อมีใครพูดพาดพิงร้านนี้ สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือรายการไข่ตุ๋นตั้งไฟหม้อนี้
ไก่บ้านผัดหน่อไม้ดอง
ใช้ไก่บ้านหรือไก่ไทยก็เรียก เนื้อไก่สดสับมาไม่มีกลิ่นสาบไก่ หน่อไม้ดองก็ไร้กลิ่นหืน ผัดง่ายๆ ด้วยพริกขี้เมาโขลกหยาบที่ไม่ได้ซื้อจากตลาด จึงมีความสดอร่อยไร้กลิ่นรุนแรงมาก ถ้าถึงฤดูพริกกะเหรี่ยง จะถึงสัจธรรมตรัสรู้ให้บรรลุศาสตร์และศิลป์ในกระพุ้งปากจนอ้าไม่หุบ
หมูผัดหน่อไม้ดอง
พอปะหน้าตา เห็นคิ้วคางหน้าตาเหมือนฝาแฝดกับไก่ผัดหน่อไม้ดอง ต่างกันตรงเนื้อที่เอามาผัดได้กลิ่นอายรสชาติที่แตกต่างกันเล็กน้อยแค่นั้นเอง
ต้มยำปลาช่อนใส่ใข่ปลายี่สก
ปลาช่อนที่ขายกันในเมืองใหญ่ทั่วไป โดยมากจะเป็นปลาบ่อปลาเลี้ยง เนื้อปลาบางครั้งติดกลิ่นโคลน เนื้อก็ฟ่าม ปลาช่อนตามชนบทห่างไกลเป็นปลาตามธรรมชาติที่มักเรียกว่าปลาป่า มักตัวโตๆ ได้ออกกำลังว่ายทวนสู้กระแสน้ำ ดังนั้นปลาจะแข็งแรงเนื้อแน่นเด้งตลอดตัว ได้มาต้มยำหั่นได้เนื้อเป็นยวง หัว พุง ไข่ปลาพวงใหญ่ เมื่อสอบถามเขาบอกว่าเป็นไข่ปลายี่สก ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านนี้ไปได้ปลาช่อนตัวขนาดใหญ่มาจากไหนได้ทุกวัน ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนจนถึงมาคราวนี้ยังได้ปลาป่าขนาดนี้ทุกที
ต้มยำมาในหม้อไฟร้อนจานถ่านไม้ รสจัดครบรส เรียกเหงื่อโซมไปตามกัน หากแต่ซดแล้วโล่งดีเหลือเกิน น่าจะเป็นเพราะพริกขี้หนูทั้งสดทั้งแห้งที่ลอยอวดโฉมออกฤทธิ์ที่รู้หน้าที่ได้อย่างสุดยอด นอกจากเครื่องต้มยำอันมีข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ตามมาตรฐานแล้ว ยังมีสมุนไพรอีกหลายอย่าง เช่น ใบมะกอก ใบกะเพรา ใบแมงลัก ใส่มาด้วย จนเป็นที่รสหอมแปลกกว่าร้านอื่นทั่วไป
หมูป่าผัดขี้เมา
มาร้านนี้ห้ามพลาดอาหารพวกผัดเผ็ดทั้งหลายของเขา ยิ่งถ้าเป็นหมูป่าละแวกนี้ แท้เสียยิ่งกว่าแท้ เมื่อหลายปีก่อน ขี้เมานักกินคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าเคยมาสั่งกินหมูป่าผัดเผ็ดที่นี่ ขณะกำลังเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆ สะดุดกึกฟันพอคายออกมาปรากฏเป็นกระสุนลูกซอง 1 เม็ด จากลูก 9 เม็ด ทำให้รู้สึกว่าคนแถวนี้เขาไปจ่ายตลาดกันในป่า
คะน้าปลาเค็ม
ผักคะน้าจานนี้ฟ้องให้เห็นถึงความพิถีพิถันของร้าน จากคะน้าพื้นบ้านที่เปลือกแข็งเหนียว แม่ครัวบรรจงปอกผิวก้านออกจนเกลี้ยงเกลา ปราศจากความเสี้ยนผิวผัก ทำให้เคี้ยวได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น อีกทั้งปลาเค็มทอดก็ยีเป็นชิ้นเล็กทำให้ไม่เค็มเกิน เหลือไว้แต่กลิ่นหอมของปลาเค็ม
เมนูร้านนี้มีไม่มาก หากแต่คัดแต่รายการเด็ดมาในราว 20 อย่าง ไม่ได้มีอาหารนับร้อยแต่ฝีมือไม่เข้าขั้น นอกจากรายการอาหารที่ได้กินฟื้นความหลังครั้งนี้แล้ว ยังไม่ได้ชิมจำพวกแกงป่า เสือร้องไห้ย่าง ฯลฯ ไม่เสียเที่ยวที่ดั้นด้นมาไกลถึงอำเภอจอมบึง ราชบุรี ได้กินอาหารแบบชนบทที่ฝีมือยอดเยี่ยมขนาดร้านดังๆ ในกรุงเทพฯ ต้องมองค้อน
การเดินทางมาร้าน "ปั๋งหงาย" ถ้ามาจากกรุงเทพฯ พอเข้าเขตราชบุรี ก็ขับข้ามสะพานแม่น้ำไป จะเจอ 4 แยกแรก ให้ผ่านไปก่อน พอแยกที่สองเลี้ยวขวาเข้ามาทางถนนเจดีย์หัก (ทล.3087) ก่อนเข้าอำเภอจอมบึง จะผ่านโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึงทางด้านขวามือ ขับรถตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร มีปั๊มปตท.อยู่ด้านขวามือ เลยไปอีกนิด จะเห็นป้ายชื่อ “ปั๋งหงาย” ให้กลับรถมาจอดตามร่มมะขามหน้าร้าน
ร้านอาหารปั๋งหงาย
ทางหลวง 3087 ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี 70150
โทร. 032-261-289
ปิดร้าน 21.00 น.
ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี