ตะลึงกันทั้งสามโลก ขณะที่ทุกคนกำลังดูถ่ายทอดสดการแจกรางวัลออสการ์ ตามเวลา Eastern Time Zone แถบบ้านผู้เขียนนี่ก็น่าจะห้าทุ่มคริส ร็อก ดาราตลกซึ่งทำหน้าที่พิธีกรกำลังเม้ามอยแหย่ดาราคนนั้นทีคนนี้ที จนกระทั่งเล่นมุกตลกโดยเอ่ยถึงภรรยาของวิล สมิธ ที่ป่วยเป็นโรคผมร่วงจนสุดท้ายต้องโกนหัว หลังทนทรมานกับการรักษามานาน โดยที่วิล สมิธ คอยให้กำลังอยู่เคียงข้างตลอดการรักษาอาการป่วยนั้น
สำหรับผู้หญิงทุกคนแล้ว การต้องสูญเสียเส้นผมคือการสูญเสียความมั่นใจอย่างใหญ่หลวง อย่าว่าแต่ดาราเลย คนทั่วไปเราๆ ท่านๆ นี่แหละ แค่ไปร้านตัดผมแล้วตัดหน้าม้าเต่อให้เรานี่ ขาดความเชื่อมั่นไปหลายเดือน จนกว่าผมจะยาวเท่าเดิม นี่ภรรยาวิล สมิธเป็นดาราฮอลลีวู้ดเช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภาวะจิตใจของเธอว่าจะเปราะบางขนาดไหน
โรคผมร่วงของเจดา พิงเค็ตต์ สมิธ ภรรยาของวิล สมิธ คืออาการของโรค Alopecia Areata หรือโรคผมร่วงเป็นหย่อม เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของอาการผมร่วงเป็นหย่อมอย่างเฉียบพลัน นอกจากเกิดบนศีรษะแล้วยังสามารถเกิดขึ้นกับขนบนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ด้วย เช่น คิ้ว หนวด
สาเหตุของโรค Alopecia Areata เกิดจากการอักเสบภายใต้หนังศีรษะ ซึ่งไม่ได้ทำลายรูขุมขนอย่างถาวร หลังจากโรคสงบลง ผมหรือเส้นขนจะสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ โรคนี้ไม่ทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่มีผลกระทบต่อรูปโฉม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจมากกว่าอื่นใด โดยเฉพาะผู้มีอาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับความงาม เช่น ดารา นางแบบ ทั้งหลาย
ความปากเปราะของคริส ร็อก แซวภรรยาวิล สมิธว่า คงจะได้เห็นเธอในบทจีไอเจนนะ จีไอเจนเป็นหนังเก่า ที่ดาราหญิงต้องโกนหัวเพื่อรับบทจีไอเจน ตอนแรกทุกคนหัวเราะ รวมทั้งวิล สมิธ ด้วย แต่ภรรยาของวิลนั้นหน้าเจื่อนสลดวูบทันตาเห็น เมื่อสามีเห็นท่าทางภรรยาสุดที่รัก วิลก็ทำให้คนทั้งโลกช็อคด้วยการเดินอาดๆ ขึ้นเวทีไปตบหน้าคริส ร็อคฉาดเบ้อเริ่ม เล่นเอาหน้าสะบัดไปตามแรงตบมหากาฬ
แซ่บเวอร์ไปกว่านั้นคือ วิล สมิธเดินตัวตรงกลับมานั่งที่แล้วตะโกนด่ากลับขึ้นไปยังคริส ร็อก ย้ำหนักแน่นสุดๆ ว่า
“หุบปากเน่าหนอนของมึงซะ อย่าสะเออะเอ่ยชื่อเมียกูอีก”
นึกดูแล้วกันว่าสื่อทุกสื่อหันขวับไปเล่นข่าวนี้ทั้งโลก แม้กระทั่งสื่อท้องถิ่นในเมืองที่ผู้เขียนอยู่ยังลงข่าวตอนเกือบเที่ยงคืน ซึ่งปกติเพจข่าวท้องถิ่นจะไม่อัพข่าวตอนกลางคืนแต่อย่างใด
ราวกับจังหวะนรก พอด่าจบตบเสร็จ พี่วิล สมิธก็เดินขึ้นเวทีอีกหนเพื่อไปรับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เล่นเอาชาวโลกฮือฮากันอีกรอบ พอได้รางวัลแล้วก็กล่าวทั้งน้ำตา ไม่ได้พูดถึงรางวัลที่ได้ แต่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีใจความตอนหนึ่งที่ชาวโลกแค้ปมาโพสต์กันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ นั่นคือ
“คุณสามารถถูกล่วงเกินได้ ต้องถูกคนพูดจาบ้าๆใส่คุณได้ ในแวดวงนี้ คุณต้องสามารถให้คนดูหมิ่นคุณได้ ขณะที่คุณทำได้แค่ยิ้ม และแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นไร”
นอกจากนั้นยังขอโทษสถาบันที่ตนก่อเรื่องอื้อฉาวขึ้น แต่ไม่ได้เอ่ยขอโทษต่อ คริส ร็อก เลยแม้แต่คำเดียว เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทุกมุมโลก แน่ละ..บรรดาเมียๆ กริ๊ดพี่วิล สมิธ กันโลกแตก แม้พี่วิลจะใช้ความรุนแรงอย่างไม่น่าทำตามก็ตาม หลายคนเห็นด้วยอย่างสุดติ่งกระดิ่งแมว แต่หลายคนด่าโพล่งออกมาว่ากรณีนี้วิล สมิธทำรุนแรงเกินไป
หากถามผู้เขียนแล้ว น่าจะผิดทั้งคู่ คือการล้อเลียนบูลลี่คนป่วยและมีความอ่อนไหวด้านรูปลักษณ์ เป็นเรื่องที่คริส ร็อกไม่ควรทำ อาจจะคะนองปากหรือปากหมาพาไปให้โดนตบ หรือเคยชินว่าในฐานะดาราตลก จะเย้าแหย่แซวใครก็ได้ เพราะดาราที่ถูกล้อเลียนต้องเก็บกลั้นความโกรธไว้เพื่อภาพลักษณ์ของตนเอง ในขณะเดียวกันที่วิล สมิธ เองก็มีจุดเปราะบาง ที่ต้องเผชิญหน้ากับทุกข์ของภรรยามานาน จนทำให้สุดอดกลั้นจนบุกตบคริส ร็อกตามข่าว
ความรุนแรงอาจจะไม่ใช่ทางออกของปัญหา แต่บางทีอาจเป็นทางเลือกที่จำเป็นต้องทำ สำหรับอเมริกันแล้ว ครอบครัวคือสิ่งล้ำค่าที่สุด ไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการปกป้องครอบครัวจากภัยอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งจากการคุกคามของคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะ
เรื่องหนึ่งที่คริส ร็อกควรถูกตำหนิคือ การเอาจุดเปราะบางอ่อนไหวและอาการป่วยมาล้อเล่นบนเวทีระดับโลก เพราะหน้าที่ของคริส ร็อคขณะนั้นคือการเป็นพิธีกร ไม่ใช่มาเล่นตลก
จะว่าไปความปากหมานี่ลามไปถึงทำเนียบขาว ตอนแรกคิดว่าพอไม่มีทรัมป์แล้ว ทำเนียบขาวจะคืนสู่ความสงบและสง่างามอีกครั้ง แต่ผิดหวังเป็นบ้าที่ลุงโจนี่ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย
อาทิตย์ก่อนลุงโจพาคณะเดินทางไปเยือนผู้นำประเทศต่าง ๆ ในยุโรป เพื่อรวบรวมกำลังสนับสนุนสำหรับรัฐบาลยูเครน วันหนึ่งกล่าวสุนทรพจน์ที่โปแลนด์ ปากพาซวยของลุงดันพูดทำนองว่า
“วลาดิมีร์ ปูติน เป็นคนป่าเถื่อน ได้โปรดเถอะพระเจ้า ชายคนนี้จะอยู่ในอำนาจต่อไปไม่ได้”
คำพูดนี้ไม่ได้มีอยู่ในบทพูดที่จัดเตรียมไว้ให้ลุงนี่หว่า แล้วทำไมลุงพูดงี้ล่ะ เล่นเอาชาวโลกปากอ้าตาค้างกันทั่วหน้า เพราะดูทรงแล้วเหมือนส่งสัญญาณว่าให้ โค่นล้มปธน.รัสเซีย หมีขาวเลยคำรามฮึ่มๆ ในถ้ำหมีว่า
“ลุงแซมอย่าเสือก นี่ไม่ใช่เรื่องที่ลุงโจจะมาตัดสินใจแทน อย่าลืมสิว่าประธานาธิบดีรัสเซียมาจากการเลือกตั้ง”
ทำเนียบขาวนั้นสะดุ้งโหยง รีบออกมาแก้ข่าวให้ลุงโจในพลัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอลเตือนว่า ภาษาที่ลุงโจใช้ อาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย
ก่อนหน้านี้ลุงโจก็พลาดไปแล้วหนหนึ่งที่บอกว่าปูตินเป็น “อาชญากรสงคราม” เล่นเอาหมีขาวตบปากกลับไปเต็มแรงว่าประธานาธิบดีดูหมิ่นประธานาธิบดีรัสเซีย แต่ลุงโจคงหลงๆ ลืมๆ ตามประสาชราชน ซึ่งพี่หมีขาวก็หยิบเอาจุดนี้มาเสียดเย้ยว่าคำพูดของไบเดนดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ความเหนื่อยล้า และการหลงลืม
อย่าว่าแต่หมีขาวที่ออกมาด่าเลย แม้แต่คนในพรรคเดโมแครตเองก็ทนความปากหมาผิดจังหวะแบบนี้ไม่ไหว ล่าสุด Tulsi Gabbard อดีต ส.ส. 2 สมัยรัฐฮาวาย สังกัดพรรคเดโมแครตออกมาซัดลุงโจว่า ให้หันมาสนใจปัญหาในอเมริกาก่อนเถอะ ทั้งเรื่องความมั่นคงด้านชายแดน การศึกษา ความปลอดภัยของชุมชน และการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก แต่ดูเหมือนว่าลุงอยากจะเป็นประธานาธิบดีโลกเหลือเกินนะ ถึงไม่แยแสปัญหาที่คนอเมริกันกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ เพราะคิดแต่จะกอบกู้โลก อย่าลืมว่าสุดท้ายคนอเมริกันจะต้องจ่ายกับสิ่งที่ลุงโจทำ
เชื่อไหมว่าในดินแดนเสรีภาพ เราสามารถพบการบูลลี่ได้ทุกหนแห่ง แค่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอื่นก็โดนบูลลี่แล้ว แม้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของวิล สมิธ แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมพระเอกเบอร์หนึ่งถึงตัดสินใจทำแบบนั้น ส่วนที่ไม่เข้าใจคือลุงโจนี่แหละ คิดหน่อยสิลุงว่าการปากหมามีราคาที่ต้องจ่าย และคนที่จ่ายคือพลเมืองอเมริกันอันเป็นที่รักของลุงนั่นเอง
...........................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี