Generation หรือ Gen คือคนในแต่ละยุคสมัย ที่มีพฤติกรรม ค่านิยม ความคิด ความรู้ ความสามารถ ทัศนคติ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่เดิมนักเศรษฐศาสตร์แบ่งไว้ 4 Generations แต่ล่าสุด...MI Group มีเดีย เอเยนซี ได้แบ่งเป็น 6 Generationsโดยเพิ่ม Gen ที่1 กับ Gen ที่ 6 เข้ามาจากที่แบ่งไว้เดิม

ทั้งหมดเป็นการสรุปพฤติกรรมและการเสพสื่อของทั้ง 6 Gen ในสังคมไทย โดยมีเป้าหมายให้นักการตลาดใช้วางกลยุทธ์การสื่อสารให้เข้าถึงแต่ละ Gen ได้อย่างตรงเป้าหมาย

เราต่างก็อยู่ใน Gen นั้นด้วย จึงน่าจะทำความเข้าใจคนในแต่ละ Gen เพื่อลดช่องว่างของการสื่อสาร หรือความไม่เข้าใจต่อกัน

1.The Giver (Silent Gen) อายุ 77-94 ปี ใช้ชีวิตผ่อนคลายหลังเกษียณ -เริ่มปล่อยวางสิ่งรอบตัว -พร้อมส่งต่อความสุขให้แก่ลูกหลาน -เสพสื่อทีวีเป็นหลัก -ใช้สื่อออนไลน์ Line และ YouTube เล็กน้อย

2.The Loyalist (Baby Boomer) อายุ 58-76 ปี อุทิศชีวิตให้กับงานและภักดีต่อองค์กร -ยึดมั่นตามกฎระเบียบ ยากที่จะเปลี่ยนความคิดที่ยึดถือ -ใส่ใจสุขภาพกายและสุขภาพจิต -รับชมสื่อทีวีเป็นประจำ 83% ปี 2022 เสพสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น 19% -เริ่มคอมเมนต์และแชร์บนสื่อโซเชียลมากขึ้น

3.The Life Maker (Gen X) อายุ 42-57 ปีมีเป้าหมาย มุ่งมั่นแสวงหาความก้าวหน้า วัดคุณค่าตามมาตรฐานสังคม -เป็นผู้ประสานความคิดระหว่างเจน Baby Boomer และ Gen Y -ให้ความสำคัญกับการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ -รับชมสื่อทีวีเป็นประจำ 78% -ใช้สื่อออนไลน์ Facebook, YouTube และ Line เป็นหลัก 91% เริ่มใช้ TikTok -ซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 662% ในปี 2022 (เทียบปี 2021)

4.The New Driver (Gen Y) อายุ 26-41 ปีเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ -วัดความสำเร็จโดยดูจากผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ -กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ -ให้ความสำคัญกับ Work-life Balance -ดูทีวีเป็นประจำ 68% -ใช้สื่อออนไลน์ 97% แพลตฟอร์มหลัก Facebook, YouTube, Line และ TikTok -ซื้อของทางออนไลน์สูงขึ้น 227% ในปี 2022 (เทียบปี 2021)

5.The Digital Native (Gen Z) อายุ 12-25 ปี เติบโตในยุคอินเตอร์เนตและโซเชียลมีเดีย -เสพติดความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี -มีความเป็นตัวเองสูงและมีความคิดริเริ่ม -ติดตามเทรนด์แต่นำเทรนด์มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของตนเอง -ใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก 99% ดูทีวี 54% -ใช้แพลตฟอร์มหลากหลายเข้าถึงสื่อกลุ่มใหม่ๆ เปิดรับสื่อและแพลตฟอร์มใหม่ -ซื้อของออนไลน์สูงสุด เล่นเกมออนไลน์สูงเป็นอันดับ 2

6.The AI Kids (Gen Alpha) อายุน้อยกว่า 12 ปีเติบโตและพึ่งพานวัตกรรมและเทคโนโลยีตั้งแต่แรกเริ่ม-สร้างตัวตนและใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ (Multiverse Personal) -พฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตขึ้นอยู่กับเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ -ใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก 99% ดูทีวี 58% -ใช้ Facebook, YouTube, Line และ TikTok -เล่นเกมออนไลน์สูงเป็นอันดับ 1

Gen ที่เป็นพลังสังคมไทยตอนนี้ คือ Gen X Y พวกเขาอยู่ในวัยทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัวตามความพอใจของตน ตามมาด้วย Gen Z ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในวัยทำงานและอีกส่วนหนึ่งอยู่ในวัยเรียน แต่ทั้ง 3 Gen นี้ดำเนินชีวิตเหมือนกัน แต่มีรสนิยมแตกต่างกันบ้าง พวกเขาจึงเป็นทั้ง “ผู้สร้างและผู้เสพ” และเสียงดังที่สุดในสังคม

การแบ่ง Gen เพื่อการตลาดนี้เอง พวกเขาจึงตกอยู่ใน “แผนการตลาด” ที่ถูกกระตุ้นให้เป็นทั้ง “ผู้ซื้อหรือผู้เสพ” อยู่เสมอ แต่แผนการตลาดนี้ไม่ได้มีเพียงด้านเศรษฐกิจเท่านั้น มันยังถูกใช้ด้านการเมืองด้วย

โดยเฉพาะคน Gen Y และ Z ที่นับว่าเป็น “คนรุ่นใหม่”พวกเขาจึงได้ถูกนำไปอยู่ใน “แผนการตลาดของการเมือง”อย่างเนียนๆ และใช้ได้ผลอย่างดีเยี่ยม!

ดูตัวอย่างได้จากพรรคการเมือง พวกเขาสร้าง “แบรนด์” ของพรรคที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และใช้มันเป็นตัวแทนของคนทั้ง 2 Gen ตอกย้ำแบรนด์ด้วยสรรพคุณของสินค้า คือนโยบายที่แตกต่างกับแบรนด์(พรรค)อื่นๆ สร้างภาพฝันและให้สัญญาถึงความหวัง สื่อสารด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทุกช่องทาง การปลุกเร้าใจด้วยวาทกรรมและการประดิษฐ์ถ้อยคำให้เชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์ ตอกย้ำบ่อยๆแล้วยกบุคคลในแบรนด์ให้เป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” แม้ว่าจะไม่มีผลงานอะไรเป็นรูปธรรมเลย!

ร้ายกว่านั้น...ยังตอกลิ่มความแตกแยกทั้ง 2 Gen นี้ กับ Gen อื่นๆ ที่ถือกำเนิดและเป็นพลังสร้างสังคมมาก่อนพวกตน ด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ก่นด่า ด้อยค่า ประณามว่าเป็นพวกล้าหลัง เป็นพวกปรสิตเกาะกินสังคม!

มันเป็นการประกาศอย่างอหังการว่าพวกเขารู้ดีกว่า เหนือกว่า เก่งกว่า และเป็นผู้สร้างสังคม!

จนตอนนี้พวกเขาโดยเฉพาะ Gen Z บางส่วนกำลังจะตัดขาดจากรากเหง้าของบรรพชนไปแล้ว

การได้อยู่ในโลกเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้พวกเขาหลงตน จนลืมคิดไปว่าถ้าไม่มีคนรุ่นก่อนหน้าเป็น “นั่งร้าน” ให้...พวกเขาก็จะไม่มีวันนี้

ลืมไปว่า...ถ้าไม่มีผืนดินที่บรรพชนสร้างไว้ให้เหยียบยืน ก็ไม่สามารถเหยียบยืนอยู่บนเทคโนโลยีได้

ไม่มีคนปลูกข้าวให้กิน ก็ไม่สามารถกินเทคโนโลยีที่ทันสมัยล้ำเลิศแทนข้าวได้

ทุก Gen ล้วนแต่เป็นพลังของสังคมทั้งนั้น ตามแต่สภาพของสังคม มีส่วนร่วม “ก่อร่างสร้างสังคม” หรือประเทศชาติมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นสังคมที่สะพรั่งด้วยวัตถุรูปลักษณ์ตระการตาต่างๆ ที่ล้วนแต่สนองความสะดวกสบายและความพึงพอใจเราจนเลือกไม่ไหว

การที่คนรุ่นใหม่มีชีวิตอยู่ในโลกเทคโนโลยีที่คนรุ่นก่อนตามไม่ทัน และจะก้าวไกลไปสู่นรกหรือสวรรค์ใด...ก็ไม่ควรจะถีบหัวส่งบรรพชน เพียงเพื่อจะได้ประกาศศักดาว่าก้าวหน้ากว่า

วิมล ไทรนิ่มนวล