ทหารสำแดงบทบาทให้เห็นว่าพร้อมจะทำหน้าที่พิทักษ์แผ่นดินไทย ส่วนประชาชนก็ให้กำลังใจ รวมทั้งให้สิ่งของเครื่องใช้ กระทั่งยางรถยนต์เก่าสำหรับทำบังเกอร์ นั่นแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเชื่อมั่นต่อศักยภาพของทหาร ว่าจะปกป้องบ้านเมืองไว้ได้ ไม่ให้ศัตรูรุกล้ำเขตแดน มันมีผลทางจิตวิทยาแก่ประเทศกัมพูชาด้วย
เพราะเมื่อคนไทยสามัคคีกัน ทหารพร้อมจะทำหน้าที่ ประเทศก็ย่อมแข็งแกร่ง มันส่งผลให้มีอำนาจต่อรอง ถ้าอยากเจรจาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศก็ไม่ต้องหงอหรือขอร้อง
ไม่ใช่ประชาชนคลั่งชาติ บ้าความรุนแรงอย่างที่พวกชังชาติ - ล้มเจ้าก่นด่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ต้องขับไล่พวกคนงานเขมรที่อยู่ในเมืองไทยออกไปแล้ว และลุยไปทำอะไรสักอย่างที่ชายแดน
ส่วนทหารก็ไม่ได้บ้าจี้ ไม่เช่นนั้นก็เปิดศึกกับกัมพูชาไปแล้ว แต่ทหารทำอย่างมืออาชีพ มีวุฒิภาวะ และทำอย่างมีขั้นตอน
สงครามไม่ได้ชนะด้วยกำลังพล ประสิทธิภาพของอาวุธ ยุทธศาสตร์ - ยุทธวิธีเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับ “จิตวิทยา” ด้วย แค่นี้เองทำไมพวกชังชาติ - ล้มเจ้าไม่เข้าใจ?
ส่วนผมเข้าใจพวกชังชาติ - ล้มเจ้าดี ที่ออกมาเห่าหอนก่นด่าประชาชนที่รักชาติจนน้ำลายฟูมปากอย่างกับหมาบ้า เพราะเมื่อคนไทยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและให้กำลังใจทหาร นั่นย่อมยึดโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย เมื่อเป็นดังนี้ก็แสดงว่าคนไทยยังยึดมั่นต่อ “ราชาชาตินิยม”
นั่นคือเหตุผลที่พวกชังชาติ - ล้มเจ้าเร่าร้อนต้องออกมาดิ้นด่าคนไทยที่ให้กำลังใจทหารว่า “คลั่งชาติ”
เมื่อราชาชาตินิยมกลับมาสำแดงบทบาทนำในสังคมก็ย่อมมีคนทนไม่ได้ และก็ย่อมมีนักฉกฉวยเอากระแสนี้เป็นประโยชน์ของฝ่ายตนเป็นธรรมดา อย่างเช่น ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นต้น
ปิยบุตรต้องออกมาช่วงชิงบริวารเดิมของพวกเขาที่หันกลับมา “คลั่งชาติ” ดังที่ฝ่ายตนประณาม ให้กลับไปเป็นบริวารของฝ่ายตนอย่างเดิม และอาจเพิ่มเติมคนใหม่ๆ ได้อีก ด้วยการเสนอสิ่งที่เขาเรียกว่า “ชุดความคิดใหม่” คือ “ชาตินิยมแบบใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน หรือชาตินิยมไม่เอากษัตริย์”
เรียกให้สั้นคู่กับราชาชาตินิยมก็คือ “ประชาชาตินิยม”
แต่ไม่ว่าจะเสนอความคิดที่มีคำว่า “ใหม่” กำกับและเน้นย้ำอย่างไร ก็ไม่ได้ช่วยให้ความคิดของคนพวกนี้ใหม่ตามไปด้วย เพราะพื้นฐานของความคิดนั้นมาจากลัทธิมาร์กซ์ ที่เจ๊งไปตั้งแต่ศตวรรษที่แล้ว ผู้คนแทบทุกประเทศเข่นฆ่าทำลายล้างกันบาดเจ็บล้มตายกลายเป็นเครื่องบูชายัญลัทธิมาร์กซ์ไปอย่างสูญเปล่า
คนพวกนี้พยายามดัดแปลงลัทธิมาร์กซ์ให้เข้ากับสังคมไทยหลายอย่าง ทั้งทฤษฎีหลักการ การปล่อยข่าว สร้างข่าวเท็จ และนโยบายประชานิยมของพรรคส้ม จนเหลือแต่ “กากลัทธิมาร์กซ์” เพื่อหลอกล่อคนไทยให้เลือกพรรคส้มและเป็นบริวาร
โดยมีเป้าหมายใหญ่คือ “ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์” และก็มีคนรุ่นใหม่ “วัยขยายอัตตา” เชื่อกันเยอะ
ผมไม่แปลกใจที่คนพวกนี้ออกมาดิ้นทั้งก่นด่าคนที่รักชาติว่าคลั่งชาติ ดูถูกเหยียดหยามสารพัด เห็นใจและเข้าข้างกัมพูชาราวกับพวกตนเป็นชาวกัมพูชาเสียเองและดัดจริตเรียกร้องสันติวิธี
และก็ไม่แปลกใจที่ปิยบุตรออกมาประกาศชุดความคิดใหม่ (ประชาชาตินิยม) เพื่อฉกฉวยกระแสชาตินิยมไว้เป็นของฝ่ายตน นั่นเพราะพวกเขากำลังสูญเสียบริวารที่เคยจงรักภักดีไปมากจนตกใจ!
พวกเขากลัวว่า “จะสูญเสียบริวาร”จนฝ่ายของตนอ่อนกำลังลง และอาจพังทลายไปอย่างรวดเร็ว
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี