คอลัมน์ “สั้นสั้นวันอังคาร” คราวนี้มาตรงกับวันสุดท้ายของปีพ.ศ. 2567 พอดี จึงคิดว่าจะไม่มีอะไรมาก นอกจากการมองย้อนหลังกลับไปในรอบ 1 ปี เพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในสังคมไทย ส่วนจะเอาไปเป็นบทเรียนหรือไม่ก็สุดแท้แต่ เพราะผมเองก็เบื่อคำว่า“ถอดบทเรียน” มากๆ ฟังดูง่ายเหมือนถอดเสื้อผ้ายังไงก็ไม่รู้
ทางการเมืองก็อย่างที่รู้กัน พรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบอีกแล้วครับท่าน ครั้งนี้เป็นนคดีล้มล้างการปกครอง คราวที่เป็น พรรคอนาคตใหม่ ก็ครั้งหนึ่งแล้วกรรมการบริหารพรรค 11 คน ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งห้ามคนเหล่านี้ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง ภายในระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งในคดี ในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ รวมถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค และ ชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค เอาไว้ด้วย
เกือบจะครบปีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ครบ เมื่อ เศรษฐา ทวีสิน ได้กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ว่ากันว่าถูกจับยัดมาเป็นรัฐมนตรีตามคำสั่งของนายซึ่งก็ไม่รู้ว่านายไหน เพราะผมเชื่อว่าเศรษฐา ไม่ได้อยากหลุดจากตำแหน่งนายกฯโดยมีความมัวหมองติดชื่อ ติดนามสกุลไปด้วย
แล้วประเทศไทยก็ได้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 อีกหนึ่งในตระกูลชินวัตร ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขรมถึงอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีสอบเข้ามหาวิทยาลัย รวมถึงสติปัญญาและความสามารถส่วนตัว
ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับบ่นกันว่า “อับอาย” แต่ก็นั่นแหละ เมื่อพรรคเขาไม่อาย และนายใหญ่บัญชามา ใครจะกล้าไปขวาง พร้อมส่งนักการเมืองสูงวัย ซึ่งไม่รู้ว่ามีความสามารถอะไร มาคอยเป็นพี่เลี้ยงผลลัพธ์ก็คือ ถึงวันนี้มีแต่เสียงโอดโอยเรื่องข้าวยากหมากแพง ช่วยไม่ได้ เลือกกันเข้ามาเอง
ปี 2567 ที่ผ่านมา มีคดีใหญ่เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ 3 คดี เรื่องของคนรวยเร็วทั้งนั้น
อันดับแรกคือ คดีบริษัทขายตรง ดิไอคอน กรุ๊ป ที่มี นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือที่รู้จักกันในนาม บอสพอล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บรรดาผู้บริหาร 18 คนที่เรียกกันว่า “บอส” ถูกจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, ความผิดเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง และอื่นๆ ในจำนวนนี้มีคนดังจากวงการบันเทิง ได้แก่ แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี, มิน-พีชญา วัฒนามนตรี และ กันต์ กันตถาวร
คดีนี้พัวพันกับคนมากมาย ทนายดังและนักร้องทางโซเชียลหลายคนก็เข้าไปมีส่วนด้วย และตอนนี้ทนายคนหนึ่งต้องติดคุกไปด้วยข้อหาตบทรัพย์ ทั้งหมดต้องต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมกันไป แต่ระยะหลังมีการล็อบบี้จนผู้ที่เคยแจ้งความไปถอนแจ้งความแล้วนับร้อยราย
พูดถึงทนาย คงไม่มีคดีไหนดังเท่ากับการถูกจับของ ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด แต่คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ ดิไอคอน เป็นคดีที่คนเคยรักชอบและให้การสนับสนุนฟ้องข้อหาฉ้อโกง ความจริงถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่เป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ แต่เผอิญ นายษิทรา เป็นทนายที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองจนกลายเป็นคนดังแถวหน้าของสังคมในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา
เรื่องเงินทองอีกคดีดังคือ อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 สั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหาบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด, นายธนาตรัยฉัตร และ นางสาวกาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทไทยยินตัน ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท
ข่าวดังเพราะ เชน-ธนา เป็นอดีตนักร้อง และมีรายการขายของตามโทรทัศน์ช่องต่างๆ มากมาย เพียงแต่รายนี้ได้รับประกันตัว
ท้ายปีมีข่าวฆาตกรรมที่สะเทือนไปถึงวงการการเมือง นั่นคือการยิง สจ.โต้ง หรือ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดปราจีนบุรี ตายในบ้านของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นักการเมืองและขาใหญ่แห่งเมืองปราจีน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหาไป7 คน รวมถึง นายสุนทร
ขณะที่ยังมีการสืบสวนอยู่ถึงวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็บอกถึงสังคมไทยได้ชัดเจน นั่นคือการมีอยู่ของบรรดาเจ้าพ่อตามพื้นที่ต่างๆ, การมีอยู่อิทธิพลและอำนาจเถื่อน, การเมืองที่ต้องใช้เงินมหาศาลตั้งแต่ระดับท้องถิ่น เพื่อเข้าไปสู่ตำแหน่งที่สามารถทำเงินได้มหาศาลกว่า, การคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่รัฐ ฯลฯ
อีกเรื่องหนึ่งถ้ามีใครสังเกตและรู้สึกว่า มันมากผิดปกติ นั่นคือยาเสพติดและอาวุธปืน ตลอดทั้งปีมีคนตายคนเจ็บเพราะความเกี่ยวพันกับ 2 เรื่องนี้มากขึ้นเป็นเท่าตัว ปืนซื้อง่ายกว่าตั๊กแตนทอดรถเข็น
แต่เอาล่ะ ยังไงผมก็ยังมีความหวัง มองโลกในแง่ดี ปีใหม่นี้ขอพรพระศรีรัตนตรัยอำนวยพรให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง และขออนุญาตใช้คำที่ผมเขียน
มาหลายครั้งในคอลัมน์นี้ “ดูแลตัวเองกันไป”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี