หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ถัดจากนั้นในวันที่ 19 กันยายนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน และคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นรัฐบาลบริหารประเทศไทย และอีก 5 วัน ต่อมา นายกฯ อนุทิน ก็นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
เป็นอันว่าครบถ้วนกระบวนความ หลังจากนี้นายกฯคนที่ 32 พร้อมกับคณะรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองต่างๆ และคนนอกบางส่วน ต้องลงมือทำงาน โดยมีพรรคใหญ่ 2 พรรคเป็นฝ่ายค้าน
คนที่ติดตามการเมืองจะรู้ว่าอนุทิน เป็นลูกชายของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นักธุรกิจใหญ่เจ้าของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับงานก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ จากรัฐบาลหลายยุคอย่าง สนามบินสุวรรณภูมิ หรืออาคารรัฐสภาราคาหลายหมื่นล้านบาทที่ขอขยายสัญญาเลื่อนมาเรื่อย กว่าจะเสร็จรับมอบงานสมบูรณ์ก็ปาเข้าไป 9 ปี
แน่นอนว่า การทำธุรกิจรับงานระดับเมกะโปรเจกท์ นายชวรัตน์ ต้องคลุกคลีมีสายสัมพันธ์กับผู้คนในแวดวงการเมืองมากมายจนกระทั่งเข้ามาเป็นนักการเมืองเสียเอง สังกัดมาหลายพรรคและเป็นรัฐมนตรีหลายสมัย รักษาการนายกรัฐมนตรีก็เคยเป็นมาแล้ว อนุทิน ก็มาตามเส้นทางนั้นเป๊ะๆ และสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจากพ่อด้วย
พรรคภูมิใจไทยก็มาจากการรวมตัวกันของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของ ทักษิณ-พจมาน ที่ถูกยุบไป คือ กลุ่มเพื่อนเนวิน (ชิดชอบ) และกลุ่มมัชฌิมาของ สมศักดิ์-สุริยะ จึงไม่แปลกที่จะมีคำว่า “คนละพรรค แต่พวกเดียวกัน” นิสัยก็น่าจะคล้ายๆ กัน คือ เป็นฝ่ายค้านแล้วจะเกิดอาการตะครั่นตะครอ
และไม่แปลกอีกเช่นกันที่ อนุทิน ผู้เคยสนิทสนมกับ ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วก็มาเป็นอดีตรัฐมนตรีในของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่เคยถูก พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ
ความฉลาดและเหลี่ยมคูทางการเมืองของ อนุทิน นั้นหายห่วง พอมีเรื่องโทรศัพท์ออดอ้อนระหว่าง หลานอิ๊งค์ กับ อังเคิลฮุน พรรคภูมิใจไทยก็ถอนตัวออกจากคณะรัฐมนตรีของนายกฯแพทองธาร ทันที และย้ายไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เท่ไปเลย
เรื่องไร้สาระที่สุดคือ รัฐบาลชุดนี้มีเวลาทำงานแค่ 4 เดือน เพราะดันไปทำ MOA ย่อมาจาก Memorandum of Agreement หรือบันทึกข้อตกลงกับพรรคประชาชน (ประเทศนี้ชักจะดัดจริตใช้คำย่อภาษาอังกฤษกันเยอะเกินไปแล้ว)
เงื่อนไขของพรรคประชาชนผู้มีพฤติกรรมอันแปลกประหลาดอยู่เป็นนิจ จนโดนยุบพรรคไป 2 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ให้ยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 4 เดือน, พรรครัฐบาลต้องร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับพ.ศ. 2560, รัฐบาลต้องจัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
และที่ฮามากคือ หลังจากช่วยโหวตให้ อนุทิน เป็นนายกฯแล้ว พรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาล ขอเป็นเพียงฝ่ายค้าน ไม่รู้โลกนี้เคยมีมาก่อนหรือเปล่า และคล้ายออกคำสั่งให้ นายอนุทิน ห้ามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก เป็นเงื่อนไขที่เข้มข้นดุดันระดับที่ฝรั่งเรียกว่า naïve
อนุทิน อยากจะเป็นนายกฯใจจะขาดหรือเปล่าไม่ทราบได้ ดูทรงแล้วน่าจะเป็นอย่างนั้น และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ แพทองธาร ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง อนุทิน ปฏิบัติการเดินสายเจรจากับพรรคต่างๆ อย่างรวดเร็ว จนได้มาเป็นนายกฯคนที่ 32
เหตุที่ยอมรับปากในเงื่อนไขที่พรรคประชาชนเสนอมา เพราะเสียงของพรรคภูมิใจไทยของตนมีอยู่แค่ 62 คน จำเป็นต้องได้เสียงจากพรรคประชาชนมาช่วยโหวตให้เป็นนายกฯ แต่อาจจะอ้างได้ว่าไม่ต้องการให้ประเทศไทยเกิดสุญญากาศ ไม่มีรัฐบาลทำหน้าที่บริหาร เท่ไปอีกแบบ
ครั้นจะไปขอเสียงจากพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งหลุดจากรัฐบาลไปทั้งพวงก็คงไม่ได้ บิดามารดาแห่งพรรคเพื่อไทยคงไม่ยินดีที่ทอดทิ้งลูกสาวของพวกเขาอย่างไม่ดูดำดูดี แม้ว่าจะเคยกินไวน์ร้องคาราโอเกะกันมาก่อนก็ตาม
ขณะที่บรรดาคนระดับมันสมองที่กุมชะตาพรรคประชาชน อาจคิดว่าการเป็นฝ่ายค้านจะมีโอกาสตีตื้นความนิยมกลับมาได้มากสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือเอาเข้าจริง ไม่กล้าที่จะรับหน้าที่ในตำแหน่งบริหาร เพราะหันดูตัวบุคลากรทั้งพรรคแล้ว ดูจะออกไปทางชมรมนักโต้วาทีงานปิดภาคตามโรงเรียน ยังไม่รู้ว่าจะมีใครมีความสามารถจริงๆ หรือเปล่า
ดังนั้น แทนที่เราจะได้รัฐบาลที่มาทำงานให้บ้านเมืองแบบต่อเนื่อง แก้ปัญหาที่สุมกองเป็นภูเขาเลากา กลับมีเวลาแค่ 4 เดือน พูดแบบบ้านๆ ก็คือ “ตดยังไม่ทันหายเหม็น” แผนระยะยาวไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้หลักๆ ก็คงคิดได้แค่ว่า จะใช้เวลา 4 เดือนนี้อย่างไรเพื่อให้ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งหน้า
ทิวา สารจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี