วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คนเคยไปถนนสายบันเทิงที่เรียกว่า โครงการ “อาร์ซีเอ” หรือ รอยัล ซิตี้ อเวนิว มาก่อน และไม่ได้ไปมานานแล้ว ถ้าไปตอนนี้อาจจะตกใจว่า กลายเป็นเขตยึดครองของประเทศจีนไปแล้วหรือ เพราะร้านรวงที่เป็นของคนจีนขึ้นกันพรึ่บ
ส่วนร้านค้าและสำนักงานต่างๆ ของคนไทยจำนวนมาก โยกย้ายและเลิกรากันไปเยอะ เพราะสู้ค่าเช่าที่ขึ้นมาเรื่อยๆไม่ไหว เหลือพวกที่อยู่ดั้งเดิมไม่กี่เจ้า เข้าใจว่าทางโครงการขึ้นราคาแบบไม่ต้องแคร์ลูกค้าคนไทย เพราะมีคนจีนมาเช่า
น่าสังเกตว่า ร้านของคนจีนที่ดูเหมือนจะตั้งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ก็ไม่ได้มีลูกค้ามากมายจนน่าจะทำกำไรมหาศาลแต่อย่างใด หนักไปทางนั่งบีบสิว, เล่นเกมในมือถือ ฯลฯ แต่ยังมีร้านที่กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หรือเปิดใหม่ๆเพิ่มขึ้นเป็นระยะ
น่าแปลกว่า คนจีนพวกนี้ไม่เกี่ยงเรื่องค่าเช่า, สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ และการหดหายอย่างเห็นได้ชัดของนักท่องเที่ยวจีน กระทั่งในช่วงโควิด-19 ระบาด ยังมีการก่อสร้างคลับใหญ่ยักษ์ตรงอาคารที่ตั้งโรงหนังแบบคอมเพล็กซ์ ซึ่งห่างจากสน.งานตำรวจท้องที่ไม่น่าเกิน 200 เมตร
วิสัยของคนทำการค้าโดยธรรมชาติ ถ้าไม่มีกำไร หรือทำท่าจะป้อแป้ไม่คุ้มทุน เพราะทำเท่าไหร่ก็ส่งค่าเช่าหมด ย่อมต้องหยุดกิจการ หรือไม่ก็โยกย้ายไปหาทำเลอื่น แต่ร้านของคนจีนยังผุดขึ้นเรื่อยๆ
ก็น่าสงสัยว่า คนพวกนี้มองการณ์ไกล เห็นอนาคตอันเรืองรอง หรือมีอะไรอย่างอื่นแอบแฝง ส่วนตำรวจในสำนักงานตรงนั้นจะสงสัยเหมือนคนทั่วไปหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบ
ที่เขียนเล่าบรรยากาศย่านหนึ่งที่เคยคึกคักสุดๆ ในอดีตเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา เพราะตอนนี้มีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับตำรวจปะทะตำรวจ ถ้าเป็นหนังจีนอาจจะตั้งชื่อว่า “ใหญ่ฟัดใหญ่ ใครจะกลิ้ง” และไม่ใช่แค่ตำรวจ ยังได้อารมณ์เหมือนแทงพนันฟุตบอลครึ่งควบลูก ลามไปถึงนักการเมืองชั้นล่าง จนถึงอดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างที่เข้าใจกัน องค์กรอะไรก็ตามที่มีคนเลวอยู่มากกว่าคนดีก็จะอยู่ไม่ได้ แม้แต่แก๊งมาเฟีย พอใหญ่โตขึ้นมาก็หักหลังฆ่าฟันกันเอง ดังนั้น องค์กรตำรวจก็ต้องมีตำรวจดีอยู่แน่ๆ เพราะจะอย่างไรก็ยังมีกฎระเบียบข้อบังคับทางราชการค้ำคออยู่ แต่กระนั้นตำรวจเลวก็มีอยู่เช่นกัน และมักได้ขึ้นตำแหน่งใหญ่ๆ เอาเงินรายได้พิเศษในทางลับวิ่งซื้อตำแหน่งอีกที
ทีนี้ พอตำแหน่งใหญ่ขึ้น ใครจะมาจิ้มก้องให้แบบร้านคาราโอเกะริมถนน, บาร์เหล้า หรืออาบ-อบ-นวดโทรมๆ ของเฮียสมัยบุร่ำบุราณ ก็จะจิ๊บๆ เกินไปมันก็ต้องหลักสิบหลักร้อยล้านขึ้นไปถึงจะสมฐานะ
งานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับตำรวจตามสถาบันต่างๆ ตอนนี้ น่าจะมีนับร้อยๆ ชุด และเชื่อว่ามากมายหลายชุดในจำนวนนั้น ต้องพูดถึงปัญหาสังคมและอาชญากรรมที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ในฐานะผู้ควบคุมดูแลความสงบสุขของสังคม แต่เป็น “ตัวปัญหา” เสียเอง
ผมว่าดีนะ ตำรวจออกมาตีแผ่ตำรวจด้วยกันสมัยก่อนย้อนไปราวๆ 50 ปี ที่โด่งดังก็มี พ.ต.ต.อนันต์ เสนาขันธ์ หรือฉายา “ผู้พันอันตราย” จากนั้นก็มีตำรวจที่ออกมาเผยด้านมืดของตำรวจด้วยกันเป็นระยะ เพียงแต่ไม่อึกทึกครึกโครมเหมือนครั้ง พ.ต.ต.อนันต์ เสนาขันธ์
คราวนี้ต่างออกไปเยอะ และอึกทึกครึกโครมกว่ามาก เพราะอยู่ในยุคของข่าวสารทางโซเชียลมีเดียที่แพร่ไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว และคนที่ออกหน้าก็เป็นถึงพลตำรวจเอก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ที่เคยถูกคาดหมายกันว่าจะขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุด
จะมีใครรู้ไส้รู้พุงตำรวจไปมากกว่าตำรวจด้วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่ออกมาแฉก็ยอมรับเองว่า “ผมก็เทาๆ แต่ยังไม่ถึงกับดำ” บางคนที่มีอารมณ์ขันก็บอกว่า สถานการณ์ของวงการตำรวจตอนนี้ สมชื่อเล่นของอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจคนนั้น คือ “เละเป็นโจ๊ก”
แน่นอนว่า การออกมาตีแผ่เส้นสนกลในของตำรวจที่พัวพันกับแก๊งอาชญากรรม จะทำให้วงการตำรวจเองรู้สึกเสื่อมเสีย แต่ผมว่ากลับดีสำหรับสังคม รวมไปถึงธุรกิจของประชาชนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ตำรวจที่จะคิดคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเรื่องเงิน หรือการใช้อำนาจในมือรังแกคนอื่น เกิดความยั้งคิดได้บ้าง
ฝีบางหัวใช้เข็มเล็กๆ บ่งก็ออก แต่ฝีหัวใหญ่รากลึกก็ควรต้องผ่าตัดขุดรากถอนโคน
ตำรวจทะเลาะกันนี่แหละดีแล้ว เพราะถ้าเขาหวานจ๋อยเย็นเจ๊ยบดีกันหมด เราจะไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร และไม่รู้ว่า ประเทศชาติเสียหายไปแล้วเท่าไรจากน้ำมือตำรวจเลว
ทิวา สาระจูฑะ

‘รมว.ศธ.’ห่วงใยสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ กำชับเฝ้าระวัง 24 ชม. ดูแลครู-นักเรียนใกล้ชิด
นายกฯเตรียมลงพื้นที่ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ให้กำลังใจกำลังพลพรุ่งนี้
'สส.ท็อป-สส.ยอร์ช'มอบถุงยังชีพ อธิบายเส้นทางน้ำจาก'เหนือ'ออก'อ่าวไทย'
'อนุทิน'ลั่น! เนรเทศด่วน ผู้ลักลอบเข้าเมือง ย้ำชัด'ไทยไม่ใช่พื้นที่พักพิงอาชญากรข้ามชาติ'
เรื่องราว‘ทีมหมอนทอง’ โมเดล-ต่อยอด สร้างความสมัครสมานสามัคคี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี