ถาม คุณหมอครับ ผมเคยถูกแฟนทิ้งไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ยังน้อยใจไม่หาย แล้วยังถูกนายจ้างจับผิดไล่ออกจากงานในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะนี้ผมหางานใหม่ได้แล้ว เป็นงานที่ดีถูกใจ เงินเดือนตำแหน่งก็ดี แต่ยังนึกน้อยใจว่าไม่มีวาสนา และเจ็บใจตัวเองตลอดที่โชคร้ายถูกแฟนทิ้งและนายไล่ออกจากงานในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะนี้เลยเป็นคนบ้างานและไม่อยากมีแฟน อายุเกือบ 36 ปีแล้วครับ อารมณ์ไม่ดีเลย อยากอารมณ์ดีบ้างครับ
“สุชาย”
ตอบ คุณมีความคิดซ้ำๆ ว่าตัวเอง “ไม่มีวาสนา” และ “โชคร้าย” ที่ถูกแฟนทิ้งและนายหาเรื่องไล่ออกจากงานมาตั้ง 5 ปีแล้ว ทำให้คุณเป็นคนที่มีอารมณ์ไม่ดี เศร้าหมอง หมดความสุขตลอดมา
ถ้าเราพลิกความเชื่อเสียใหม่ไม่เชื่อตามความเชื่อเก่าๆ คิดแบบมีเหตุผลมากขึ้น เราก็จะรู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งที่พอใจและไม่พอใจนั้น ล้วนเป็นเหตุการณ์ปกติธรรมดาทั้งนั้น เพราะเป็นความไม่แน่นอน (อนิจจัง) และเป็นสิ่งที่เรายึดครองไม่ได้ (อนัตตา) ทั้งสิ้น ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นความจริงแท้แน่นอน เป็นธรรมชาติแท้ๆ ตามหลักพุทธศาสนาที่ทุกคนต้องประสบแน่ๆ ไม่ใช่สิ่งประหลาดหรือโชคร้ายที่ไหนเลย
ต้องตั้งสติให้ดี อย่าคิดสงสารตัวเอง ถ้าสงสารตัวเองมากๆ อาจเป็นโรคซึมเศร้าได้
จงคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความปกติทั้งสิ้น ทั้งเรื่องแฟนทิ้งหรือตกงาน
วิธีคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ
1.การถูกแฟนทิ้งหรือนายไล่ออกจากงาน เป็นเหตุการณ์ที่พบได้ทั่วไป ที่คุณรู้สึกไม่ดีนั้นเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากตัวคุณเองกับเหตุการณ์เหล่านั้น แต่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ทำให้คุณต้องเศร้าหรือโชคร้ายเลย
2.หันมาจัดการกับความคิดและอารมณ์ที่มากมายเกินกว่าเหตุของคุณเสีย ด้วยการฝึกให้มีความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น เช่น ให้คิดว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดนั้นเป็นเหตุการณ์ตามปกติของมัน
เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกโกรธ น้อยใจ หรือไม่โกรธ ไม่น้อยใจก็ได้
แต่ก็รู้แล้วว่าการเกิดความโกรธหรือน้อยใจจะมีสารเคมีชนิดไม่ดีหลั่งในสมอง ทำให้ทุกข์และเครียด เราก็ควรจะเลือกตัดสินใจว่า “ไม่โกรธ ไม่น้อยใจ” ดีกว่า
หัดคิดช้าๆ อย่างใจเย็นและมีเหตุผล มองภาพตัวเองให้ดีและปกติเอาไว้ ไม่วิจารณ์หรือต่อว่าตัวเอง อย่ารู้สึกตามความคิดและอารมณ์ที่ไม่ดีกับตัวเอง อย่าสงสารตัวเองด้วย เพราะจะกลายเป็นคนอารมณ์เสียเรื้อรัง
ที่คุณรู้สึกไม่ดีเพราะคุณรู้สึกเสียหน้า เสียความมั่นใจตัวเอง แต่เราควรเรียนรู้ที่จะไม่โกรธ ไม่น้อยใจ โดยยังรักษาความเชื่อมั่นตัวเองเอาไว้
อย่าเสียเวลาติดอยู่ในภาพความคิดซ้ำๆ ที่ไม่ดีกับตัวเองเลย
3.ถ้าจะคิดแบบแนวพุทธศาสนา ก็ให้คิดว่าคุณเคยทำกรรมที่ไม่ดีกับแฟนและนายเอาไว้ ทำให้ต้องมาชดใช้ชีวิตบางส่วนร่วมกันและชดใช้กรรมกัน และก็ได้ชดใช้ให้แล้ว หมดสิ้นกันไปแล้ว หัดตั้งสติให้มั่นแล้วคุณจะรู้สักปลดปล่อยความโกรธและน้อยใจลงได้ อโหสิกรรมกันไปเถิด
หันมาไชโยกับชีวิตดีกว่าครับ
(ถ้าเศร้าไม่หาย อาจต้องการจิตแพทย์เพื่อวิเคราะห์สาเหตุอื่นๆ ที่แท้ด้วย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี