วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการพูดกันอย่างมากในสังคมออนไลน์ เนื่องจากว่ามีชาวบ้านนับร้อยคน ในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ป่วยด้วยอาการ “ผื่นคัน” หลังการดำนา โดยพบการมีตุ่มแดง คัน และเป็นผื่นนูนตามแขนขาอย่างน่ากลัว ซึ่งมีผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ถึง 7 ตำบล ทั้งหมดมีผื่นมีลักษณะจำเพาะ คือเป็นที่ขาทั้ง 2 ข้างและแขนข้างที่ถนัด หลังจากนั้นก็ได้มีการพิสูจน์แล้ว ว่ามีสาเหตุมาจาก “โรคหอยคัน” ที่เกิดจาก “ตัวอ่อน” ของ “พยาธิใบไม้ในเลือด” ที่อยู่ในตัว “หอยคัน”
ซึ่งเป็นหอยขนาดเล็กที่อยู่ในนาข้าว เนื่องจากเกิดในช่วงที่ชาวบ้าน “ดำนา”โดยรอยโรคเกิดที่ขาทั้ง 2 ข้าง (ที่แช่น้ำ) และเกิดกับมือข้างที่ถนัด (เฉพาะบริเวณที่แช่น้ำลงไปปักดำกล้าเท่านั้น) ส่วนแขนอีกข้างที่ไม่ได้สัมผัสน้ำจะไม่มีผื่น รวมถึงไม่มีผื่นบริเวณร่มผ้าหรือบริเวณอื่นที่ไม่สัมผัสน้ำด้วย
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคที่เกิดจาก “หอยคัน” นี้กันครับโดยข้อมูลจาก รศ.น.สพ.ดร.ปิยนันท์ ทวีถาวรสวัสดิ์ จากหน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งอาจารย์ได้ให้ข้อมูลว่า รอยโรคที่แขน-ขานี้คือ Cercarial dermatitis ที่เกิดจากตัวอ่อนของ “พยาธิใบไม้ในเลือด” ซึ่งตัวอ่อนในระยะเซอร์คาร์เลียไชเข้าสู่ผิวหนังเกษตรกรที่ไปดำนา
โรคพยาธิใบไม้ในเลือด (Schistosomosis) เกิดจากพยาธิใบไม้ในเลือด ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schistosoma spindale ทำอันตรายหลักให้กับ “โค-กระบือ” โดยตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ในหลอดเลือดดำ mesenteric vein ที่เยื่อยึดลำไส้ หลังจากพยาธิตัวผู้ตัวเมียผสมพันธุ์กัน จะปล่อยไข่พยาธิออกมา ไข่พยาธิจะปนเปื้อนออกมากับอุจจาระของโค-กระบือ ซึ่งโดยธรรมชาติของโค-กระบือจะชอบแช่น้ำอยู่ตามปลักหรือแหล่งน้ำ ไข่ที่มีในอุจจาระก็จะกระจายไปในแหล่งน้ำที่มีหอยน้ำจืดอาศัยอยู่
หอยชนิดที่มีความสำคัญสำหรับโรคนี้คือ หอยสกุล อินโดพลานอร์บิส (Indoplanorbis) ดังรูปที่ 1 ซึ่งหอยชนิดนี้จัดเป็นโฮสต์กึ่งกลางที่สำคัญในประเทศไทย เมื่อไข่พยาธิปนเปื้อนออกมาในแหล่งน้ำตัวอ่อนระยะที่หนึ่ง (ไมราซิเดียม) ที่อยู่ในไข่ จะสามารถไชเข้าหอยหรือถูกหอยกินเข้าไป และเจริญไปเป็นตัวอ่อนระยะถัดมา (ระยะที่สอง และสาม)คือ sporocyst และ daughter sporocyst จนกลายเป็นตัวอ่อนระยะที่สี่ชื่อว่า เซอร์คาร์เลีย cercaria (รูปที่ 2) ซึ่ง Cercaris จะออกจากหอย เตรียมไชเข้าสู่โฮสต์สุดท้าย ซึ่งก็คือ โค-กระบือ ก่อนที่จะไปเป็นตัวเต็มวัยที่หลอดเลือดดำ mesenteric vein ที่เยื่อแขวนลำไส้ของโค-กระบืออีกครั้ง (ดังรูปที่ 3)
กรณีที่เกิดขึ้นตามข่าวนั้น คือ เซอร์คาร์เลียไชเข้าสู่คนที่มาทำงานในทุ่งนา (ที่มีหอยชนิดนี้อาศัยอยู่) จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง ที่เกิดจากการไชของตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ เรียกว่า“Cercarial dermatitis” ซึ่งจะสังเกตเห็นการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จึงทำให้เห็นเป็นลักษณะของตุ่มหนองเกิดขึ้น ยังโชคดีที่ “คน” ไม่ใช่โฮสต์แท้ จึงไม่สามารถไปเจริญเป็นตัวเต็มวัยได้เหมือนในโค-กระบือ
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ กำจัดหอย ซึ่งเป็นโฮสต์กึ่งกลางของพยาธิชนิดนี้ โดยการควบคุมการแพร่พันธุ์ของหอยที่เป็นโฮสต์กึ่งกลางของพยาธิชนิดนี้ และรวมไปถึงการป้องกันไม่ให้มีการเลี้ยง โค-กระบือ ใกล้แหล่งน้ำที่มีหอยน้ำจืดชนิดนี้ ซึ่งน่าจะเป็นการตัดวงจรที่ดีที่สุด และที่สำคัญควรให้ความรู้เกี่ยวกับพยาธิชนิดนี้แก่บุคคลที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยง เพื่อที่บุคคลเหล่านั้นตระหนัก สังเกต และสามารถระวังตัวเองได้
จะเห็นว่าวงจรชีวิตของพยาธิจะมี “หอยคัน” และ “โค-กระบือ”ซึ่งมี “แหล่งน้ำ” มาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการให้ความรู้และการกำจัดหอยในแหล่งน้ำ น่าจะเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายที่สุด (ง่ายกว่าการกำจัดโค-กระบือนะครับ) ทั้งนี้ยังมีรายงานว่าพบโรคนี้ในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว ด้วยดังนั้นผู้ที่อยู่ในชนบทที่ใกล้แหล่งน้ำ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อสูงกว่าผู้ที่อาศัยในเมือง และนอกจากที่เราจะป้องกันตัวเองแล้ว คงต้องขอฝากให้ดูแลสุนัขและแมวที่เลี้ยง ไม่ให้ไปซนหรือเล่นน้ำในแหล่งน้ำที่มีหอยชนิดนี้อาศัยอยู่ด้วยครับ
.jpg)
รูปที่ 1 หอยอินโดพลานอร์บิส
.jpg)
รูปที่ 2 เซอร์คาร์เลีย
.jpg)
รูปที่ 3 วงชีวิตของพยาธิใบไม้ในเลือด
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

'บังโต'เตือนสติ! แนะคนไทยไป'ญี่ปุ่น'ต้องมีวินัย-มารยาทพื้นฐาน
เซ็นตั้ง ‘อัยการสอบสวน’ ทำคดีพระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัดเปย์สีกา หลังอสส.ชี้เป็นคดีนอกราชฯ
ดีที่สุดเท่าที่มีแล้ว! ‘นิกร’รับได้สูตร‘20หยิบ1’ ชี้ยุติธรรมพอสมควร
ครม.ตั้ง‘สรพงค์ ศรียานงค์’นั่งรองเลขาธิการ สมช. คนใหม่
สลดก่อนวันบวชลูก! หญิงวัย 43 ขี่ จยย.ถูกกระบะชนดับคาที่บนถนนหล่มสัก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี