สถานการณ์ของโรคฝีดาษวานรทั่วโลกและในทวีปยุโรป
ข้อมูลจนถึงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๖ มีผู้ป่วยทั้งสิ้น ๘๙,๓๐๘ รายจาก ๑๑๓ ประเทศ และในช่วงเดือนก.ค. ถึง ส.ค. ๒๕๖๖ ใน ๓ สัปดาห์สุดท้ายมีรายใหม่ จำนวน ๒๙๓ ราย เชื้อไวรัสเป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก (ยืนยันจากการตรวจลำดับยีนในตัวอย่างจาก ๔๘๗ ราย) เริ่มพบรายแรกของการระบาดครั้งนี้ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๕ มีผู้ติดเชื้อเป็นเพศชายถึงร้อยละ ๙๖.๗ อายุเฉลี่ย ๓๔ ปี และติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรพบว่าติดเชื้อไวรัส HIV ร้อยละ ๕๒ ผู้ติดเชื้อ ๑๕๒ รายเสียชีวิตไปแล้ว ในยุโรปพบว่าบุคลากรทางการแพทย์จำนวน ๕ รายติดเชื้อจากการดูแลผู้ติดเชื้อ (มี ๔ ราย ที่สวมชุดป้องกัน PPE แล้วก็ยังติดเชื้อจนได้) แม้ว่าการระบาดจะลดลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนน้อยๆ รายงานเข้ามาจากหลายประเทศดังที่เห็นในรายงานจากทวีปยุโรป
ตารางแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรสะสมตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๖ แบ่งตามภูมิภาค ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก
สถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย
ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในไทยจนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ พบว่ามีจำนวน๓๑๖ ราย โดยอยู่ใน กทม. ๑๙๘ ราย จ.ชลบุรี ๒๒ ราย จ.นนทบุรี ๑๗ ราย และ จ.สมุทรปราการ๑๒ ราย ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีอายุ ๓๐-๓๙ ปี มีถึง ๑๕๒ ราย รองลงมาคือช่วงอายุ ๒๐-๒๙ ปีจำนวน ๘๕ ราย และเริ่มพบในกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง ๑๕-๒๔ ปี จำนวน ๒๘ ราย
หากนับตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค. ถึง ๑๕ ส.ค. ๒๕๖๖ พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในไทยรวม ๒๑๗ ราย เป็นชาวต่างชาติ ๓๐ ราย คนไทย ๑๘๗ ราย อายุเฉลี่ยตั้งแต่ ๒๐-๖๔ ปีโดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว ดังนั้นตั้งแต่กลางปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนเพิ่มแบบก้าวกระโดดใน ๑๙ จังหวัด และติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก หรือสัมผัสโดยตรงกับบริเวณผิวหนังที่เป็นตุ่มหนอง กลุ่มติดเชื้อ HIV มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อเพราะพบในผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรถึงร้อยละ ๕๐ ตอนแรกที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรในไทยเมื่อเดือนก.ค. พ.ศ. ๒๕๖๕ ส่วนใหญ่ยังเป็นชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่ในปีนี้ผู้ติดเชื้อเป็นคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พบมากในกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย และสุดท้ายก็มีคนไทย ๑ ราย ที่ตายจากโรคนี้
เชื้อไวรัสฝีดาษวานรมีกี่สายพันธุ์?
เชื้อไวรัสฝีดาษวานร (mpox virus) มี ๒ สายพันธุ์หลักเรียกว่า Clade 1 พบในแอฟริกากลาง และ Clade 2 พบในแอฟริกาตะวันตก สายพันธุ์ Clade 1 ระบาดเก่งกว่าและมีอัตราตายจากการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ ๑๐ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในทวีปยุโรปและในเอเชียรวมถึงประเทศไทยจะเกิดจาก Clade 2 ซึ่งมีสายพันธุ์ย่อยคือ Clade 2b ที่กำลังระบาด อัตราตายอยู่ที่ร้อยละ ๑ เท่านั้น
วิธีการติดต่อของเชื้อไวรัสฝีดาษวานร
การติดต่อจากสัตว์สู่คนโดยการสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือแผลของสัตว์ป่าไม่ใช่วิธีการติดต่อในประเทศไทย
โรคนี้จะติดต่อจากคนติดเชื้อไปสู่คนในประเทศไทย พบว่าร้อยละ ๙๕ ติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคในผู้ติดเชื้อขณะมีกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะชายกับชาย ผู้ติดเชื้อส่วนมากจะไม่รู้ตัวว่ากำลังติดเชื้อและอยู่ในระยะแพร่เชื้อเพราะเพิ่งเริ่มมีอาการในวันที่ ๑ หรือ ๒ ของโรคโดยยังไม่มีไข้ ผื่นมีจำนวนน้อย อยู่บริเวณอวัยวะเพศได้แต่เห็นไม่ชัด ผู้ที่ไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยจะไม่เห็นผื่นในผู้ติดเชื้อ หรือแม้แต่การไปถามผู้ติดเชื้อว่า “ป่วยอยู่หรือไม่” ก็จะได้คำตอบว่า“ไม่ได้ป่วย(เพราะตนเองยังไม่รู้สึกว่าป่วย)” การไปตรวจดูผื่น/ตุ่มพุพองหรือการถามอาการป่วยจึงไม่ได้ช่วยในการป้องกันการติดเชื้อ การสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ใช่วิธีที่ป้องกันการติดเชื้อชนิดนี้เพราะเชื้อกระจายอยู่ตามผื่น/ตุ่มที่ผิวหนังในบริเวณอื่นได้ แต่ให้สวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคอื่นๆ ที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ข้อมูลของความนิยมของการมีเพศสัมพันธ์จากผู้ป่วยชายที่ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงจำนวน ๒๕,๓๙๖ รายในทวีปยุโรป
ข้อมูลจากตารางที่ 5 Summary of reported sexual orientations among male cases of mpox, European Region, TESSy, 2022–2023
นอกจากนี้ การสัมผัสสิ่งคัดหลั่งจากผื่น ตุ่มแผลต่างๆ ของผู้ติดเชื้อ หรือตามผ้าปูที่นอน ทำให้เชื้อติดมาที่มือและเมื่อใช้มือจับกับผิวหนังของตนเองที่มีแผลหรือขยี้ตา เชื้อเข้าไปถูกเยื่อบุตาหรือในช่องปาก ก็จะทำให้ผู้นั้นติดเชื้อได้
ส่วนการสูดดมสิ่งคัดหลั่งที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไปในระบบทางหายใจ เป็นวิธีที่แพร่เชื้อจากคนสู่คนที่พบน้อยมาก
อาการของโรคฝีดาษวานร
ผื่นจะเป็นอาการแรกที่เกิดขึ้นและพบถึงร้อยละ ๙๖ ผื่นอยู่ได้นานถึง ๒ ถึง ๔ สัปดาห์ต่อมาผื่นจะกลายเป็นตุ่มพุพองขนาดเล็กและอยู่รวมเป็นกลุ่มได้ อาการอื่นๆ ได้แก่ไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ รวมกันแล้วพบได้ร้อยละ ๖๘ บางรายมีแผลในช่องปาก เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต พบผื่น/ตุ่มพุพองได้ที่อวัยวะเพศ บริเวณก้นและรอบทวารหนักถึงร้อยละ ๗๕ บางรายปวดบริเวณทวารหนักหรือมีเลือดออกได้ด้วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายได้เอง อาการรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ป่วยที่ได้ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษามะเร็ง และผู้ป่วยเอดส์เต็มขั้น (ที่ไม่ได้ยาต้านไวรัส) ผู้ที่มีอาการรุนแรงจะมีตุ่มพุพองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและกระจายไปทั่วร่างกาย เช่น ในช่องปาก เยื่อบุตา ตาแดงจัด และมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม บางรายผื่นขยายใหญ่ขึ้นเป็นเนื้อตายสีดำ การกระจายของเชื้อไปทั่วร่างกายทำให้เกิดรอยโรคที่สำคัญคือ ในเนื้อสมอง ปอด กล้ามเนื้อหัวใจและตาแดงจัดจนทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว ระบบไหลเวียนล้มเหลว และระบบประสาทล้มเหลวมีผู้ป่วยเอดส์เต็มขั้นชาวไทยอายุ ๓๔ ปีที่ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรและเชื้อลุกลามกระจายไปทั่วตัวแบบนี้และถึงแก่กรรม
การวินิจฉัยโรคฝีดาษวานร
นอกจากมีอาการที่เข้าได้กับโรคฝีดาษวานรแล้ว ยังใช้วิธีการวินิจฉัยอื่นมาช่วยวินิจฉัย เช่น การมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรภายใน ๒๑ วันก่อนจะมีอาการ มีประวัติเป็นเกย์หรือมีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกัน หรือมีประวัติสำส่อนทางเพศภายใน ๒๑ วันก่อนมีอาการ
ส่วนการยืนยันว่า ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรที่แน่นอนคือ การตรวจทางห้องปฏิบัติการได้แก่
๑.ตรวจพบ anti-orthopoxvirus (OPXV) IgM แอนติบอดีตั้งแต่วันที่ ๔ ของการมีอาการของโรคนี้ไปจนถึงวันที่ ๕๖ ของการมีผื่นที่ผิวหนัง
๒.หรือตรวจพบไตเตอร์ของ IgG แอนติบอดีเพิ่มขึ้นเกิน ๔ เท่าของน้ำเหลืองที่เก็บในระยะเฉียบพลัน(วันที่ ๕ ถึง ๗ ของโรค) และเปรียบเทียบกับไตเตอร์ในระยะฟื้นตัว(หลังวันที่ ๒๑ ของโรคขึ้นไป) โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือโรคฝีดาษวานรมาก่อน
๓.หรือใช้วิธี PCR ตรวจตัวอย่าง(เลือดหรือสิ่งคัดหลั่งจากรอยโรคที่ผิวหนัง ช่องปากหรือเยื่อบุผิวหนัง) พบยีนที่ใช้วินิจฉัยเชื้อไวรัสฝีดาษวานร
ยาต้านไวรัสฝีดาษวานร
ยาทุกขนานยังอยู่ในระหว่างการวิจัยหรือศึกษาทดลองใช้รักษาโรคฝีดาษวานร แม้ว่าผลการศึกษาในหลอดทดลองหรือในผู้ติดเชื้อบางรายพบว่าได้ผลดี ยาเหล่านี้ได้แก่
๑.Tecovirimat เป็นยาที่อยู่ระหว่างการวิจัยในผู้ติดเชื้อที่คาดว่า จะได้ผลดี
๒.Brincidofovir (CMX001 หรือ Tembexa) เป็นยา prodrug ของ cidofovir ซึ่งเคยใช้รักษาโรคฝีดาษในผู้ใหญ่และเด็กมาแล้ว จึงห้ามใช้ร่วมกับ cidofovir
๓.Cidofovir เป็นยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อ cytomegalovirus retinitis ในผู้ป่วยเอดส์มาแล้ว ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช้รักษาโรคฝีดาษวานรได้ผลดีมากน้อยเพียงใด ข้อเสียของยาขนานนี้คืออาจจะเกิดพิษต่อไตได้
๔.Vaccinia Immune Globulin Intravenous (VIGIV) เป็นน้ำเหลืองที่มีแอนติบอดีและนำมาใช้รักษาโรคฝีดาษวัวและจะนำมาทดลองใช้ในคนโดยให้เข้าทางหลอดเลือดดำ
การดูแลตนเองที่บ้าน
เมื่อสงสัยว่า ตนเองจะติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่และขอคำแนะนำในการรักษาและดูแลตนเอง อาจจะรับไว้รักษาในโรงพยาบาลหากมีอาการรุนแรง โดยทั่วไปหากยังไม่มีไข้สูง ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน จะให้ไปดูแลตนเองที่บ้านโดยแยกตนเองอยู่เดี่ยวที่ห้องใดห้องหนึ่งในบ้านก็ได้ จนกว่าไข้จะหายไปและผื่นตุ่มต่าง ๆ ตกสะเก็ดจนมีผิวหนังใหม่เริ่มขึ้นมาแทนที่ ไม่ต้องใช้ผ้าก๊อซมาปิดผื่นและตุ่มพองใส ให้ปล่อยให้แห้งไปเอง อย่าแกะเกาตุ่มพองใส ให้กินยาระงับอาการคันถ้ารู้สึกคันมาก ล้างมือด้วยสบู่หรือยาทำลายเชื้อเมื่อมือไปสัมผัสผื่นและตุ่มพองใส หรือหลังจากใช้ห้องน้ำสาธารณะ ให้อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและซับเบาๆ ที่รอยโรคให้แห้ง ใช้ห้องน้ำส่วนตัวและทำความสะอาดทุกครั้งด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์ ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังใช้ห้องน้ำ ใช้ของส่วนตัวและซักเสื้อผ้าแยกจากของคนอื่น ไม่ไปจับมือหรือสัมผัสสมาชิกในครอบครัวจนกว่าจะหาย
ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น คลื่นไส้อาเจียนมากจนกินอาหารไม่เพียงพอ หายใจลำบาก รู้สึกอ่อนเพลียมาก หมดแรง ตุ่มพองใสติดเชื้อเป็นหนองลุกลามกลายเป็นฝีขนาดใหญ่ หรือกลายเป็นเนื้อตายขนาดกว้างขึ้น หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์
การป้องกันโรคฝีดาษวานร
วิธีป้องกันการติดเชื้อที่ได้ผลแน่นอนคือ การงดมีเพศสัมพันธ์และงดการสัมผัสด้วยมือหรือส่วนอื่นของร่างกายของตนกับส่วนต่างๆ ของร่างกายของผู้ติดเชื้อหรือผู้อื่นโดยเฉพาะผู้คนที่เพิ่งรู้จัก ไม่ว่าผู้อื่นนั้นจะทราบหรือไม่ทราบว่า ตนเองติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรมาแล้วหรือไม่ก็ตาม
การหลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกายและสิ่งคัดหลั่งในผู้ติดเชื้อที่ทราบหรือสงสัยตนเองว่าเป็นโรคฝีดาษวานร
การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลเมื่อเดินทางไปยังที่สาธารณะในโรงแรม และสัมผัสสิ่งของต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู หรือหลังการใช้ห้องน้ำสาธารณะ ก่อนจะใช้มือมาสัมผัสตนเอง ถือเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันโรครองลงมาจากการงดมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งจะพบกัน
ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ผู้ที่ขายบริการทางเพศ จะต้องระมัดระวังตนเองเป็นพิเศษตามมาตรการที่แนะนำข้างต้น ให้งดการไปร่วมงานปาร์ตี้ (rave, party, night club) ที่ซึ่งมีการนุ่งน้อยห่มน้อยและมีการสัมผัสร่างกายอย่างแนบแน่นใกล้ชิดกับผู้คนหลากหลาย
การฉีดวัคซีน ๒ ครั้งห่างกัน ๔ สัปดาห์เพื่อลดความรุนแรงของโรคฝีดาษวานร หรือป้องกันโรค ในต่างประเทศมีวัคซีนที่มีชื่อว่า JYNNEOS (Imvamune or Imvanex) และเป็นวัคซีนที่ยอมรับให้ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ในทวีปยุโรป อเมริกาและประเทศแคนาดา และยังใช้ป้องกันโรคฝีดาษและโรคฝีดาษวัวได้ด้วย เรายังไม่มีใช้ในประเทศไทย
ข้อเสนอในการปราบปรามโรคฝีดาษวานรให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยโดยเร็ว
วิธีการเดียวที่จะปราบปรามให้โรคนี้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยโดยเร็ว ต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มใจเต็มที่จากทุกฝ่ายทุกคนทุกเพศในประเทศไทยที่จะจัดการให้โรคนี้สงบลงอย่างรวดเร็ว โดยจัดให้มีหนึ่งเดือนเต็มของการปราบปรามโรคฝีดาษวานรด้วยวิธีการ “งดมีเพศสัมพันธ์และงดการจัดงานปาร์ตี้และการสัมผัสร่างกายของคนแปลกหน้าหรือคนที่เพิ่งรู้จักเป็นเวลา ๑ เดือน” เช่น รณรงค์จัดกิจกรรมนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ถึง ๓๑ ตุลาคม การงดการสัมผัสจะทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นโรคฝีดาษวานรในประเทศไทยหายขาดจากโรคนี้และไม่มีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่รายใหม่ โรคฝีดาษวานรก็จะหมดไปจากประเทศไทยภายใน ๑ เดือนทันที นอกจากนี้ ขอให้งดการมีเพศสัมพันธ์กับชาวต่างชาติที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลา ๑ เดือนเช่นกัน ให้ชาวต่างชาติที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยอยู่ท่องเที่ยวในเมืองไทยเกิน ๑ เดือนก่อน แล้วจึงจะมีการสัมผัสร่างกายกันได้หากทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจังในกิจกรรมแบบนี้ ก็จะทำให้โรคฝีดาษวานรหมดสิ้นไปจากประเทศไทยได้แน่นอนโดยเร็ว นับเป็นความพยายามอีกครั้งที่จะจัดการให้โรคนี้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย เพราะเราพยายามควบคุมด้วยวิธีอื่นมาแล้วแต่ยังไม่ได้ผลและโรคนี้ทำท่าจะมีการระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง ๒-๓ เดือนที่ผ่านมาอีกด้วย ท่านจะทำให้โรคฝีดาษวานรหมดสิ้นไปโดยเร็วด้วยการจัดกิจกรรมปราบปรามโรคดังกล่าว หรือปล่อยให้โรคนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่นในประเทศไทย ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านแล้วในขณะนี้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์อมร ลีลารัศมี
กรรมการแพทยสภาและรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม
๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี