วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เพิ่งได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อมวลชนเรื่องวิธีการคิดทางบวก (+) ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งดีที่สื่อและสังคมควรสนใจให้มาก อันจะนำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ของสังคมได้
คนส่วนมากจะรู้ว่าการคิดบวกเป็นสิ่งดี ทำให้เกิดความสุข ความหวัง เกิดมิตรภาพได้ง่าย
ถ้าคิดลบ (-) แล้วจะทำให้เกิดความระแวง จับผิด อคติ ไม่เป็นมิตร เพราะมัวแต่คิดวิเคราะห์หาความผิดของอีกฝ่าย และหาทางทำลายกัน
การที่มนุษย์จะเปลี่ยนความคิดได้ เกิดจากภาวะ 2 อย่างคือ
1. เจ็บ หรือ เจ็บปวดเจียนตาย จึงอยากเปลี่ยนความคิดใหม่เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เกิดความรอด
2. เกิดปัญญา (wisdom) เช่น การได้เห็น ฟัง หรืออ่านบทความสักประโยคเดียวก็จะอยากเปลี่ยนความคิดให้สร้างสรรค์ขึ้นได้ ปัญญาคือ...ความฉลาดในการเลือก ครับ!
การจะเริ่มเปลี่ยนความคิดเป็นทางบวกได้นั้นควรเริ่มจาก
1. เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีทั้งส่วนที่ดี (+) และส่วนที่ไม่ดี (-) เช่น มีความรัก อ่อนโยน เอื้ออาทร เป็นส่วนที่ดี (+) เหมือนเป็นหน้ามือ และมีส่วนที่ไม่ดี (-) เหมือนหลังมือ เช่น ก้าวร้าว เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้
2. ต้องเริ่มพัฒนาความคิดที่ตัวเองก่อน โดยฟูมฟักส่วนที่ (+) ของตัวเองให้เติบโตขึ้น โดยสนใจสิ่งที่เป็น (-) ให้น้อยลง
พฤติกรรมและความคิดทางบวก (+) จะเติบโตและไปโอบล้อมความคิดทางลบ (-) ให้เล็กลง อ่อนแอลง
3. จากนั้นให้เริ่มมองเพื่อนมนุษย์ทุกคนทำนองเดียวกันว่า เขาก็มีส่วนทั้งบวกและลบ และให้มุ่งความเชื่อและความสนใจไปที่เขามีบวก (+) เอาไว้ก่อน (เราจะได้ไม่ระแวงและตั้งต้นจับผิดเขา) และแสดงพฤติกรรมทางบวกเข้าหาเขาได้มากขึ้น
4. และโดยแนวคิดความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าใครทำไม่ดี เขาก็ต้องรับกรรมไปเองตามกฎแห่งกรรมและกฎหมาย ไม่ต้องไปโกรธ เกลียด หรือแช่งเขาหรอก
5. ถ้าเราเริ่มต้นจากการมองว่าทุกคนมีพฤติกรรมทางลบ (-) และฟูมฟักความคิดนี้มากขึ้น เราจะคิดว่ามนุษย์มีแต่ความเลว โกง ก้าวร้าว ฯลฯ เราจะระแวงมนุษย์ จับผิดมากขึ้น หาทางทำลายทำร้ายเขามากขึ้น
แน่นอน! เขาก็จะคิดแบบเดียวกับเรา จะระแวง หาทางจับผิด ทำลาย หรือทำร้ายเราเช่นกัน
โลกและสังคมจึงเป็นกลียุคอย่างทุกวันนี้ ไม่มีทางสมานฉันท์ได้หรอก
มนุษย์มีทั้งส่วนดี (+) และส่วนไม่ดี (-) ทุกคน เป็นอย่างนี้ตลอดมาและตลอดไป!
อย่าไปหาคนที่ดีพร้อมหรือมุ่งหน้าคิดทางลบ จับผิด ประจาน ประณามกันอยู่เลย เพราะเขาก็จะทำเช่นกัน จะเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่ สุดท้ายจะเหมือนสุนัขที่กัดกันไม่เลิกจนขาแหว่งวิ่นเกือบขาดทั้งสองฝ่าย แต่ยังฮื่อ...แฮ่ เข้าใส่กัน ก่อนตายสุดท้ายอาจจะ “เปลี่ยนใจ”อยากหันมาสมานไมตรีกัน เปลี่ยนความคิดได้มากขึ้น ไม่ฮื่อ...แฮ่ ห้ำหั่นกันแบบเอาเป็นเอาตาย
เมื่อเจ็บปวดเจียนตายแล้ว มนุษย์จะหันมาสนใจจิตใจมนุษย์มากขึ้น เป็น “จิตนิยม” มากขึ้นลดความเป็น “อำนาจนิยม บริโภคนิยม” ลงไป
แต่ถ้าหากมนุษย์เกิดปัญญา (wisdom) ได้แล้วจะไม่ต้องรอคอยจนแขนขาดขาขาด เจ็บปวดจนสุดทนแล้วจึงจะเปลี่ยนใจหรอก
หวังใจว่าบทความนี้คงจะทำให้เกิด “ปัญญา” ได้บ้างในคนบางคน

เจ้าท่าฯสงขลาเคลียร์ชัด! เอกชนใช้ที่ดินริมทะเลสิงหนคร ‘ไม่รุกล้ำ’ เขตสาธารณะ
ล้มโผตำรวจ!!! 'อัจฉริยะ'ขู่แฉซื้อขายเก้าอี้ ระดับรองผู้การฯ-สารวัตร
ครม.เห็นชอบทบทวนกรอบแนวทางการประเมินผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ
'ชมพู่ อารยา - แอน ทองประสม'นำทัพคนบันเทิงสายเฮลตี้ ร่วมงาน Life Expo 2025 สวนสนุกของคนรักสุขภาพ
นางสาวไทยปี 68 พร้อมคณะเข้าถวายมาลาและกราบถวายบังคมพระบรมศพ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี