เดือนกันยายนของทุกปี เป็นเดือนแห่งการเกษียณอายุของข้าราชการทุกฝ่ายตามที่กฎหมายกำหนด เรื่องที่จะพูดในวันนี้จึงขอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กับผู้ที่กำลังจะเกษียณอายุทั้งหลาย ว่าจะต้องเดินไปอย่างไรจึงจะมีความสุขตามอัตภาพของตน เพราะแต่ละคนที่ต้องเกษียณอายุนั้น ไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถไปเสียทั้งหมด ยังสามารถทำตนให้เป็นประโยชน์ได้
โดยเฉพาะหน้าที่ต่อแผ่นดินที่ไม่มีวันจะเกษียณ
แต่สำหรับคนบางคนที่ต้องเกษียณอายุออกไปก่อนถึงกำหนดนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลาออกไปเอง หรือการถูกไล่ออก ถูกปลดออกนั้น ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่ว่านี้ ซึ่งเป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะบทบาทและหน้าที่ของตนในการทำงาน ชอบมั่วตามหรือทำงานตามใจผู้มีอำนาจเหนือตน ซึ่งทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา มีนอกมีในกับผลประโยชน์ที่จะได้รับแล้ว ก็ต้องถือได้ว่าคนอย่างนี้เป็นคนที่บรรดาข้าราชการทั้งหลายที่ยังไม่เกษียณอายุ สามารถนำมาเป็นบทเรียนในการทำงานของตนได้ ว่าสมควรจะเดินตามรอยคนเหล่านั้นในการทำงานหรือไม่ ชีวิตหลังเกษียณของตนจะได้ไม่อับเฉา
ในบ้านเมืองของเรานั้น มีข้าราชการจำนวนไม่น้อยที่เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถ แม้จะเกษียณอายุไปแล้ว ก็ยังบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ ถ้ารู้จักวางแผนในการดำเนินชีวิตของตนโดยไม่เห็นแก่ตัว ไม่ควรกังวลหรือปิดกั้นตัวเองในการทำตัวให้ ส-บ-า-ย ร่วมสนุกกับคนรุ่นหลัง และถ่ายทอดประสบการณ์อันมีค่าให้แก่พวกเขา
ขอเพียงหมั่นดูแลสุขภาพและรักษาสุขภาพของตน
ไม่ทำอะไรตามความอยากของตน มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย รู้จักว่ายังมีวันพรุ่งนี้ เพราะคนที่ไม่มีวันพรุ่งนี้คือคนที่ดำเนินชีวิตไปอย่างไม่มีความหวัง
คนที่ดำเนินชีวิตไปอย่างคนไม่มีความหวังนั้น จะเป็นคนที่อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องรู้จักวางแผนชีวิตของตนในบั้นปลายให้ดี โดยเฉพาะหลังเกษียณอายุ ซึ่งจะต้องมีไฟในการดำเนินชีวิต ไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปในวันหนึ่งๆ ที่มีแต่ความว่างเปล่า
ยิ่งรู้จักวางแผนของชีวิตหลังเกษียณเสียแต่เนิ่นๆ หรือนานเท่าไรก่อนเกษียณนานเท่าใด ก็จะได้ประโยชน์มากเท่านั้น เพราะการเตรียมตัวเป็นความไม่ประมาทในชีวิตตนหลังเกษียณนั่นเอง
ก่อนอื่นใดหมด ผู้เกษียณอายุจะต้องทำตัวทำใจที่พร้อมจะรับสภาพต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ได้แต่เนิ่นๆ อย่างน้อยได้แก่เรื่องต่อไปนี้
1. ยอมรับว่าอำนาจวาสนาที่มีในตำแหน่งหน้าที่การงานทุกอย่างที่เคยมีนั้นกำลังหมดไป เรียกได้ว่าสุดสิ้น แต่สิ่งที่คงเหลืออยู่นั้นก็คือ บารมี ที่สั่งสมไว้
2. ยอมรับสภาพของการหมดบริวาร หมดของกำนัล หมดความสะดวกต่างๆ ที่เคยได้รับ หรือเคยมี
3. ยอมรับสภาพของการหมดเวลาทำงานในวันหนึ่งๆ ตามที่เคยกำหนด ซึ่งเวลาที่หมดไปโดยไม่มีอะไรทำดังกล่าวนี้ จะทำให้บางครั้งหงุดหงิดงุ่นง่านใจได้
4. ยอมรับสภาพรายได้ที่จะหดหายไปไม่เหมือนเก่า
5. ยอมรับสภาพความเสื่อมถอยของร่างกาย ที่ไม่เหมือนแต่ก่อน อันเป็นเครื่องเตือนสติว่า ถึงเวลาบั้นปลายในชีวิตมนุษย์ทั่วไปแล้ว
6. ยอมรับสภาพของจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด การติดอยู่กับสถานที่ทำงานและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งแปรปรวนได้ง่าย เพราะตลอดเวลาที่ยังไม่เกษียณนั้น โอกาสที่จะนึกถึงเรื่องดังกล่าวนี้แทบจะไม่มีเอาจริงๆ แต่เมื่อเกษียณแล้วและมีเวลาว่างจึงเริ่มคิด ถ้าคิดมากๆ ก็จะเป็นโรคประสาท เป็นห่วงชีวิตในบั้นปลายของตนขึ้นมา ความเหงา ความซึมเศร้า และความรู้สึกโดดเดี่ยวในชีวิตตนจะเกิดตามมา ทำให้เกิดความอาลัยอาวรณ์ มีความเศร้าหมองเกิดขึ้น
ทั้ง 6 ประการดังกล่าวนี้ผู้ที่กำลังเกษียณต้องรู้จัก
เตรียมตัวปรับจิตใจเพื่อรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ผ่านชีวิตการงานมาจนกระทั่งเกษียณอายุราชการอย่างราบรื่น และโดยตลอดรอดฝั่งมาได้ก็ต้องถือเป็นเรื่องโชคดีของผู้นั้น ต่อจากนี้ไปให้หันมาคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่สำหรับตัวเองนั้นจะมีอีกนานสักเท่าไร เพราะชีวิตทุกชีวิตนั้นต้องร่วงโรยไป
หลักการทั้ง 6 ประการดังกล่าวข้างต้น ใช้ได้มิเฉพาะกับข้าราชการประจำเท่านั้น หากแต่สามารถนำมาใช้ได้กับคนที่เข้ามาได้ตำแหน่งหน้าที่การงานทางการเมืองด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเข้ามาโดยถูกต้องตามระบบทางการเมืองที่กำหนดไว้ หรือเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามระบบ คือ ถือปืนเข้ามาทำงาน
คนเหล่านี้ โดยเฉพาะคนถือปืนเข้ามาทำงานด้วยแล้ว ยิ่งต้องรู้จัก “วันเกษียณอายุ” ของตนตามที่กำหนดไว้ หรือสัญญาไว้กับผู้คนทั้งหลายด้วย ว่าตนและพวกตนมีวัตถุประสงค์อะไรในการใช้ปืนเข้ามาทำการทำงานในขณะนี้ และจะใช้ปืนไปนานเท่าไร
ไม่ใช่สัญญาไว้หรือพูดแล้วไม่เป็นไปตามที่ว่าไว้
หาเหตุ หาเรื่อง มาประกอบตลอดเวลาว่ายังมีปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้จนต้องใช้ปืนอยู่ต่อไปอีก หรือหาอุบายพลิกแพลงด้วยการออกฎหมายหรือตั้งกรรมการนั้นกรรมการนี้ขึ้นมาในการวางแผนระยะยาวที่ให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีอย่างโน้นอย่างนี้ และยังต้องใช้เวลาอีกเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งเหมือน “ได้คืบเอาศอก ได้หอกจะเอาง้าว” ให้ยาวออกไปเรื่อยๆ
“วันเกษียณอายุ” จะจบลงอย่างไม่สวย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี