1.ข้อหากบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร ที่อัยการฟ้องศาล มีความเป็นมาอย่างไร?
ตอบ : ข้อกล่าวหาแกนนำ กปปส. เกิดสมัยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจเป็นเพราะมองว่ามวลมหาประชาชนต้องการให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องออกจากการบริหารประเทศ (หรืออาจ
มองว่า ล้มรัฐบาล - เปลี่ยนรัฐบาล)
โดยอาจไม่ได้ให้น้ำหนักกับการที่มวลมหาประชาชนหลายล้านคนได้ลุกขึ้นและออกมากลางถนน อย่างสันติ ปราศจากอาวุธ มิหนำซ้ำ ผู้ที่ใช้อาวุธกลับเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์และระบอบทักษิณ ที่ใช้อาวุธสงครามร้ายแรงเข้าประหัตประหารผู้ชุมนุม จำนวนรวมกว่า 96 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 25 คน บาดเจ็บรวมกว่า 782 คน
และอาจไม่ให้น้ำหนักกับการชุมนุมที่สามารถควบคุมดูแลมวลชน ป้องกันมิให้เกิดการจลาจล เผาบ้านเผาเมือง แตกต่างจากการชุมนุมของ นปช.เมื่อปี 2553 อย่างสิ้นเชิง
2.อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนจำนวนหลายล้านคนลุกขึ้นประท้วง แสดงออก และรับไม่ได้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์?
ตอบ : รัฐบาลยิ่งลักษณ์ดำเนินนโยบายที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร เริ่มตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 การจัดการที่ล้มเหลวทำให้ความเสียหายบานปลาย แล้วยังนำมาสู่แผนการทำโครงการน้ำขนาดใหญ่ในลักษณ์รวบเอาโครงการทั้งหลายเข้ามาเป็นพวงๆ แล้วรวบรัดดำเนินการท่ามกลางข้อครหา ไม่มีความโปร่งใส ยิ่งกว่านั้น โครงการจำนำข้าวที่มีการโกงกินมโหฬาร สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท แต่ทำให้ลูกสมุนบริวารได้ผลประโยชน์อิ่มหมีพีมัน
นอกจากนี้ ยังดำเนินการเพื่อจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยวิธีเอาโครงการคมนาคมจำนวนมากมาใส่ไว้ในแผนการรวม นำโดย โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทั้งๆ ที่ ไม่จำเป็น ไม่เหมาะสม ไม่คุ้มค่า ไม่เชื่อมต่อกับต่างประเทศ โดยจะดำเนินการกู้เงินนอกงบประมาณแผ่นดิน ที่ขาดการตรวจสอบยอดรวมหนี้สาธารณะของประเทศไทย ทำลายวินัยการเงินการคลังแผ่นดินอย่างสิ้นเชิง
ซ้ำร้าย ยังอาศัยอำนาจรัฐ พยายามช่วยเหลือนักโทษคดีทุจริตที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้โดยมิชอบ โดยที่ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินในลักษณะไร้ประสบการณ์ความสามารถ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ตัวยิ่งลักษณ์ถูกวางบทบาทเสมือนพรีเซ็นเตอร์ เน้นแต่งตัวสวยๆ ไม่เน้นความเข้าใจในประเด็นปัญหาราชการบ้านเมือง เป็นเหมือนตัวตลกในสายตาประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
มิหนำซ้ำ ยังอาศัยกลไกในอำนาจรัฐ พยายามล้างผิดคนโกง ออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยให้กับพรรคพวกและทักษิณ ทั้งโทษคดีทุจริต คดีฆาตกรรม คดีเผาทำลายทรัพย์สิน เผาศาลากลางจังหวัด ฯลฯ โดยใช้ สส.ในสภาผู้แทนราษฎรในลักษณะพวกมากลากไปเรื่อยๆ เป็นเผด็จการรัฐสภา แม้การประชุมก็รวบรัด รีบเร่ง ลงมติกันในเวลาตี 4 ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่สนใจรับฟังเสียงทัดทานของ สส.ฝ่ายค้าน วุฒิสภา และประชาชนทั่วไป
3.ถ้า กปปส. และมวลมหาประชาชนไม่ออกมาหยุดยั้ง ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?
ตอบ : ประเทศไทยจะมีรูปแบบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เป็นเผด็จการโดยทุน ที่ใช้ประชานิยม แจกหว่านผลประโยชน์บางส่วนแก่ประชาชน โดยที่โครงการใหญ่ นโยบายสำคัญๆ จะเอื้อประโยชน์ให้กับญาติและพวกพ้อง เจ้าแม่ภาคเหนือ ผู้มีอิทธิพลภาคอีสาน ผู้ยิ่งใหญ่ภาคกลางจะเฟื่องฟู หยิ่งผยองที่ได้อำนาจรัฐ
ระบอบทักษิณจะฟื้นคืนกลับมา คุกคามระบอบประชาธิปไตยอันทีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มวลมหาประชาชนหลายล้านคน มาจากทุกภาคส่วน หลากหลายสาขาอาชีพ ทุกชั้นชนในสังคมไทย ใช่ว่าจะถูกชักจูงได้ง่าย หากไม่เห็นภัยพิบัติกับประเทศชาติ ที่ผู้ปกครองประเทศบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเป็นเผด็จการโดยทุนสามานย์ ในคราบประชาชนโดยจากการเลือกตั้ง ใช้เงินจากภาษีอากรหว่านคนชั้นล่างในลักษณะประชานิยม แทรกแซงครอบงำฝ่ายตรวจสอบและสื่อมวลชน
4.ต่างหรือเหมือนกันกับสมัยรัฐบาลทักษิณที่อาจารย์เป็นคนแรกที่ออกมาจุดประเด็นความคิด ทำหนังสือ “รู้ทันทักษิณ” จนเกิดการต่อต้านระบอบทักษิณ?
ตอบ : ผมได้รับการเลือกตั้งจากชาวกรุงเทพฯ ให้เข้าไปเป็น สว. เมื่อปี 2543 ก่อนทักษิณเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล 1 ปี ติดตามตรวจสอบทักษิณในหน้าที่ของสว. อยู่ 2-3 ปี
เห็นความไม่ชอบมาพากลของระบอบทักษิณ ตั้งแต่แทรกซื้อพรรคการเมือง และสส.เข้ามาในพรรคไทยรักไทย แทรกแซงและแทรกซื้อสมาชิกวุฒิสภามากขึ้นทุกวัน เมื่อครอบงำวุฒิสภาที่ควรจะเป็นสภาอิสระที่ตรวจสอบถ่วงดุลได้แล้ว ก็แทรกแซงกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระ และได้องค์กรอิสระที่ไม่อิสระดังเช่นที่ทักษิณเคยกล่าวว่า “กกต.ก็ของเรา ป.ป.ช.ก็ของเรา”
ดำเนินการแทรกแซงสื่อมวลชน ผ่านการเข้าเป็นเจ้าของสื่อ และใช้งบโฆษณาของรัฐและบริษัทในเครือเป็นเหยื่อล่อ
จนสื่อจำนวนหนึ่งยอมเป็นทาสรับใช้ในรัฐบาลระบอบทักษิณ
แล้วอาศัยอำนาจรัฐ แก้กฎหมาย ออกกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กิจการโทรคมนาคม ดาวเทียม บ้านจัดสรร (บ้านเอื้ออาทร) และโครงการต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ทางตรงและอ้อมกับญาติ พี่น้อง พรรคพวก จนทำให้มูลค่าหุ้นในกิจการของตนสูง แล้วจึงรวบรวมหุ้นที่ตนซุกไว้ในชื่อของผู้อื่นนำมาขายผ่านกระบวนการที่แยบยล โดยไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
นอกจากนี้ ยังใช้ความรุนแรงประกาศสงครามยาเสพติด สร้างบัญชีดำ ฆ่าตัดตอนผู้มีชื่อในบัญชีดำ ทั้งคนเสพ คนค้า ทั้งผิดตัว-ถูกตัว ตายไปมากกว่าพันศพ (กสม.ตรวจสอบในภายหลังพบว่า ส่วนใหญ่ที่ถูกฆ่าตายไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด)
ยิ่งกว่านั้น ยังใช้ความรุนแรงเข้าไปจัดการปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ ใช้คำว่า “โจรกระจอก” มีการยุบ ศอ.บต.
และกลไกการแก้ปัญหาที่มีอยู่เดิม เกิดปัญหาการอุ้มหาย เกิดสถานการณ์ลุกลามรุนแรงบานปลาย ไฟใต้ระอุขึ้นมาอีกครั้งและยาวนานจนถึงปัจจุบัน เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตของผู้คนและโอกาสการพัฒนา
ซ้ำร้าย เมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก็หลงในอำนาจ ตีตนเสมอ คุกคามจาบจ้วงสถาบันที่คนไทยเคารพนับถือ
ผมจึงเป็นคนแรกๆ ที่เห็นภัยของระบอบทักษิณ ที่แทรกแซงบิดเบือนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นอกจากจะออกซีรี่ส์หนังสือ “รู้ทันทักษิณ” ออกมาเตือนสังคมแล้ว ยังได้ออกหนังสือ “รัฐธรรมนูญตายแล้ว” ที่แฉวิธีการบิดเบือนทำลายรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด กฎหมายแม่บทของประเทศไทย
5.ทำไมอาจารย์จึงเข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในปี 2548-2549?
ตอบ : ขณะนั้น ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภา ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล พยายามตรวจสอบถ่วงดุล แก้ไขในสภาอย่างเต็มที่
แต่ก็สุดกำลังที่จะหยุดยั้งระบอบทักษิณที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และบิดเบือนทำร้ายรัฐธรรมนูญ
เคยร่วมกับ สว.ไปร้องเรียนต่ออัยการ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเอาผิดกับทักษิณที่แทรกแซง บิดเบือนรัฐธรรมนูญ จนเป็นภัยต่อประเทศชาติ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ
เมื่อพันธมิตรฯ ภาคประชาสังคม ประชาชนรวมตัวกันเพื่อประท้วง ต่อต้านการกระทำที่เป็นพิษของระบอบทักษิณ และต้องการข้อมูลข้อเท็จจริง ผมจึงได้เข้าไปให้ข้อมูลบนเวทีพันธมิตรฯ โดยจัดรายการรู้ทันทักษิณบนเวทีการชุมนุม
6.แล้วครั้งที่เข้าร่วมให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบอบทักษิณ อาจารย์โดนฟ้อง โดนคดีบ้างไหม ผลเป็นอย่างไร?
ตอบ : ก็โดนฟ้อง ถูกตั้งข้อกล่าวหายุยง ปลุกปั่น ให้เกิดการกระด้างกระเดื่อง ถูกฟ้องจากการกล่าวหาว่าทักษิณมี “ปฏิญญาฟินแลนด์” ต้องการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงบทบาทของสถาบันอย่างไร?
ในที่สุด ผมก็ชนะคดีทั้งสามศาล
บางคดีอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง
7.เมื่อครั้ง กปปส. มวลมหาประชาชนรวมตัว ทำไมอาจารย์จึงเข้าไปให้ข้อมูลความเห็นบนเวทีการชุมนุม?
ตอบ : เมื่อผมเป็นคนแรกๆ ที่วิจัยและทำงานในรัฐสภา พบความจริงของระบอบทักษิณที่เป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเผด็จการโดยทุนรูปแบบใหม่ และเมื่อระบอบทักษิณยังสืบเชื้อร้ายในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่เป็นเพียงหุ่นเชิด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”
ผมจะนิ่งเฉย ไม่ไป “ถอนพิษ” บนเวทีให้ประชาชนได้ข้อมูลความจริงได้อย่างไร
เมื่อเราบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาชั่วร้าย ล้มล้างอำนาจใครเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือเพื่อส่วนตัวใคร
และที่ทำงานมาในฐานะนักวิชาการ สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มองเห็นภัยของประเทศที่จะเกิดจากระบอบทักษิณ คนเป็นล้านๆ ต้องการข้อมูลความรู้ ถ้าผมหลีกหนี ไม่ไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าจะช่วยประเทศชาติส่วนรวมได้ ในฐานะนักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 จะเอาหน้าไปไว้ไหน ใครจะนับถือ ถ้าไม่ทำหน้าที่ขอพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี