ในย่านตะวันออกกลางนั้น ถ้าหากไม่สนใจติดตามทำความเข้าใจให้ดีก็จะรู้แต่เพียงว่าดินแดนแถบนั้นเป็นดินแดนของกลุ่มชนที่นิยมเรียกกันว่า “แขก” โดยไม่สามารถจำแนกแยกแยะได้ว่าเป็นกลุ่มชน ชนชาติ เชื้อชาติ มีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วในที่สุดก็จะเหมารวมเรียกกันว่าแขก
จากนั้นก็จะถูกมอมเมาให้มีความเข้าใจว่าแขกทั้งหมดเป็นแขกหัวรุนแรง หรือที่เรียกกันตามภาษาสื่อตะวันตกว่า “มุสลิมหัวรุนแรง” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังความรู้สึกชิงชังรังเกียจ โดยที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจอะไรเลย
ชาวโลกถูกหลอกลวงชักพาให้เข้าใจกันผิดๆ ในลักษณะนี้มาช้านานแล้ว แต่เมื่อมาถึงวันนี้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาชาติในแถบนั้นก็ค่อยๆ กระจ่างขึ้น เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น แต่น่าเสียดายว่าในบ้านเมืองของเรานี้มีผู้สนใจน้อยกว่าน้อย แม้กระทั่งสื่อมวลชนก็ยังพูดหรือเรียกขานกันผิดๆ แล้วจะหวังให้ประชาชนรู้และเข้าใจได้อย่างถูกต้องได้อย่างไร
ดังนั้นในขณะที่สถานการณ์ของโลกกำลังอยู่ในสภาพเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงสมควรที่จะทำความรู้ ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับประชาชาติในแถบตะวันออกกลางกันสักครั้งหนึ่งและในพื้นที่อันจำกัดนี้ก็ควรทำความเข้าใจในลักษณะพอเป็นสังเขป ซึ่งเพียงพอที่จะรู้และเข้าใจได้ว่าสภาพย่านนั้นเป็นอย่างไร
ในภูมิภาคตะวันออกกลางนั้น แม้จะมีหลายชนชาติ หลายเชื้อชาติ หลายหลากวัฒนธรรมประเพณี และมีความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เต็มไปด้วยความขัดแย้งมากหลาย แต่ก็อาจจำแนกได้เป็นสามกลุ่มใหญ่
กลุ่มแรก ได้แก่พวกอาหรับ ซึ่งดั้งเดิมนั้นเป็นชนเผ่าเร่ร่อนอยู่ในทะเลทราย และหลังจากศาสนาอิสลามอุบัติขึ้นในโลกแล้ว ชาวอาหรับทั้งหมดก็ยึดมั่นนับถือศาสนาอิสลาม ครั้นเมื่อมีการจัดแบ่งพื้นที่ตั้งประเทศในภูมิภาคนั้นครั้งใหญ่โดยฝีไม้ลายมือของอังกฤษในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 แล้วก็เกิดประเทศต่างๆ ขึ้น และเพราะเหตุที่การวางพื้นที่ภูมิศาสตร์ของแต่ละประเทศให้ขัดแย้งกัน จึงมีความขัดแย้งเป็นรากฐานอยู่ในภูมิภาคนั้น
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนของมหาอำนาจและอิสราเอล ทำให้ซาอุดีอาระเบียได้กลายเป็นผู้นำของประเทศสันนิบาตอาหรับ โดยที่ซาอุดีอาระเบียนั้นเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม นิกายวาฮาบี
กาตาร์และคูเวตเป็นประเทศอาหรับในกลุ่มสันนิบาตอาหรับที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์กลาง ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐและอิสราเอล รวมทั้งอังกฤษด้วย
กลุ่มที่สอง ได้แก่ประชาชาติเปอร์เซียที่เคยมีถิ่นฐานอยู่ย่านเมโสโปเตเมีย ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในหลายประเทศ แต่ที่มากที่สุดก็คืออิหร่าน โดยที่อิรักและซีเรียมีจำนวนระดับรองและนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ โดยมีอิหร่านเป็นศูนย์กลาง
กลุ่มที่สาม ได้แก่ประชาชาติเติร์ก และเคิร์ด ซึ่งผสมผสานปนเปมาตั้งแต่ยุคออตโตมัน ซึ่งตุรกีเรืองอำนาจและเป็นศูนย์กลางของประชาชาติเติร์ก โดยมีประชาชาติเคิร์ดเข้าร่วมด้วยบางส่วน และยังตั้งตนเป็นอิสระอยู่อีกบางส่วน กลุ่มนี้นับถือศาสนาอิลาม นิกายฮัมบาลี และจำนวนน้อยนับถือนิกายฮานาฟี ซึ่งคล้ายคลึงกับมุสลิมในประเทศจีน
ซาอุดีอาระเบียปกครองประชากรอย่างไร ก็ตั้งตนเป็นหัวหน้ากลุ่มประเทศอาหรับอย่างนั้นด้วย ดังนั้นจึงก่อให้เกิดความไม่พอใจขึ้นอย่างเงียบๆ หลังจากมีการปฏิวัติภายในราชสำนักของซาอุดีอาระเบียแล้ว ความเข้มข้นก็ยิ่งมากขึ้น และทำให้ประเทศในกลุ่มสันนิบาตอาหรับเดือดร้อนไม่พอใจ
ประเทศกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดประเทศหนึ่งของโลกแต่เป็นประเทศเล็ก อยู่คนละฝั่งอ่าวเปอร์เซียกับอิหร่าน จึงหันไปใกล้ชิดสนิทสนมกับอิหร่านและตุรกี จึงทำให้ซาอุดีอาระเบียไม่พอใจ แล้วเลียนแบบลูกพี่ใหญ่คือสหรัฐประกาศคว่ำบาตรกาตาร์อย่างรุนแรง ห้ามข้ามด่านผ่านแดนและปิดกั้นทุกรูปแบบ ถึงขั้นที่จะส่งทหารเข้าไปยึดกาตาร์
ทว่าช้าไปแล้วต๋อย! กาตาร์เมื่อย้ายค่ายเปลี่ยนพวกก็ได้รับการสนับสนุนทั้งจากอิหร่านและตุรกี ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีรัสเซียและจีนอยู่ด้วย ดังนั้น การคว่ำบาตรของซาอุดีอาระเบียจึงไม่มีความหมาย และยิ่งผลักกาตาร์ให้ไปจับมือกับอิหร่านและตุรกีเพิ่มขึ้น
ล่าสุดซาอุดีอาระเบียก็มีปัญหากับคูเวตในเรื่องความขัดแย้งในการจัดหาอาวุธ ที่คูเวตก็เริ่มเดินตามเส้นทางเดียวกับกาตาร์ ซาอุดีอาระเบียจึงกดดันคูเวตมากขึ้นโดยเฉพาะไม่ฟังคำสั่งในการร่วมมือในด้านน้ำมันกับอิหร่าน ในที่สุดคูเวตก็ประกาศยกเลิกการส่งน้ำมันให้สหรัฐ ทำให้ลูกพี่ในตะวันออกกลางคือซาอุดีอาระเบียเสียหน้า จึงกดดันคูเวตแบบเดียวกับที่เคยทำกับกาตาร์
ผลก็เป็นเช่นเดียวกับกาตาร์ คือคูเวตหันไปตกลงทำความร่วมมือด้านความมั่นคงกับตุรกี ที่ถ้าหากคูเวตถูกรุกราน ตุรกีพร้อมจะส่งกองทัพเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าทั้งอิหร่าน รัสเซีย และจีน ก็ย่อมเห็นดีเห็นงามไปกับเรื่องนี้
เป็นอันว่าซาอุดีอาระเบียได้เสียพันธมิตรในกลุ่มประเทศสันนิบาตอาหรับเพิ่มขึ้นอีกประเทศหนึ่งแล้ว นี่แหละที่เขาว่าสงครามที่ไม่เป็นธรรมย่อมต้องพ่ายแพ้แก่สงครามที่เป็นธรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี