จากกรณีที่ “กาย รัชชานนท์” ดารานักแสดง ได้โพสต์คลิป ระบุว่า ตนเองถูกรถสี่ล้อแดงรับจ้างที่จังหวัดเชียงใหม่เรียกค่าโดยสาร 600 บาท กับระยะทางในเมืองแค่ 1 กิโลเมตรเศษ
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของรถแดงเชียงใหม่อีกครั้ง
1. เมื่อวานนี้ นางพรรณี พุ่มพันธ์ ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญนายบุญเนียม บุญทา ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด และนายรัชชานนท์ สุประกอบ หรือ กาย รัชชานนท์ เข้าร่วมประชุมแถลงข่าวกับสื่อมวลชน
แต่กาย รัชชานนท์ ไม่ได้เดินทางมา ให้เหตุผลว่าติดภารกิจ
นางพรรณีเปิดเผยว่า ได้ติดต่อสอบถามไปที่กายแล้ว เขายืนยันว่า ได้เรียกรถสี่ล้อแดงจากบริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 8 เพื่อจะไปถนนสุเทพ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่รถสี่ล้อแดงเรียกราคา 600 บาท เขาคิดว่าแพงเกินไปปกติมาที่เชียงใหม่ก็จะใช้บริการรถสี่ล้อแดงตลอด เสียค่าเดินทางไม่เกิน 20-30 บาท โดยไม่ได้ถ่ายคลิปหรือจดจำป้ายทะเบียนรถสี่ล้อแดงคันดังกล่าว ส่วนเจตนาที่โพสต์คลิป เพราะอยากสะท้อนให้เห็นว่าค่าบริการแพงเกินไป
นอกจากนี้ ได้สอบถามไปที่ตำรวจจราจรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางจราจรแจ้งว่าในบริเวณนั้นไม่มีกล้องของทางจราจรอยู่ และได้ประสานไปที่เทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ กาย รัชชานนท์เล่ามา หากพบว่าเป็นคนขับคนใด ก็จะติดต่อเรียกมาพูดคุยว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ถ้าพบว่าผิดจริงโทษมีตั้งแต่ตักเตือน พักใบอนุญาต ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต
นางพรรณี ระบุว่า “ปกติ ทางขนส่งได้มีการพูดคุยประชุมร่วมกับทางสี่ล้อแดงอยู่แล้ว ว่าให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และเงื่อนไขสหกรณ์ ซึ่งสมาชิกของสหกรณ์จะรับรู้อยู่แล้วว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ส่วนอำนาจการต่อรองในราคาเช่าเหมานั้น ขึ้นอยู่กับการพอใจและยอมรับของทั้งผู้โดยสารและรถสี่ล้อแดง แต่ถ้าเป็นราคาทั่วไปที่ใช้ก็ไม่เกิน 30 บาทต่อคน หากผู้โดยสารพบเจอกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคนขับรถสี่ล้อแดง ให้จดรายละเอียดข้อมูลคนขับ และหมายเลขทะเบียนที่จะติดอยู่บนรถทุกคัน แล้วแจ้งร้องเรียนสายด่วนกรมการขนส่งทางบก หมายเลข 1584 ได้ทันที”
2. นายบุญเนียม บุญทา ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด ยืนยันว่า ถ้าข้อกล่าวหาเป็นความจริง ทางสหกรณ์ก็จะไล่คนขับรถคันดังกล่าวออกทันที
“ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ถ้าเป็นเรื่องจริงคนขับก็จะโดนไล่ออกแต่ถ้าไม่เป็นความจริง ทางสหกรณ์ก็เตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์คุณกายในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้สหกรณ์และสี่ล้อแดงส่วนใหญ่เสื่อมเสียชื่อเสียง” นายบุญเนียม กล่าว
3. กรณีนี้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
น่าคิดว่า นายกาย ในฐานะผู้บริโภค หากไม่จริง เขาจะมีเจตนาจูงใจอะไรที่จะไปโพสต์คลิปอย่างนั้น?
และในความเป็นจริง ในช่วงเวลาที่ต่อรองราคากัน คงใช้เวลาไม่กี่วินาที และก็คงมีน้อยคนที่ได้ทันคิดวางแผนถ่ายคลิปเพื่อร้องเรียน
ส่วนผู้ประกอบการ ก็คงต้องแสดงความจริงใจต่อผู้บริโภค ด้วยการพยายามหาตัวรถแดงดังกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่ปกป้องพวกเดียวกัน และควรจะเปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมา เคยมีเรื่องร้องเรียนกี่ครั้ง และลงโทษไปกี่คัน มีหรือไม่?
4. ส่วนประเด็นว่า ปัญหาการบริการของรถแดงในเชียงใหม่ มีอยู่จริงหรือไม่?อย่ามาเสียเวลาเถียงเลย ยอมรับเถิด แล้วรีบแก้ปัญหาเถิด (นักท่องเที่ยวเจอกันบ่อยมาก แต่อาจจะไม่ขนาดว่าโก่งราคา 600 บาท)
ยกตัวอย่าง คิดค่าโดยสารจากนักท่องเที่ยวต่างชาติราคาหนึ่ง
คิดค่าโดยสารจากลูกค้าคนไทยที่ท่าทางดูเป็นคนต่างถิ่น พูดภาษากลาง หรือภาษาต่างถิ่น อีกราคาหนึ่ง
คิดราคาค่าโดยสารจากคนที่พูดภาษาเหนือ รู้เส้นทางและอัตราค่าโดยสาร อีกราคาหนึ่ง
หรือรับผู้โดยสารราคาเหมาแล้ว แต่ระหว่างทางยังสามารถหยุดรับผู้โดยสารเพิ่ม คิดเงินจากผู้โดยสารใหม่เข้ากระเป๋าตัวเองได้อีก เป็นต้น
อย่าปฏิเสธเลยว่าไม่มีจริง
5. น่าคิดว่า ที่ผ่านมาหลายสิบปี ทำไมนักการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่นเชียงใหม่ ถึงไม่ยกระดับคุณภาพบริการรถแดงให้ดีขึ้น จะเกิดประโยชน์ยั่งยืนทั้งต่อผู้ประกอบการรถแดงและนักท่องเที่ยว หรือว่าผู้มีอำนาจการเมืองมีผลประโยชน์แฝงเร้นอะไร?
พบว่า มีงานวิจัยเรื่อง การเมืองเรื่องการจัดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ : Politics of Chiang Mai Mass Transportation System โดยคุณปรียานุช วัฒนกูลรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปี 2551 ให้ข้อมูลและมุมมองที่น่าสนใจ ระบุว่า
(1) เมืองเชียงใหม่มีการบริการขนส่งด้วยรถสองแถว หรือที่รู้จักกันในนามรถสี่ล้อแดงของสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด เป็นบริการหลัก และมีการบริการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางเริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2522 แต่ไม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันรถสี่ล้อแดงประสบปัญหาหลายประการ อาทิ 1) ปัญหาการให้บริการทับเส้นทาง2) ปัญหาที่จอดรถในเขตเทศบาลฯ 3) ปัญหาค่าคิว 4) ปัญหาจำนวนรถ 5) ปัญหาค่าโดยสาร 6) ปัญหาพฤติกรรมการให้บริการของผู้ประกอบการ และ 7) ปัญหาค่าใช้จ่ายนอกระบบ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของรถสี่ล้อแดงในฐานะผู้ให้บริการหลักตกต่ำลงแม้จะประสบปัญหาดังกล่าว แต่รถสี่ล้อแดงก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการพัฒนาระบบขนส่งรูปแบบอื่นๆ เพราะ
1) ความสามารถในการรวมตัวกันของกลุ่มสมาชิกผู้ประกอบการทำให้สหกรณ์ฯ มีลักษณะเป็นกลุ่มผลประโยชน์ ที่มีความแข็งแกร่งในการต่อรอง ผลประโยชน์กับภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ส่งผลให้กิจการมีความต่อเนื่อง ปราศจากคู่แข่ง จึงมีลักษณะผูกขาด และมีเสถียรภาพมาก
2) หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล ขาดความรับผิดชอบอย่างจริงจังต่อการบริหารจัดการระบบขนส่ง ระบบราชการบริหารขาดความต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่รัฐละเลยการปฏิบัติหน้าที่ บางหน่วยงานมีการเรียกรับผลประโยชน์จากรถสี่ล้อแดง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถสี่ล้อแดงด้วยวิธีการแบบผ่อนปรน และประนีประนอม ทำให้สภาพปัญหาเกิดความยืดเยื้อ และมีส่วนสร้างอำนาจการต่อรองให้แก่รถสี่ล้อแดงด้วย
(2) ปัญหาในการจัดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่แบ่ง ออกเป็น 2 ช่วง ด้วยกัน คือ
1) ช่วงก่อนปี พ.ศ.2544 เมืองเชียงใหม่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ขาดระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพในการรองรับการเดินทาง รถสี่ล้อแดงที่ให้บริการอยู่เดิมก็มีประสิทธิภาพต่ำลงเรื่อยๆ ภาคประชาชนในฐานะผู้ใช้บริการ ก็ขาดพลังในการเรียกร้องให้ราชการดำเนินการใดๆ กลับหาทางออกให้ตนเองโดยการหันไปใช้ยานพาหนะส่วนตัว ส่วนที่เรียกร้องให้ปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะก็เป็นเพียงส่วนน้อยและขาดพลังในการรณรงค์ เกิดเป็นปัญหาการจราจรติดขัด และปัญหามลภาวะทางอากาศ ราชการระดับจังหวัดที่มีหน้าที่กำกับดูแล อาทิ ผู้ว่าฯ สำนักงานขนส่ง ตำรวจ และเทศบาลฯ ขาดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเป็นระบบการบริหารแบบแยกส่วน ขาดเอกภาพ และขาดความต่อเนื่อง
2) ช่วงปี พ.ศ.2544 ถึง พ.ศ.2549 รัฐบาลกลางกับผู้บริหารเทศบาลฯ เป็นกลุ่มการเมืองเดียวกัน จึงต้องการเข้ามาปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ คือ โครงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์เทศบาลฯ) แต่ปรากฏว่า เกิดการประท้วงจากรถสี่ล้อแดงในปี พ.ศ.2546 ในที่สุดฝ่ายการเมือง ก็เลือกที่จะไม่แก้ไขปัญหาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองเชียงใหม่ โดยเลือกเพียงจัดให้มีรถโดยสารประจำทางขึ้นบางสาย ดังนั้น โครงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ด้วยรถโดยสารประจำทางซึ่งเป็นนโยบายของฝ่ายการเมือง โดยมีเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบ จึงกลายเป็นความพยายามที่ล้มเหลวอีกครั้งหนึ่ง อันเกิดจาก1) ฝ่ายการเมืองไม่เอาจริงเอาจังต่อโครงการ ที่นำเข้ามาไม่สามารถประสานความร่วมมือกับกลุ่มผลประโยชน์ คือ สหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด ได้ลงตัว 2) การประท้วงอย่างแข็งขันของรถสี่ล้อแดง โดยที่รัฐบาลเสียงข้างมากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไม่สามารถจัดการได้ สะท้อนให้เห็นผลประโยชน์มหาศาลที่อยู่ในกลุ่มรถสี่ล้อแดง สำนักงานขนส่งจังหวัด ตำรวจ และกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ และ 3) ขาดพลังสนับสนุนและการเรียกร้อง ให้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจากภาคประชาชน
(3) บทเรียนที่ผ่านมาของการจัดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่นั้น พบว่า ความล้มเหลวในการจัดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ที่ผ่านมา มาจากปัจจัยพื้นฐาน คือ 1) การขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน อันเนื่องมาจากระบบราชการที่มีการรวมศูนย์อำนาจแบบแตกกระจาย นำไปสู่การขาดเจ้าภาพ หรือผู้นำในการบริหารจัดการ ระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ และการมีระบบราชการที่ขาดความต่อเนื่อง มีการโยกย้ายข้าราชการบ่อยเกินไป 2) เกิดการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคล และส่วนรวมของทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีส่วนสำคัญต่อการจัดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ อาทิ สำนักงานขนส่ง ตำรวจ เทศบาลฯ และสหกรณ์ฯ แต่ละฝ่ายล้วนคำนึงถึงผลประโยชน์ของกลุ่ม แต่ไม่มีใครคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก 3) ขาดพลังเรียกร้องและแรงผลักดันจากประชาชนผู้ใช้บริการอย่างแข็งขัน ที่จะทำให้ฝ่ายการเมืองและภาคราชการเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหา
6. นับเป็นเรื่องท้าทายและควรสนับสนุนให้รัฐบาล คสช. ท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจ เครือข่ายประชาชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่ขับรถแดงหาเลี้ยงชีพด้วย ควรเริ่มต้นปฏิรูปกันอย่างจริงจัง
ปลดแอกจากกลุ่มผลประโยชน์ที่ทำตัวเป็นเหมือนปลิงดูดเลือดเสียเถิด
ประชาชนและผู้บริโภค รวมถึงลูกหลานคนขับรถแดงเชียงใหม่ในอนาคตจะสรรเสริญ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี