วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

ดูทั้งหมด

  •  

ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา นำมาสู่การปะทะกันตามแนวชายแดนต่อเนื่อง

ล่าสุด สหรัฐ และจีน ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเจรจายุติการสู้รบ


ในส่วนของสหรัฐ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ งัดเอาภาษีโต้ตอบมาขู่ทั้งไทยและกัมพูชาด้วย

ทำให้สถานการณ์สู้รบที่มีผลต่อเศรษฐกิจอยู่แล้ว ผูกเข้ากับภาษีโต้ตอบของสหรัฐที่จ่อจะเริ่มใช้ 36% ในวันที่ 1 ส.ค.นี้แล้วด้วย

1. ผลกระทบทางเศรษฐกิจการค้า จากสถานการณ์สู้รบกัมพูชา

เที่ยวบินไทย – กัมพูชา ยังปกติ

กระทรวงการท่องเที่ยวฯเชื่อสถานการณ์ชายแดนไม่กระทบท่องเที่ยว ตัวเลขยังเพิ่มต่อเนื่องทะลุ
1 แสนคนต่อวัน

นักวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจกัมพูชาเสี่ยงกระทบมากกว่าไทย หากปะทะชายแดนยืดเยื้อ เนื่องจากมีความเปราะบางมากกว่าไทย และเครื่องมือทางนโยบายน้อยกว่า

กรมบัญชีกลาง ขยายเงินทดรองราชการเพิ่มเติมอีก 100 ล้านบาท ให้ผู้ว่าฯอีก 3 จังหวัด รับมือปัญหาไทย-กัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์ อัดมาตรการเยียวยาเกษตรกร ผู้ประกอบการ รับมือผลกระทบชายแดนกัมพูชา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย”

2. ภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ กับการสู้รบไทย-กัมพูชา

ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งสองประเทศที่จะโดนภาษี 36%

ถ้าไทยเราโดน 20% ว่าเหนื่อยแล้ว ถ้าโดน 36% กระทบหนักแน่นอน

คุณกรณ์ จาติกวณิช มองว่า “เกรงว่าเราออกตัวช้าไป เบาไป อาจจะเชื่อ lobbyist ที่จ้างมามากไป เวลานี้เราต้องหวังว่าทรัมป์จะไม่พิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอของเรากับของเวียดนามและอินโดนีเซีย ที่ได้เสนอเปิดตลาดให้สินค้าอเมริกัน 100% ในอัตราภาษีนำเข้าที่ 0%

ความเสี่ยงวันนี้ คือ อเมริกาอาจเลือกที่จะไม่ตอบรับข้อเสนอรัฐบาลไทยเลย และเดินหน้าเก็บภาษีที่ 36% ตั้งแต่วันศุกร์ที่จะถึงนี้ แล้วค่อยรอให้เรายอมเขาเองภายหลัง

หากเป็นเช่นนี้เราจะได้รับผลกระทบแรงมาก การส่งออกลดลง การลงทุนหาย และการผลิตย้ายไปที่ประเทศเพื่อนบ้านเรา

แต่หากทรัมป์คิดว่าการประกาศสรุปดีลกับเราเป็นผลดีทางการเมืองและเศรษฐกิจให้กับเขา ไทยก็อาจจะโชคดี

ทรัมป์เองมีปัญหาเรื่อง Epstein file อาจจะมองว่าการประกาศดีลการค้าทำให้เขาดูดี

แต่โอกาสสูงที่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเราเท่าที่รัฐบาลเราเชื่อ

เขามีภาระสำคัญกว่า เช่น การปิดดีลกับ EU ส่วนไทยในยุคนี้แทบไม่อยู่ในสายตา

หากตัดสินใจเชือดไก่ให้ลิงดูก็ไม่กระทบอะไรกับตัวเขามาก

และวันนี้เรามีเรื่องอยู่กับกัมพูชา อาจจะเป็นการเพิ่มความไม่นอนในแนวทางการตัดสินใจของอเมริกา ซึ่งหวังว่าจะไม่นำไปสู่การคงอัตราภาษีไว้ที่ 36% ทั้งสองประเทศ เพื่อไม่เป็นการแสดงออกว่าเข้าข้างใคร?

หากเป็นเช่นนี้ กัมพูชาเดือดร้อนแน่นอน ประมาณ 40% ของการส่งออกของเขาไปที่อเมริกาซึ่งส่วนใหญ่คือ เสื้อผ้า ชุดกีฬา ที่สามารถผลิตแทนได้ที่เวียดนาม หรืออินโดนีเซีย

มีโอกาสกระทบแรงงาน 800,000 คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้

ส่งผลต่อเรา หนักเช่นกัน ตลาดหุ้นไทยที่เพิ่งปรับขึ้นมาสองร้อยจุดเป็นด่านแรก ผลต่อเศรษฐกิจ ต่อการว่าจ้าง จะตามมาติดๆ

ผมขอเน้นอีกครั้งว่าผลจะออกมาอย่างไร นี่คือสัญญาณเตือนให้เรารีบพัฒนาตัวเราเอง”

หลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ไทยกับกัมพูชาพูดคุยยุติการสู้รบ โดยหยิบเอาภาษีมาขู่

คุณกรณ์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “..ผมได้เขียนด้วยว่า หากจะมีข้อตกลงได้ อเมริกาต้องไม่ได้เพียงแค่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ทรัมป์ต้องได้ “win” ทางการเมือง

วันนี้จึงมีทางออก ทั้งทางความมั่นคงและทางเศรษฐกิจ

ผมหวังว่าเราได้ตอบว่า “เราไม่เคยต้องการให้เกิดความรุนแรง พร้อมหยุดยิงเมื่อกัมพูชาหยุด และพร้อมตั้งโต๊ะเจรจาเรื่องชายแดนกับกัมพูชาทันที”

กัมพูชาเองจะเดือดร้อนมากจากอัตราภาษีที่สูง ดังนั้น การแทรกแซงโดยทรัมป์น่าจะเป็นทางลงให้ฮุนเซนถอยจากศึกที่เขาไม่มีวันชนะ

การตกลงหยุดยิงน่าจะช่วยให้ทั้งสองประเทศได้รับข้อตกลงภาษีลดลง และเข้าจังหวะที่ทรัมป์ต้องการผลงานการเจรจาสงบศึก หลังจากที่ยังไม่สามารถทำได้ตามที่เคยหาเสียงไว้ในกรณี รัสเซีย/ยูเครน และ อิสราเอล/ปาเลสไตน์

เป็นที่รู้กันว่าทรัมป์ต้องการ Nobel Prize จากผลงานระงับสงคราม

ส่วนเราได้กลับไปเจรจากับกัมพูชาในระดับทวิภาคี โดยไม่มีศาลโลก (ทรัมป์เองก็ไม่ชอบศาลโลก)

เราได้โอกาสนี้มาด้วยเลือดเนื้อและความเสียสละของทหารและประชาชนคนไทย หวังว่ารัฐบาลจะใช้ให้เป็นประโยชน์กับเรา”

3. น่าสนใจว่า สหรัฐจะลดภาษีให้เราแค่ไหน?

ขณะนี้ สหรัฐปิดดีลกับอียูได้แล้ว

คุณกอบศักดิ์ ภูตระกูล ระบุว่า “ยุโรปยอมเปิดตลาดทั้งหมดของประเทศสมาชิก 27 ประเทศ คน 450 ล้านคน ให้กับสินค้าสหรัฐที่ 0%

ขณะเดียวกัน ยอมให้สหรัฐคิด Tariffs 15% บวกกับจ่าย Tariffs อัตราพิเศษ ++ สำหรับเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม (ที่สหรัฐประกาศแล้ว) และยา ชิพ … อื่นๆ (ที่จะประกาศต่อไป)

พร้อมสัญญาเพิ่มเติม ตามแบบดีลญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ 15%

โดยซื้อพลังงานจากสหรัฐ 7.5 แสนล้านดอลลาร์

ลงทุนในสหรัฐอีก 6 แสนล้านดอลลาร์

พร้อมซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐ (แต่ยังไม่บอกตัวเลข)

ซึ่งสอดรับกับการที่สมาชิก NATO ได้ตกลงที่จะจัดงบประมาณด้านกลาโหมให้มากขึ้น

ครั้นพอมีคนถามตรงๆ ว่า “ยุโรปได้อะไรจริงๆ จากดีลนี้”

President of the European Commision บอกว่า “… เรามีความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างกัน ข้อตกลงนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว การค้าจะได้เดินหน้าต่อไป เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองฝ่าย … ”

สรุปง่ายๆ ก็คือ ยุโรปยอมทุกอย่าง เพื่อจะได้ค้าขายกับสหรัฐต่อ

ฝืนยิ้ม กล้ำกลืน ยอมรับ Tariffs ที่ไม่สมดุล 15% ต่อ 0%

ซึ่งน่าจะเป็น One-side Deal ที่สหรัฐได้ข้างเดียว เพื่อสิทธิดังกล่าว 

สำหรับไทย ดีลนี้ก็มีความหมายอย่างยิ่งเช่นกัน เพราะสหภาพยุโรป มี 27 ประเทศ มีคน 450 ล้านคน มีหลายประเทศเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีสินค้าคล้ายๆ กับไทย เป็นคู่แข่งของเรา

เมื่อประเทศเหล่านี้ ได้ดีล 15%

รวมถึงญี่ปุ่น 15%

อินโดนีเซีย 19%

ฟิลิปปินส์ 19%

เวียดนาม 20%

นอกจากนี้ สหรัฐจะมีดีลอีก 2-3 ประเทศ เช่น อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ซึ่งมีโอกาสได้ 20% หรือต่ำกว่าเช่นกัน

ทั้งหมด จะเป็นแรงกดดันต่อภาคส่งออกไทยต่อไป

หลังจากนี้ สำหรับประเทศที่เหลือ ในโค้งสุดท้าย President Trump บอกว่า ให้เตรียมรับจดหมายยืนยันอัตรา Tariffs ที่สหรัฐจะส่งไปให้ก่อน 1 สิงหาคม โดยไม่มีการเลื่อนออกไป รวมถึง จะได้ส่งจดหมายแจ้งอีกร้อยกว่าประเทศ ที่เคยได้อัตรา Minimum 10% ด้วย ว่าจะจบที่เท่าไร มาติดตามกันครับ”

4. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (938,533 ล้านบาท)

ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ที่ร้อยละ 15.5

แต่แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป จะต้องดูภาษีโต้ตอบของสหรัฐว่าจะเจออัตราเท่าใด?

“แนวโน้มการส่งออกครึ่งหลังของปี 2568 การดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลต่อการค้าไทยและโลกอย่างมีนัยสำคัญ

ผลของการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีต่างตอบแทนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อทิศทางการค้าระหว่างประเทศในอนาคตของไทย

โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับใหม่ที่เปิดตลาดมากขึ้นให้กับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ซึ่งได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดี

คาดว่าไทยจะได้รับอัตราภาษีที่เหมาะสม และยังสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกรายอื่นในภูมิภาคได้

ในระยะยาว การสร้างความสมดุลทางการค้ากับสหรัฐฯ ถือว่าจะเป็นโอกาสให้ไทยเร่งปรับปรุงโครงสร้างการส่งออกไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต สร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศเพื่อรองรับการกระจายความเสี่ยงการผลิตและลงทุน และยกระดับสภาพแวดล้อมทางการค้าของประเทศให้แข่งขันได้ในระดับโลกเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการบรรเทาผลกระทบ ภาครัฐได้เตรียมความพร้อมด้วยมาตรการสนับสนุนทั้งภาคธุรกิจและเกษตรกรรม

สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อการส่งออกในครึ่งปีหลัง อาทิ ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลไม้ที่กำลังออกสู่ตลาด สงครามในตะวันออกกลาง การชะลอการลงทุนเพื่อรอดูท่าทีการเจรจา การปรับตัวของผู้ส่งออกในการปรับเปลี่ยนแหล่งนำเข้าวัตถุดิบให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของการลดภาษีของสหรัฐฯ

สถานการณ์เหล่านี้เป็นประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์ยังคงต้องติดตามและหามาตรการรับมือ เพื่อแก้ปัญหา และหาแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสมต่อไป”

5. ศึกหนักเศรษฐกิจไทย ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว

วิจัยกรุงศรี ให้มุมมองที่ต้องจับตาหลังจากนี้ ระบุว่า

“จับตาผลการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ

หลัง 2 ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนต่อรองภาษีตอบโต้เหลือ 19-20%

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อาจชะลอลงจากปีก่อน

แม้มีมาตรการรองรับผลกระทบสงครามการค้าจาก BOI แต่ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ

เลขาฯสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยว่า จากการประกาศใช้นโยบายเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯล่าสุด ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ประกอบกับการแข่งขันทางธุรกิจในประเทศมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ทาง BOI จึงออกมาตรการ “ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย เพื่อรองรับโลกยุคใหม่” โดยมีเป้าหมาย คือ (i) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเสริมสร้าง Supply Chain ในประเทศให้แข็งแกร่ง และ (ii) ลดความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ และจัดระเบียบการลงทุนเพื่อรักษาสมดุลในการแข่งขันทางธุรกิจให้เหมาะสม

ข้อมูลจาก BOI ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่จำนวนโครงการ (822 โครงการ หรือ +20% YoY) และมูลค่าการลงทุน (4.31 แสนล้านบาท หรือ +97% YoY)

นำโดยการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ นับเป็นแรงกดดันที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานโลก และพึ่งพาการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯเป็นหลัก

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการว่าจะสามารถลดอัตราภาษีตอบโต้ให้ต่ำกว่า 36% ได้หรือไม่

ขณะที่ประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียสามารถเจรจาลดอัตราภาษีลงเหลือ 20% และ 19% ตามลำดับ

หากไทยเผชิญอัตราภาษีที่สูงกว่าอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะต่อไป

จำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวอย่างช้าๆ วิจัยกรุงศรีคาดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดเพียง 34 ล้านคน

ล่าสุดข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 13 กรกฎาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยรวม 17.75 ล้านคน ลดลง 5.6% YoY สร้างรายได้ 8.22 แสนล้านบาท

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้

จากข้อมูลรายสัปดาห์ล่าสุดแม้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับกว่า 10,000 คนต่อวัน จากราว 7,000-8,000 คนต่อวัน ในช่วงก่อนหน้า แต่ยังนับว่าต่ำเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่เคยมากถึง 30,000 คนต่อวัน

สะท้อนให้เห็นว่า การฟื้นตัวยังอ่อนแอและยังไม่กลับเข้าสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งนอกจากผลกระทบจากความกังวลด้านความปลอดภัยแล้ว ยังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศคู่แข่ง เช่น ญี่ปุ่น และเวียดนาม

ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ วิจัยกรุงศรี ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยในปี 2568 ลงเหลือ 34 ล้านคน

จากเดิมคาดที่ 36.5 ล้านคน

และลดลงจากปีก่อนที่ 35.5 ล้านคน

โดยประเมินว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่สามารถเร่งตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ แม้บางประเทศจะมีแนวโน้มดีขึ้น อาทิ อินเดีย และยุโรป แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยช่องว่างของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเป็นตลาดหลักของไทย” สรุป

เท่ากับว่า เศรษฐกิจไทยเจอศึกหนัก เครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวหลักๆ จะกระทบหมด

ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว

นักการเมืองตื่นหรือยัง รัฐบาลตื่นหรือยัง

เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพกว่านี้ มีศักยภาพกว่านี้

มีผู้นำที่มีบารมี มีความสามารถที่จะพาประเทศไทยรอด สร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกภาคส่วนมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ได้หรือยัง?

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:47 น. ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’
06:00 น. ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน
06:00 น. LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79
06:00 น. ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง
06:00 น. ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์
ดูทั้งหมด
ทรงเป็นแบบอย่าง! สมเด็จพระราชินี เก็บขยะเกาะราชาใหญ่ หลังแข่งคิงส์คัพรีกัตต้า (คลิป)
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
ทนายแก้ว เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากเป็นไปตามข่าว ผิดถึงขั้นประหารชีวิต
กรมอุตุนิยมวิทยา เผย เตรียมรับมือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้
ดูทั้งหมด
ราชาอินเดียนแดงผู้ถูกทรยศ
จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC
ไม่มีคำตอบ
สงครามไทยรบเขมร
ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ ฝ่ายทหารชั้น นายพล นั่งรองผู้บัญชาการ รร. ทม. รอ.

เปิดคลิปนาทีทหารไทย ยิงถล่ม อนุสาวรีย์ม้าทอง สัญลักษณ์กองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา

ห้ะ คิดได้ไง? สฤณี แขวะไทยรบเขมร เพราะ ฮุนเซ็น มีน้ำใจ

นิกรเดช บรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ให้แก่คณะทูตานุทูต

รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวล หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชากลับมาตึงเครียด

ในหลวง พระราชินี พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของให้พลทหารที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา

  • Breaking News
  • ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’ ‘เขมร’ตอแยไม่เลิก ขน BM-21 รุกรานไทย ยิงเข้า‘ซำแต-ภูผี-ช่องตาเฒ่า-ปราสาทตาควาย’
  • ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน ทะลุล้าน ‘โต๋นแตร-ทินกร’ โปรโมทซีรีส์กลางสยาม ‘I Promise I Will Come Back ฉันคอยเธอ’ รีรัน
  • LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้  ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79 LG ร่วมกับ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ สร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ส่งมอบ ‘ห้องหนังเพื่อการเรียนรู้’ ห้องที่ 79
  • ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง ‘แผนรักฉบับร้าย’ คึกคัก ‘มิกค์-พิ้งค์พลอย’ นำทีม ชวนทัพนักแสดงเมาท์ฉ่ำ รับกระแสสุดปัง
  • ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์ ‘นิว นภัสสร’ เปิดตัว Bibbidii Line Up 2026 ผุดโปรเจ็กต์ใหม่เอาใจแฟนๆ สายซีรีส์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

9 ธ.ค. 2568

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง  รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

8 ธ.ค. 2568

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

5 ธ.ค. 2568

พูดแล้วทำ  กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

4 ธ.ค. 2568

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

3 ธ.ค. 2568

ลดเพดานค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศ  ลดพื้นที่ขูดรีดประชาชน

ลดเพดานค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศ ลดพื้นที่ขูดรีดประชาชน

2 ธ.ค. 2568

เพดานค่าโดยสารเครื่องบินสูงเกินไป  ย่อมเปิดช่องให้ขูดรีดประชาชน

เพดานค่าโดยสารเครื่องบินสูงเกินไป ย่อมเปิดช่องให้ขูดรีดประชาชน

1 ธ.ค. 2568

รถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 40 บาทต่อวัน

รถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 40 บาทต่อวัน

28 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved