ปัจจุบัน ทราบว่า มีบุคคลผู้หลบหนีหมายจับเกือบ 20,000 หมาย
ติดตามจับได้น้อย เพราะขาดเจ้าภาพที่จะดำเนินการอย่างจริงจัง
นั่นหมายความว่า คนเหล่านี้ลอยนวล ไม่ต้องเข้ามาพิสูจน์ตัวเองตามข้อหา ซึ่งมีผู้เสียหายต้องสูญเสียความยุติธรรมไปจากการหลบหนีหมายจับเยี่ยงนี้
1. ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 เนื้อหาบางส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่หลบหนีหมายจับโดยตรง
ในกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ใด ถ้ายังมิได้ตัวผู้นั้นมาภายใน 180 วันนับแต่วันที่ศาลออกหมายจับ ให้พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตํารวจแจ้งให้ ผอ.ทะเบียนกลางทราบ และให้ ผอ.ทะเบียนกลาง
ดําเนินการให้นายทะเบียนผู้รับแจ้งย้ายผู้นั้นออกจากทะเบียนบ้าน และเพิ่มชื่อและรายการของผู้นั้นไว้ในทะเบียนบ้านกลาง และให้หมายเหตุไว้ในรายการของบุคคลนั้นว่าอยู่ในระหว่างการติดตามตัวตามหมายจับด้วย
ขณะที่การแจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้ผู้ถูกออกหมายจับที่ไปมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ถ้าได้แจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลนั้น หรือปิดหมายไว้ ณ ภูมิลําเนา หรือที่อยู่ที่ปรากฏตามหลักฐานทางทะเบียนที่ปรากฏครั้งสุดท้าย ก่อนย้ายมาในทะเบียนบ้านกลาง ให้ถือว่าได้แจ้ง ยื่น ส่ง หรือปิดโดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้นั้นได้รับทราบแล้ว
เริ่มมีผลใช้บังคับในวันที่ 15 เม.ย. 2562
เรื่องนี้ ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกสภาทนายความ ให้คำอธิบายเพิ่มเติมว่า ทะเบียนบ้านกลาง คือ ทะเบียนบ้านสำหรับลงรายการบุคคลที่ไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน บุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลางไม่สามารถใช้อ้างอิงหรือยืนยันที่อยู่ของตนตามทะเบียนบ้านได้เพราะบ้านเลขที่ตามทะเบียนบ้านกลางที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือที่ตั้งของสำนักงานเขต หรือที่ตั้งของสำนักทะเบียนราษฎรในแต่ละท้องที่
โดยทั่วไป กรณีที่ชื่อจะไปปรากฏอยู่ในทะเบียนบ้านกลางได้ จะเกิดจากการที่เจ้าบ้านแจ้งว่า ผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านของตน ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของตน ได้ย้ายออกไปนานแล้ว ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ไม่ทราบว่าปรากฏชื่อได้อย่างไร หรือตัวบุคคลนั้นแจ้งย้ายออกจากที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งย้ายเข้าไปในทะเบียนบ้านอื่น คนกลุ่มนี้ก็จะถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเดิม และเมื่อไม่มีที่อยู่ใหม่ ชื่อจึงต้องไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง
“...การจำหน่ายชื่อของเขาออกไปโดยเขาไม่ยินยอม การระบุไว้ในทะเบียนบ้าน เท่ากับเป็นการประจานตัวบุคลไปด้วย ทั้งๆ ที่ รัฐธรรมนูญให้สันนิษฐานไว้ว่า บุคคลเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนเป็นส่วนรวม ซึ่งเป็นสิทธิของคนหมู่มาก ก็จะเห็นได้ว่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ระบุไว้ชัดว่าสามารถทำได้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติมาเรียบร้อยแล้ว เป็นการใช้ระบบทะเบียนราษฎรให้มีประโยชน์ต่อการอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน และวันนี้กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว แปลว่าฝ่ายนิติบัญญัติได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การออกกฎหมายฉบับนี้แม้จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ ประโยชน์สาธารณะย่อมอยู่เหนือประโยชน์ส่วนตน ดังนั้น หากมีหมายจับ กฎหมายต้องการให้ท่านแสดงตนเพื่อเข้าต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม กฎหมายต้องการให้สู้ไม่ใช่หนี และในวันนี้ หากท่านหนี ท่านจะมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านใหม่ แม้จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม และเหนือสิ่งอื่นใด ในทะเบียนบ้านใหม่ของท่านจะมีข้อความระบุให้คนทั่วไปเข้าใจได้ว่า ท่านกำลังหนีหมายจับ”
2. กรณีนี้ ทำให้นึกถึงข่าวในช่วงที่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา
มีคนจมน้ำตาย บริเวณริมบึงภายในวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี ใส่วิก ปลอมตัวมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งให้ส่งสัญญาณจับกุมหลังใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่เจ้าตัววิ่งหลบหนี ข้ามถนน ลงอุโมงค์ เข้าประตูมาภายในวัดพระศรีมหาธาตุ ก่อนที่จะกระโดดน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
ผู้ตาย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครสวรรค์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
นอกจากนี้ ยังมีหมายจับอื่นๆ รวมทั้งหมดจำนวน 19 คดีหมายจับ 16 หมายจับ!
มีผู้เสียหายในหลายพื้นที่ อาทิ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.พะเยา จ.ตราด จ.ลำปาง จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ จ.พิจิตร จ.นครปฐม จ.กาญจนบุรี เป็นต้น พฤติการณ์ล่าสุด หลอกขาย
น้ำตาลทรายกว่า 10 ปี
กรณีแบบนี้ เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ เพราะผู้หลบหนีหมายจับจะถูกย้ายเข้าไปมีชื่อในทะเบียนบ้านกลาง และจะถูกให้ข้อมูลด้วยว่ามีหมายจับติดตัว ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ เจ้าหน้าที่ก็จะรู้ คงจะไม่กล้าแม้แต่จะปลอมตัวมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
3. ทางที่ดี ทางที่ถูกต้อง ทางที่สมควร ผู้หลบหนีหมายจับ ควรต้องเข้ามามอบตัว ต่อสู้คดี
เพราะนับวัน ต้นทุนการหลบหนีก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ....แล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการติดตามจับกุมตัวผู้หลบหนีหมายจับมากขึ้นไปอีก เพราะจะมี “เจ้าพนักงานตำรวจศาล”มีอำนาจหน้าที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หลบหนีหมายจับ มีอำนาจเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใดๆ เพื่อตรวจค้นหรือจับกุมผู้หลบหนีหมายจับ เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวหลบซ่อนอยู่และมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากเนิ่นช้าไป บุคคลดังกล่าวจะหลบหนี ทั้งนี้ หากเจ้าของหรือผู้รักษาสถานที่นั้นไม่ยอมให้เข้าไปเจ้าพนักงานตำรวจศาลมีอำนาจใช้กำลังเพื่อเข้าไปได้ เป็นต้น
4. ย้ำว่า ปัจจุบัน มีบุคคลหลบหนีหมายจับอยู่เกือบ 20,000 คน
ในจำนวนนี้ มีคนดัง ตระกูลดัง บุคคลผู้มีอิทธิพล มีเส้นสาย มีเงินทอง หลบหนีหมายจับอยู่ด้วยหลายคน
ยกตัวอย่าง
นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ลูกชายเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง
นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ และนางเขมพรต่างใจเย็น ภรรยา
นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ
นายประชา มาลีนนท์
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมือง แกนนำเคลื่อนไหว รวมไปถึงผู้ก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนอีกจำนวนมาก หลบหนีหมายจับ ยังลอยนวลอยู่
คนเหล่านี้ คือ คนที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่
ส่วนสุจริตชน พลเมืองดีทั้งหลาย ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี