วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ที่มีชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” โปรดแก่ปัญจวัคคีย์ ซึ่งในวันนี้พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันและทูลขออุปสมบท จึงเป็นวันที่ครบพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระพุทธองค์ทรงฝากพระพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัท จึงเป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนต้องช่วยกันดูแลรักษา และประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรมย่อมได้รับประโยชน์โดยตรง และยังเป็นการช่วยสืบต่อพระศาสนาให้ยืนยาวต่อไปด้วย
ขอถือโอกาสนี้เทศน์นอกธรรมาสน์ด้วยคน
เรื่องที่จะเทศน์นอกธรรมาสน์วันนี้ ก็คือเรื่อง “ความเมาใจ” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน เพราะ “อันเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน”
อันของเมาสำหรับใจนั้นได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่ไม่ว่าใครก็มักอยากได้ ลาภคือทรัพย์สิ่งของที่ได้ ยศ คือความเป็นใหญ่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ หรือความมีบริวารและพวกพ้อง หรือเกี่ยวกับเกียรติ สรรเสริญ คือความยกย่อง ชมเชย สุข คือความผาสุกและสิ่งบำรุงความสุขต่างๆ
ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการและแสวงหาก็จริง แต่ถ้าเป็นคนที่มี “ใจเมา” เสียแล้ว การแสวงหาดังกล่าวจะเป็นการแสวงหาที่ไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผิดหรือจะถูก
แต่สำหรับคนที่มีสติ รู้จักประมาณในการแสวงหา ย่อมจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่กับสิ่งที่แสวงหามา มีลาภมาก มีทรัพย์สินเงินทองมาก ถ้ามีสติก็จะใช้ทรัพย์นั้นไปในทางที่มีประโยชน์แก่คนอื่นๆด้วย
คนที่มียศสูงใหญ่ มีกำลัง มีอำนาจ มีคนนิยมนับถือมาก ถ้าเป็นคนมีสติย่อมสามารถบำเพ็ญประโยชน์ได้มากเช่นเดียวกัน คนที่ได้รับการสรรเสริญ หากมีสติ ไม่ใหลหลงในคำป้อยอ ก็จะเป็นคนที่มีความระมัดระวังการกระทำของตน ไม่ให้ทำอะไรผิดคนที่มีสุขมีเครื่องบำรุงความสุขมาก หากมีสติจะคิดถึงคนอื่นที่มีทุกข์ และเผื่อแผ่แก่คนอื่นให้พ้นทุกข์ และทำประโยชน์แก่คนอื่นได้มาก ส่วนคนที่ขาดสติ หลงระเริงไปในทรัพย์ ในยศถาบรรดาศักดิ์ โดยไม่คำนึงถึงคุณโทษใดๆ ยิ่งได้เท่าไรก็อยากได้ต่อไปอีก คนประเภทนี้เป็นคนที่เมาใจ
เมาในตำแหน่งหน้าที่ อยากอยู่ต่อไปให้นานๆ
เป็นคนที่ไม่รู้ว่า “สติเป็นเครื่องกั้นแห่งกระแสคลื่นทั้งหลาย”
คำว่า “สติ” นั้นถ้าจะแปลความหมายอย่างง่ายๆ ก็คือ “ความระลึกได้” นั่นเอง คือระลึกได้ถึงความถูก ความผิด ความดี ความไม่ดี ระลึกถึงได้ในความรับผิดชอบชั่วดี ซึ่งเป็นเครื่องห้ามความอยากที่ผิดๆ ความโกรธและความหลงที่มีอาการต่างๆ แม้กระทั่ง “ความลืมตัว” ที่จะเกิดขึ้น
ความลืมตัวทำให้สำคัญตนเองผิด เป็นการขาดสติที่จะระลึกได้ว่าตนเป็นอะไร ฐานะแห่งความรู้ ฐานะแห่งการงานและตำแหน่งหน้าที่ ฐานะแห่งการเงินและฐานะในเรื่องต่างๆ ที่ทุกคนควรจะรู้ในฐานะของตนดังกล่าว
แม้จะปิดบังหรือลวงคนอื่นได้ แต่ตัวเองรู้แก่ใจ
อะไรเป็นเครื่องทำให้ขาดสติ คำตอบมีหลายอย่างเช่น ความมีทรัพย์ มีอำนาจ ความคะนองลำพองใจ สิ่งดังกล่าวนี้ทำให้สืบฐานะเดิมของตนได้ง่ายๆ เข้าใจว่าตนวิเศษกว่าคนอื่น จะต้องจัดการกับคนอื่นที่มากล้ำกราย บางที่ได้รับการยกย่อง ป้อยอมาก ก็เข้าใจไปตามนั้น ลืมไปว่าความดีเกิดจากกรรมที่ดี คือกระทำดี
คนที่มีสติจะเป็นคนที่มีเครื่องยับยั้งสิ่งต่างๆเหล่านี้
ธรรมดาผู้เป็นปุถุชนนั้น ความปรารถนาหรือความต้องการนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อมีความปรารถนาหรือความต้องการเกิดขึ้นเมื่อใด ให้ทำสติพิจารณาใจตนเอง อย่างผู้มีปัญญา อย่าคิดเอาเอง ว่าใจเป็นอย่างไร ก็จะพบความจริงแน่นอน ว่าใจเป็นทุกข์ ใจเร่าร้อนด้วยอำนาจของความปรารถนาที่ต้องการ ใจจะไม่สงบ
ระลึกอยู่ตลอดเวลาว่าความปรารถนาเป็นของร้อน เป็นสิ่งที่ไม่แพ้ความโลภ เป็นสิ่งที่อยู่ยงคงกะพัน ถ้าไม่มีสติในการควบคุมจิตใจก็ยากที่จะดับ
ความโลภเป็นสิ่งที่ควรลดควรละ ไม่ควรเพิ่ม เมื่อสติเกิด ปัญญารู้ผิดชอบชั่วดีก็เกิด เมื่อดับความโลภได้ ความอิ่มเอิบเย็นฉ่ำจะเกิดขึ้นในใจ เป็นพื้นฐานที่ดีงามของจิตใจอย่างหนึ่ง จะเป็นสิ่งที่มีค่าที่ไม่มีอะไรจะมาเปรียบได้ จะเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเองที่ไม่มีอะไรจะมาเปรียบได้
“จิตเหมือนนาย กายเหมือนบ่าว” เป็นคำพูดเปรียบเทียบที่เคยได้ยินได้ฟังกันมาแล้ว ขอฝากไว้ในการเทศน์นอกธรรมาสน์ครั้งนี้ด้วย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี