วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
ประเทศไทยมีสองน้ำ น้ำท่วมกับน้ำแล้ง เพราะผู้บริหารประเทศไม่มีน้ำยา

ดูทั้งหมด

  •  

ปีนี้ประเทศไทยเข้าหน้าฝนแล้ว แต่ปรากฏว่าหลายพื้นที่ในประเทศนี้ ยังคงมีข่าวความแห้งแล้งให้เห็นตลอดเวลา มีข่าวว่าต้นกล้าข้าวที่ชาวนาหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวไปแล้ว แห้งตายไปเป็นจำนวนหลายพันไร่ เพราะขาดน้ำ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าหลายพื้นที่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง และเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา รวมถึงมีข่าวว่าผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่เลี้ยงปลาตามลำน้ำต่างๆ ขาดทุนหนัก เนื่องจากปลาตายเพราะขาดน้ำ

เมื่อมีข่าวความแห้งแล้งจนหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับสภาวะวิกฤติ จึงทำให้หน่วยงานราชการหลายหน่วยต้องเข้าไปเร่งแก้ปัญหานี้ ตัวอย่างเช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ (war room) เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ในขณะที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกกองทัพให้ความช่วยเหลือกับประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และส่งการให้ทุกหน่วยบินของเหล่าทัพให้การสนับสนุนการขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวง เป็นต้น


นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการในเขตจังหวัดที่ประสบภัยแล้งได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วน

สามารถกล่าวได้ว่าประเทศไทยต้องประสบกับวิกฤติภัยแล้งมาโดยตลอดเกือบทุกปี และปัญหานี้ดูจะกลายเป็นปัญหาปกติสามัญของประเทศไทยไปแล้ว

เมื่อพิจารณาปริมาณน้ำที่กักเก็บในเขื่อนต่างๆ โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมชลประทาน ณ วันที่ 21 มีนาคม 2562 พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 5 แห่ง มีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 30 ส่วนเขื่อนอื่นๆ อีกจำนวน 21 แห่งมีปริมาณน้ำร้อยละ 30-60 และพบว่ามีเขื่อน 8 แห่งมีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 60-80 และมีอยู่หนึ่งแห่งที่มีปริมาณน้ำกักเก็บมากกว่าร้อยละ 80  

เมื่อพิจารณาตามข้อมูลที่ระบุข้างต้น ทำให้พบว่าในพื้นที่ซึ่งประสบปัญหาความแห้งแล้งนั้น แม้จะมีเขื่อน แต่ก็พบปัญหาคือไม่มีน้ำในเขื่อนในปริมาณที่มากพอ ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ประสบปัญหาภัยแล้งนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ในปริมาณที่มากกว่า
ร้อยละ 50 ดังนั้น จึงถือได้ว่านี่คือความสำคัญของการมีเขื่อน แต่ที่สำคัญกว่าก็คือเมื่อมีเขื่อนแล้วก็ต้องมีน้ำอยู่ในเขื่อนเป็นปริมาณที่มากพอสำหรับการใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนในเขตนั้นๆ ด้วย

เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้ว ก็ทำให้คิดไปถึงกลุ่มผู้ต่อต้านการสร้างเขื่อน ที่เมื่อจะมีการก่อสร้างเขื่อนคราใด ก็จะมีกลุ่มต่อต้านทุกคราไป โดยอ้างว่าการสร้างเขื่อนเป็นการทำลายป่าไม้ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำลายชีวิตสัตว์ป่า และทำให้ชุมชนที่อยู่ในบริเวณที่ต้องใช้เป็นอ่างเก็บน้ำต้องถูกอพยพเคลื่อนย้ายออกไป ซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธว่าเมื่อก่อสร้างเขื่อนแล้ว จะเกิดผลกระทบบางประการต่อสัตว์ป่า ต่อพันธุ์พืช และต่อผู้คน แต่ก็ต้องพิจารณาให้ลึกลงไปด้วยว่า เมื่อมีเขื่อนแล้วให้ผลดีหรือผลเสียต่อสาธารณะมากกว่ากัน แล้วถ้าไม่มีเขื่อน สาธารณะจะได้รับผลเสียมากกว่าผลดีหรือไม่

บางคนอ้างว่า ก็ในเมื่อมีเขื่อนอยู่แล้ว ยังไม่มีน้ำในเขื่อน แล้วจะต้องสร้างเขื่อนเพิ่มเพื่ออะไร ก็ต้องตอบว่า แล้วผู้ตั้งคำถามหรือผู้คัดค้านการสร้างเขื่อนตอบได้หรือไม่ว่า ทำไมจึงไม่มีน้ำในเขื่อน แล้วทำไมในช่วงแรกๆ ของการมีเขื่อนจึงมีน้ำอยู่ในเขื่อน เรื่องแบบนี้ต้องเปิดใจให้กว้าง พิจารณาผลดี ผลเสีย ให้รอบคอบ ไม่ใช่เอะอะก็บอกว่าสร้างเขื่อนคือการทำลายป่าไม้ ทำลายสัตว์ป่า และทำให้ชุมชนต้องถูกอพยพ เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขและหาทางออกที่เหมาะสมได้

นอกจากประเทศไทยจะประสบปัญหาน้ำแล้งซ้ำซากแล้ว ยังต้องประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอีกด้วย เพราะทุกปีเมื่อถึงช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกหนัก ก็จะปรากฏข่าวน้ำท่วมในพื้นที่เดิมๆ เป็นข่าวซ้ำซากตลอดมา เช่น ที่บางระกำ จังหวัดพิจิตร หรือบริเวณลุ่มน้ำยม ในจังหวัดสุโขทัย และลุ่มน้ำปิงตอนล่าง (เขตจังหวัดกำแพงเพชร-นครสวรรค์) แม้กระทั่งในเขตราบลุ่มภาคกลาง อย่างเช่น อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งปรากฏข่าวน้ำท่วมแทบทุกปี

สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้งในประเทศไทยมาโดยตลอดจะพบว่า หลายพื้นที่ที่ระบุในข้างต้นมีปัญหาน้ำท่วมสลับกับน้ำแล้งเป็นประจำ พอถึงหน้าฝน ก็ประสบภัยน้ำท่วม แต่หลังจากฤดูฝนผ่านพ้นไปไม่นาน ก็เกิดปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งปัญหาเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติสามัญในสังคมไทย ถ้าหากคนไทย และผู้บริหารประเทศของไทยร่วมกันคิดหาทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงๆ จังๆ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วก็มาตามแก้ปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูแล้วน่าสังเวชเป็นที่สุด

หลายคนคงตอบได้ว่ามูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฝนแล้งในบ้านของเราคือ การกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ รวมถึงยังมีเหตุปัจจัยอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศและอุณหภูมิของโลก (ปัญหาโลกร้อน และปัญหาสภาวะเรือนกระจก)

แน่นอนว่าต่อให้เราเร่งกลับไปปลูกป่าต้นน้ำในตอนนี้ ก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้โดยทันที เพราะว่ากว่าป่าไม้จะเติบโตสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี แต่ถึงกระนั้นเราทุกคนก็ต้องร่วมกันปลูกป่าและรักษาป่าต้นน้ำ โดยเฉพาะป่าต้นน้ำที่อยู่เหนือพื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับผู้ตัดไม้ทำลายป่า เพราะพูดมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยพบว่าจะสัมฤทธิผลอย่างจริงจัง เนื่องจากสาธารณชนทราบดีว่าผู้ที่ทำความผิดฐานตัดไม้ทำลายป่า หรือโค่นป่าได้ทีละหลายๆ หมื่นไร่นั้นไม่ใช่คนธรรมดาสามัญอย่างพวกเรา แต่ล้วนเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลระดับชาติทั้งสิ้น แล้วกระบวนการยุติธรรมของไทย ก็เกือบจะไม่เคยนำตัวผู้มีอิทธิพลเถื่อนเหล่านั้นไปลงโทษขั้นเด็ดขาดได้เลย

แต่ผู้เขียนขออนุญาตพูดถึงกลุ่มคนคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนด้วยความเคารพในวิจารณญาณและความหวังดีของคนกลุ่มดังกล่าวที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะต่อป่าไม้ สัตว์ป่า และต่อผู้คนในเขตที่ต้องถูกใช้พื้นที่เพื่อทำอ่างเก็บน้ำ แต่ผู้เขียนก็ยังคงมีคำถามเหมือนเดิมว่า ผู้คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนตอบได้หรือไม่ว่า หากไม่มีเขื่อนกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นในบ้านในเมืองของเรา สาธารณชนจะประสบปัญหาเรื่องน้ำอย่างไรบ้าง

เราต้องไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่า ปัจจุบันนี้บ้านเมืองของเรามีประชากรเพิ่มมากกว่าเมื่อ 40-50 ปีก่อน หลายเท่า และบ้านเมืองของเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำเพื่อการเกษตร และการอุตสาหกรรมมากกว่าเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาหลายเท่าเช่นกัน แต่คุณที่คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนตอบได้ไหมว่า ในช่วงระยะ 40-50 ปีที่ผ่านมา ไทยมีเขื่อนขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นกี่แห่ง แล้วการเพิ่มของเขื่อนมีความสมดุลกับจำนวนประชากร และปริมาณความต้องการใช้น้ำของประชากรทุกภาคส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่

ขอให้ผู้คัดค้านการก่อสร้างเขื่อน โดยเฉพาะพวกที่ค้านแบบไร้เหตุผล ค้านเพราะอยากดัง และค้านเพราะต้องการเป็นข่าว เพื่อจะได้เพิ่มค่าตัวเวลาที่ต้องการรายได้พิเศษ กรุณาตอบให้ชัดด้วยว่า นับตั้งแต่ 50 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของผู้ต่อต้านการสร้างเขื่อนมีประชากรเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพิ่มขึ้นกี่คน แล้วคนเหล่านั้นจำเป็นต้องใช้น้ำหรือไม่ หากผู้คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนยืนยันได้ว่าสมาชิกในครอบครัวของตนที่เพิ่มมากขึ้น แต่สามารถลดปริมาณการใช้น้ำได้อย่างมีนัยสำคัญ ก็ยังพอจะรับฟังได้ว่ามีกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ใช้น้ำแบบสุรุ่ยสุร่าย แต่เท่าที่ผู้เขียนเคยพบคือ กลุ่มผู้ต่อต้านการสร้างเขื่อนหลายราย ยังล้างรถยนต์ด้วยการเปิดน้ำจากสายยางแล้วฉีดล้างรถ บางรายมีอ่างอาบน้ำในบ้านด้วย ก็ต้องขอบอกตรงๆ ว่าคนที่คัดค้านการสร้างเขื่อน แต่มีพฤติกรรมการใช้น้ำเช่นนี้ เข้าตำราดีแต่ปาก ปากว่าตาขยิบ (ขออภัยที่พาดพิงไปถึงผู้ล้างรถยนต์ด้วยการฉีดน้ำจากสายยาง และผู้ใช้อ่างอาบน้ำ ผู้เขียนมิมีเจตนาจะกล่าวหาว่าคุณล้างผลาญทรัพยากรน้ำ แต่เพียงจะเปรียบเปรยให้เห็นว่าคนที่คัดค้านการสร้างเขื่อนก็ยังคงมีพฤติกรรมใช้น้ำไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ ที่เขาไม่คัดค้านการก่อสร้างเขื่อน)

เหตุผลหนึ่งที่การแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ในบ้านเมืองของเราก็เพราะสังคมของเรามีคนจำพวกปากว่าตาขยิบ และคนชอบสร้างภาพให้ตัวเองดูดีเกินจริง พวกที่ค้านตะพึดตะพือ ค้านดะ ค้านโดยไม่มีเหตุผล ค้านเพื่อสร้างภาพ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆ

ส่วนมูลเหตุสำคัญอีกประการที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากไปได้ ก็เพราะความไร้สติ ไร้ปัญญาของผู้นำการเมือง และผู้นำในหน่วยราชการ โดยเฉพาะในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องน้ำ เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ที่ประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากได้ก็เพราะว่า สังคมไทยมีผู้นำการเมืองที่ขาดปัญญา แถมยังมีข้าราชการระดับสูงที่ไร้สติ ปัญหาจึงเรื้อรังยืดเยื้อดังปรากฏเช่นทุกวันนี้  

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:32 น. ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ
14:24 น. 'อ.ไชยันต์'เตือนสติ ถ้าประเทศไม่มีสถาบัน
14:19 น. รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค
14:08 น. เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’
14:07 น. โคตรคุ้ม 'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
'สิทธิชัย สันติวิจิตร'จี้'ม.นครพนม'ทบทวนมอบปริญญากิตติมศักดิ์ 'ก้อง ห้วยไร่'
ดูทั้งหมด
รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’
บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?
กินแห้ว
ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม
บุคคลแนวหน้า : 17 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ

'อ.ไชยันต์'เตือนสติ ถ้าประเทศไม่มีสถาบัน

รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค

รวบเซ็กซ์ครีเอเตอร์! ลวงเด็กม.3 ถ่ายคลิปวิตถารที่สาธารณะ

หนุ่มอิสราเอลนวดไทยไม่พอใจ! ขอเงินคืนไม่ได้ ฉกซองผ้าป่าหนี วินจยย.ช่วยตะครุบตัว

'นายกฯ'หารือทูตจีน ย้ำมิตรภาพ'ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน' พร้อมร่วมมือปราบสแกมเมอร์

  • Breaking News
  • ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป\'กัมพูชา\'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ
  • \'อ.ไชยันต์\'เตือนสติ ถ้าประเทศไม่มีสถาบัน 'อ.ไชยันต์'เตือนสติ ถ้าประเทศไม่มีสถาบัน
  • รุดตรวจสอบ\'ช้างป่วยตาย\' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค
  • เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’ เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’
  • โคตรคุ้ม \'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์\' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน โคตรคุ้ม 'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สื่อฯ ทาส หรือทาสสื่อฯ

สื่อฯ ทาส หรือทาสสื่อฯ

12 ต.ค. 2568

ขออภัยโทษ แต่ไม่รับโทษ

ขออภัยโทษ แต่ไม่รับโทษ

5 ต.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร จงใจเป็นข่าวตลอดเวลา

ทักษิณ ชินวัตร จงใจเป็นข่าวตลอดเวลา

28 ก.ย. 2568

เพื่อไทยจะส่งพจมานไปแก้เกมการเมือง หรือไม่

เพื่อไทยจะส่งพจมานไปแก้เกมการเมือง หรือไม่

21 ก.ย. 2568

เพ้อพล่ามตามแบบคนสอนหนังสือที่เลื่อนลอย

เพ้อพล่ามตามแบบคนสอนหนังสือที่เลื่อนลอย

14 ก.ย. 2568

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

7 ก.ย. 2568

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

31 ส.ค. 2568

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

24 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved