วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
จะฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติอย่างไร?

ดูทั้งหมด

  •  

 

บทความวันนี้หมายความถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศชาติอันเป็นภาพรวม มิใช่เศรษฐกิจของเจ้าสัวหรือนักการเมืองหรือคนกลุ่มน้อยหยิบมือเดียวแต่ประการใด


เหตุที่ต้องแสดงเรื่องนี้ในวันนี้ก็เพราะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งความจริงคนส่วนใหญ่
ก็รับรู้กันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่ผ่านมารัฐบาลท่านไม่รับรู้ เพราะได้นำเอาบทความในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศบางสำนักที่นำเสนออย่างจำกัดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ กระทั่งบางเรื่องก็กล่าวว่าดีที่สุดในโลกด้วยซ้ำไป

แต่ในที่สุดก็หนีความจริงไปไม่พ้น

เพราะกระแสแห่งสัจจะนั้นมีพลานุภาพดุจดังแสงสว่างที่จะกำจัดขับไล่ความมืดให้หมดไปไม่วันเวลาใดก็วันเวลาหนึ่ง เพราะการซึ่งจะโกหก
หลอกลวงผู้คนนั้นจะทำได้ก็แต่เฉพาะกับบางคนหรือบางโอกาสบางเวลาเท่านั้น ไม่สามารถโกหกหลอกลวงคนทุกคนได้ และไม่สามารถโกหกตลอดไปได้

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ยอมรับว่าประเทศไทยมีปัญหาเศรษฐกิจจริงๆ ซึ่งต้องถือว่าเป็นการยอมรับอย่างลูกผู้ชายเป็นครั้งแรก ดังนั้น จึงได้นำเสนอแนวคิดดังที่แถลงว่าขอร้องให้คนที่มีเงินนำเงินออกมาใช้จ่าย เพื่อจะทำให้เศรษฐกิจเดินได้

แต่ที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงก็คือใครเป็นต้นเหตุทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีปัญหา และการกระทำอะไรบ้างหรือนโยบายอะไรบ้างที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีปัญหา เพราะต้องถือว่านี่คือสมุทัยอริยสัจหรือเหตุแห่งทุกข์ หรือเหตุแห่งปัญหา ซึ่งเมื่อจะแก้ปัญหาแล้วก็ต้องรู้ถึงปัญหานั้น รู้เหตุแห่งปัญหานั้น รู้การดับปัญหานั้น และรู้วิธีการแก้ปัญหานั้นด้วย

รวมความก็คืออริยสัจสี่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้สามารถนำมาปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีสติปัญญาเข้าถึงและนำมาใช้ได้โดยถูกต้องหรือไม่เท่านั้น หากเข้าไม่ถึงและนำมาใช้ไม่ได้ก็เสียทีที่เกิดมาเป็นชาวพุทธ ไม่ต่างอันใดกับจวักที่ไม่รู้รสแกง

ดังนั้นหากจะกล่าวถึงเหตุแห่งปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก็ต้องชี้ไปที่คนรับผิดชอบเรื่องเศรษฐกิจว่าเป็นประการใด และนโยบาย ตลอดจนมาตรการที่ใช้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศชาติและประชาชน

จนมีผู้สรุปว่าประเทศไทยได้ทำเรื่องเพียงสองเรื่องเท่านั้น คือ อวยประโยชน์ให้แก่เจ้าสัวหรือทุนใหญ่หรือต่างชาติ และสำหรับประชาชนโดยเฉพาะคนยากคนจนก็ใช้วิธีการไล่แจกเงินทองโดยวิธีที่เรียกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งได้ใช้เงินไปหลายแสนล้านบาท แต่ทว่าเงินจำนวนมากก็ถูกติติงว่ามิได้หมุนเวียนแบบเดียวกับการรดน้ำต้นไม้ที่รากที่จะซึมซ่านมายังรากใหญ่ ลำต้น ก้าน กิ่ง ใบ และดอก

ดังนั้นการหมุนเวียนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจจึงไม่เกิดขึ้นเพราะเงินส่วนใหญ่หมุนเวียนเพียง 1-2 รอบเท่านั้น และไปบรรจบอยู่ที่เจ้าสัวไม่กี่รายเท่านั้น

ในขณะที่รายได้ของรัฐก็ใช้วิธีเพิ่มและเข้มงวดในการจัดเก็บภาษีมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งได้เพิ่มจำนวนขึ้นจากยุคสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละ 37 ล้านฉบับ ล่าสุดเพิ่มเป็น 90 ล้านฉบับ เดือนหนึ่งออกสองงวด เท่ากับดูดเงินจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศปีละ 200,000 ล้านบาท กระแสเงินจึงหมดไปจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ในขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวที่แผ่ขยายไปทุกพื้นที่ได้ลดหดหายไปเกือบหมด รายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีคนจีนเข้ามาเป็นลำดับหนึ่ง กลายเป็นอินเดียและต้องพึ่งตลาดอินเดีย โดยไม่เคยคิดที่จะแก้ไขปัญหาว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และเชื่อมโยงกับปัญหาการส่งออกซึ่งกระทบไปอย่างกว้างขวางด้วย

เหล่านั้นคือสมุทัยอริยสัจของปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชาติจึงไม่อาจทำได้ด้วยการออกไปตรวจพื้นที่ ถ่ายภาพเผยแพร่ทางสื่อ หรือแค่กระบวนการตั้งคณะกรรมการเหมือนกับที่ผ่านๆ มา หากแต่ต้องมีนโยบายและมาตรการที่เฉียบขาดอย่างตรงเป้าเข้าจุดและเดินงานได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญเห็นจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

ประการแรก ต้องเร่งแก้ไขปัญหาการส่งออกทุกประเภท ซึ่งไม่มีใครดำเนินการมาช้านานแล้ว กลไกของกระทรวงพาณิชย์จะต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรีควรต้องเร่งแต่งตั้งผู้แทนการค้าที่มีฐานะเทียบเท่ารัฐมนตรีเป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการไปทำความตกลงค้าขายส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศให้ได้จำนวนปีละ 500,000-700,000 ล้านบาท ให้เร็วที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ 5 ปีที่ผ่านมามีการขัดขวางเตะตัดขาจนไม่มีการตั้งใครไปทำหน้าที่แม้แต่คนเดียว ซึ่งถึงวันนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะเสียดายโอกาสของประเทศชาติที่ผ่านไปอย่างไม่มีวันกลับ

ประการที่สอง ต้องเร่งระดมการลงทุนจากทั่วโลกและจากทุกขั้วมหาอำนาจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อการนี้จะต้องตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือเขตการค้าพิเศษชายแดนตามที่ คสช. เคยดำริและขับเคลื่อนในช่วงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรี และถูกเลิกล้มไปจนหมดสิ้น โดยมี EEC ซึ่งเกี่ยวกับพื้นที่สามจังหวัดเล็กๆ ในมุมอับของภาคตะวันออก โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนกว่า 95% ของประเทศเลย และพื้นที่ขับเคลื่อนจริงๆ ก็เป็นวงแคบแค่นิคมอุตสาหกรรม 11 แห่ง รวมทั้งพื้นที่สมบัติของแผ่นดินที่กำลังจะถูกปลดให้มาจัดทำนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มเท่านั้น

จะต้องตระหนักว่าที่ผ่านมานั้นสิ่งที่เรียกว่าการลงทุนไม่มีใครเห็นตัวเงินและรู้ตัวเงินจริงว่าเข้ามาลงทุนเท่าใด มีแค่ตัวเลขการขอส่งเสริมการลงทุนเท่านั้น ขณะที่ผู้คนในวงการรู้ดีว่าเงินลงทุนจากทั่วทุกสารทิศของโลกมีทิศทางไหลไปสู่เวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมา มิได้มีกระแสที่จะไหลมาที่ EEC อย่างเอิกเกริกเหมือนที่เคยตั้งความหวังกันไว้เลยที่สำคัญ จะต้องทำความเข้าใจหาสาเหตุให้ชัดเจนว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้การลงทุนที่เป็นตัวเงินลงทุนแท้จริงไม่คึกคักเหมือนดังที่พยายามอยากจะให้มีขึ้น

เมื่อเงินลงทุนไม่ไหลเข้าดังที่ต้องการ การจ้างงานจึงไม่เกิดขึ้น การหมุนเวียนในทางการค้าและทางเศรษฐกิจก็ขาดสะบั้นลงในแทบทุกวงจร การขาดแคลนเงินและความฝืดเคืองจึงแผ่ขยายตัวไปทั่วประเทศ ร่วม 70 จังหวัดของประเทศไทยที่ไม่มีเงินลงทุนไหลเข้า จึงซบเซาชะงักงันโดยทั่วไป ดังนั้น จึงต้องเร่งฟื้นฟูเรื่องนี้และต้องกำจัดเหตุที่ทำให้เงินลงทุนไม่ไหลเข้าอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการตั้งตนเป็นฝักฝ่ายในขั้วการเมืองของโลก จนประหนึ่งคล้ายกับเป็นเมืองขึ้นของบางชาติ นั่นแหละคือต้นเหตุที่ตรงจุดที่สุด

ประการที่สาม จะต้องเร่งฟื้นฟูส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างทั่วด้านเพื่อทำให้สรรพกิจการและทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถรับรายได้จากการ
ท่องเที่ยวได้เหมือนดังแต่ก่อน การใดที่เป็นอุปสรรคหรือทำลายการท่องเที่ยวโดยฟังแต่คำเท็จของข้าราชการกังฉินที่มุ่งทำมาหากินกับกิจการและนักท่องเที่ยว ซึ่งได้ทำลายการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยับเยินมาแล้ว

รายได้จากการท่องเที่ยวนั้นเป็นรายได้ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกขนเงินมาให้คนไทย แท้จริงให้ผลมากกว่าการส่งสินค้าไปขาย เพราะต้องผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และต้องส่งออกไปขายในต่างประเทศ กว่าจะได้รับเงินกลับมา

ตรงกันข้ามกับการท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วโลกพากันขนเงินเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยอย่างครึกครื้นและมีความสุขอันเนื่องมาจากความล้ำเลิศของทรัพยากรท่องเที่ยวของประเทศไทยที่สมบูรณ์พร้อม

อ้างแต่ปากเรื่องความจงรักภักดี แต่ไฉนไม่อัญเชิญพระบรมราโชบายอันเป็นยุทธศาสตร์ชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่มุ่งสร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยว และทรงทำให้เห็นผลประจักษ์มาแล้ว

ขณะนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยเฉพาะจากจีนแห่กันไปพม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย กันเอิกเกริก แม้ฝั่งแม่น้ำโขงตรงกันข้ามประเทศไทยก็สว่างไสวและคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ขณะที่ฝั่งประเทศไทยมีแต่คนใจคอห่อเหี่ยวยืนชะเง้อชะแง้แลอยู่ริมแม่น้ำโขงให้อัปยศยิ่งนัก

ทั้งสามประการนี้ถ้าทำจริงทำเป็น รับรองว่าไม่เกิน 4 เดือน ก็จะเห็นการขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศชาติและประชาชนก็จะเริ่มเงยหน้าอ้าปากได้ ก่อนที่กลียุคอันเกิดแต่ข้าวยากหมากแพงและความไม่มีกิน ไม่มีงานทำ จะลุกลามจนลุกเป็นไฟ!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:58 น. ‘เบน หวัง’ คว้าบท ‘ลี’ ท่ามกลางนักแสดงจากทั่วโลก สานต่อตำนานยอดนักสู้
12:54 น. ระทึก! กระบะตู้ทึบพุ่งเสยเสาไฟ-รั้วบ้านพังยับ คนขับรอดปาฏิหาริย์
12:53 น. กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน
12:50 น. 'ฮุน มานี'ปลุกสามัคคีคนในชาติ! โพสต์เฟซบุ๊กลั่น'ชาวกัมพูชา'จะไม่นิ่งเฉยหากโดนคุกคาม
12:49 น. ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ฮุน มานี'ปลุกสามัคคีคนในชาติ! โพสต์เฟซบุ๊กลั่น'ชาวกัมพูชา'จะไม่นิ่งเฉยหากโดนคุกคาม

ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'

ท่องคาถา‘ยุบสภา’ ‘ช่อ’ท้าฝั่ง รบ.เป็นนักการเมืองอย่ากลัวเลือกตั้ง

ไม่ช่วยใครง่ายๆอีก! ‘สหรัฐฯ’ปิดฉาก‘USAID’เลิกหน่วยงานเพื่อมนุษยธรรมอย่างเป็นทางการ

ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย

ยันเป็นเขตแดนไทย! ทบ.แจง Google Map ไม่มีผลด้านกฎหมาย หลังหมุดปราสาทโผล่เขมร

  • Breaking News
  • ‘เบน หวัง’ คว้าบท ‘ลี’ ท่ามกลางนักแสดงจากทั่วโลก  สานต่อตำนานยอดนักสู้ ‘เบน หวัง’ คว้าบท ‘ลี’ ท่ามกลางนักแสดงจากทั่วโลก สานต่อตำนานยอดนักสู้
  • ระทึก! กระบะตู้ทึบพุ่งเสยเสาไฟ-รั้วบ้านพังยับ คนขับรอดปาฏิหาริย์ ระทึก! กระบะตู้ทึบพุ่งเสยเสาไฟ-รั้วบ้านพังยับ คนขับรอดปาฏิหาริย์
  • กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน
  • \'ฮุน มานี\'ปลุกสามัคคีคนในชาติ! โพสต์เฟซบุ๊กลั่น\'ชาวกัมพูชา\'จะไม่นิ่งเฉยหากโดนคุกคาม 'ฮุน มานี'ปลุกสามัคคีคนในชาติ! โพสต์เฟซบุ๊กลั่น'ชาวกัมพูชา'จะไม่นิ่งเฉยหากโดนคุกคาม
  • ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ \'สมาคมแม่บ้าน ทอ.\' เป็น \'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ\' ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved