นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เปิดเผยถึงกระแสข่าวย้ายขั้วว่า ในวันที่ 22 ส.ค. ตนพร้อมด้วยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะแถลงข่าวถึงความชัดเจนในเรื่องนี้ ยอมรับว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่มีสส. 6 คนนั้น มีบางส่วนจะย้ายไปร่วมงานกับรัฐบาล แต่ตนและนายมิ่งขวัญนั้นจะยังคงทำงานเป็นฝ่ายค้านต่อไป สำหรับรายละเอียดต่างๆ นั้น ขอให้รอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
1. พรรคเศรษฐกิจใหม่ มีสส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 6 คน
ประกอบด้วย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นายสุภดิช อากาศฤกษ์, นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล, นายภาสกร เงินเจริญกุล, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และนางมารศรี ขจรเรืองโรจน์
หากนายมิ่งขวัญกับนายนิยมไม่ย้ายขั้ว
หมายความว่า จะมีสส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน พลิกขั้วไปสนับสนุนรัฐบาล ได้แก่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์, นายภาสกร เงินเจริญกุล,นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และนางมารศรี ขจรเรืองโรจน์
2. ปัจจุบัน นายมิ่งขวัญไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ลาออกไปก่อนหน้านี้ เพราะปัญหาภายในพรรค
นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 1 เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค (นายสุภดิชเป็นผู้ก่อตั้งพรรคด้วย)
เลขาธิการพรรค คือ นายภาสกร เงินเจริญกุล
กรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ (ตามการประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2562 30 ม.ค.62) นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ คนที่ 2, นายเนติภูมิ ริยาพันธ์ รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ คนที่ 3, นายองอาจ วนามากสมบัติ รองเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจใหม่, นางปัทมาภรณ์ แสงดี เหรัญญิก, นายอภิวัฒน์ อากาศฤกษ์ นายทะเบียน, นายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรค, นายบุญเลิศ เหลียงกอบกิจ กรรมการบริหารอื่นของพรรค
น่าสนใจว่า ถ้า สส. 4 คน จุดยืนย้ายขั้วไปหนุนรัฐบาล ได้แก่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์, นายภาสกร เงินเจริญกุล, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์
และนางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ จะสามารถโน้มน้าวให้พรรคเศรษฐกิจใหม่มีมติของพรรคอย่างเป็นทางการ ในการย้ายขั้วไปเลยหรือไม่?
เพราะเท่ากับว่า รักษาการหัวหน้าพรรค เลขาพรรค แกนนำพรรค ล้วนมีจุดยืนในการย้ายขั้ว
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จะกลายเป็นว่า นายมิ่งขวัญและนายนิยม เป็น “งูเห่า” ของพรรคเศรษฐกิจใหม่
3. อย่างไรก็ตาม ประเด็นกฎหมายที่น่าสนใจ คือ หาก สส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองพลิกขั้ว ต่างจากมติของพรรค หากต่อมาถูกขับออกจากพรรค สส.บัญชีรายชื่อจะสามารถไปหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน แล้วยังเป็น สส.ต่อไปได้หรือไม่?
หรือจะต้องพ้นจากการเป็น สส. แล้วพรรคนั้นๆ ก็เลื่อนลำดับคนถัดไปขึ้นมาเป็น สส.แทน?
รัฐธรรมนูญมาตรา 101 (9) ระบุว่า สมาชิกภาพของ สส.สิ้นสุดลงเมื่อพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคการเมืองและสส.ที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น ในกรณีเช่นนี้ ถ้า สส.ผู้นั้นมิได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30 วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองมีมติ ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่พ้น 30 วันดังกล่าว
บทบัญญัติรัฐธรรมนูญนี้ แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ
แต่ก่อน ให้ความสำคัญกับมติพรรคการเมือง หาก สส.ฝ่าฝืนมติและถูกขับออกจากพรรค สมาชิกภาพจะขาดทันที เว้นแต่ไปร้องศาลว่าเป็นการขัดมติพรรคในเรื่องที่เป็นเอกสิทธิ์ของสส. หากศาลวินิจฉัยว่าเป็นเอกสิทธิ์จึงจะหาพรรคสังกัดได้
แต่รัฐธรรมนูญปัจจุบัน เปิดทางให้ สส.หาพรรคสังกัดภายใน 30 วันได้ทันที ซึ่งถ้าหาได้ สมาชิกภาพการเป็น สส.ก็จะไม่ขาดไป
แบบนี้ เท่ากับว่า หากพรรคเศรษฐกิจใหม่มีมติพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายรัฐบาล แล้ว สส.บัญชีรายชื่อ คือ นายมิ่งขวัญกับนายนิยม ไม่เห็นด้วย ฝ่าฝืนมติพรรค โดยเป็นฝ่ายค้านต่อไป แล้วถ้าหากว่าพรรคมีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทั้ง นายมิ่งขวัญและนายนิยมก็สามารถหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดได้ภายใน 30 วัน โดยที่ยังคงสถานะเป็น สส.เหมือนเดิม พรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่สามารถเลื่อนคนอื่นขึ้นมา สส.แทน
หรือในทางตรงกันข้าม ถ้ามติพรรคเศรษฐกิจใหม่ยังคงเป็นฝ่ายค้าน 4 สส.ก็จะกลายเป็น “งูเห่า” เช่นเดียวกัน
4. สถานการณ์ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ว่าน่าสนใจแล้ว ในพรรคเพื่อไทยก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ปรากฏว่ามี สส.พรรคเพื่อไทยมาให้การต้อนรับอย่างดี ได้แก่ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม, ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล, คุณากร ปรีชาชนะชัย
ครูมานิตย์บอกกับนายกฯ ต่อหน้ากล้องสื่อมวลชนว่า “ยกมือให้นายกฯ ล้านเปอร์เซ็นต์ ตอนมีการลงชื่อขออภิปรายนายกฯ ผมยังบอกว่าลงทำบ้าอะไร พวกมึงบ้าหรือเปล่า เขายังไม่ทำอะไรไปลงชื่อกันแล้ว ไปดูได้เลยไม่มีชื่อผม”
ด้านนายตี๋ใหญ่ ก็บอกกับนายกฯ ว่า อย่ายุบสภา ขอให้อยู่เกิน 4 ปี และยังได้กล่าวต่อหน้าประชาชน ผ่านเครื่องขยายเสียงไปทั่วด้วยว่า “ผมขอขอบคุณนายกฯ โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่แถลงว่าบัตรทอง 30 บาท ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ ไม่ต้องสมทบเงินเวลารักษา เมื่อวานผมไปรับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่ง รมว.คมนาคม ได้บอกกับผมว่ามาพูดครั้งนี้อย่าพูดแบบที่พูดในสภา ผมก็เลยไม่พูดเหมือนในสภา ถ้ามีดีผมสนับสนุน ซึ่งงบประมาณปี 63 จังหวัดสุรินทร์ได้ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท ผมยกมือไม่สวนนายกฯ ผมสนับสนุน เพราะประชาชนไม่ได้เลือกผมมาเป็นฝ่ายค้าน แต่เลือกผมมาเป็นผู้แทนราษฎร สิ่งไหนดีผมก็สนับสนุน สิ่งไหนไม่ดีก็ว่ากันไปในสภา”
อื้อฮืออออออออ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี