วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สัปดาห์ที่ผ่านมา นักข่าวไปถาม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงความคืบหน้าโครงการทำกระเช้าขึ้นภูกระดึง ทำนองว่าเป็นเรื่องที่ทางจังหวัดจะต้องไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นมาให้ครบถ้วนก่อนจะเสนอมายังกระทรวง
และเมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะสร้างกระเช้า?
รัฐมนตรีวราวุธกล่าวว่า มีแนวโน้มทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ต้องรอทางจังหวัดส่งเรื่องมาก่อน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อถกเถียงเรื่องกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จึงกลับมาเป็นประเด็นสาธารณะอีกครั้ง
1. ก่อนหน้านี้... องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือชื่อย่อว่า อพท. ได้เคยรายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จังหวัดเลย ต่อคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ครม.ครั้งนั้น มีมติ 2 ประเด็น
หนึ่ง รับทราบตามที่ อพท.เสนอ
สอง ให้กระทรวงทรัพย์ฯ รับฟังความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และ สศช.ไปพิจารณาดำเนินการ โดยให้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จังหวัดเลย
ที่ชัดเจนและเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและธรรมชาติน้อยที่สุด
หลังจากนั้น ก็ยังไม่มีการนำเรื่องเสนอเข้า ครม.อีก จนถึงปัจจุบัน
2. ระยะหลัง สถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศหลายแห่ง นิยมทำกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนภูเขา อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เป็นที่นิยมมาก เช่น
บานาน่าฮิลล์ ของประเทศเวียดนาม คนไทยไปเที่ยวกันเยอะ ฯลฯ เริ่มมีการหยิบมาอ้างถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
จำได้ว่า ภาคธุรกิจเอกชนบางส่วนในจังหวัดเลยก็เคยแสดงท่าทีสนับสนุนแข็งขัน ทำนองว่า ประชาชนส่วนหนึ่งอยากให้มีกระเช้าขึ้นภูกระดึง ทั้งใน จ.เลย และจังหวัดอื่นๆ เพราะจะทำให้มีสิทธิความเท่าเทียมไม่ว่าจะเป็นคนชรา หรือคนทุพพลภาพก็สามารถขึ้นมาสัมผัสความเป็นธรรมชาติได้ เป็นตำนานของที่นี่ว่า ครั้งหนึ่งเราคือผู้พิชิตภูกระดึง โดยสามารถจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปชมธรรมชาติ ว่าปีหนึ่งรับแค่ 20,000 คน และการสร้างกระเช้าก็เป็นทางเลือกหนึ่งให้ทุกคนเท่านั้น
.jpeg)
3. ข้อมูลและมุมมองอีกด้านที่น่าสนใจ
นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ชี้ประเด็นที่น่าสนใจมาก โดยไม่ได้มุ่งคัดค้านโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงด้วยประเด็นผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่ยังชี้ถึงจุดแข็งของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของภูกระดึงด้วย
ถ้าทำกระเช้าภูกระดึง จะมีสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์หลายประการ
ประการแรก คือ ธุรกิจที่สัมพันธ์กับอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน อาคารพาณิชย์ ที่มีคนครอบครองอยู่รอบๆ ภูเขาภูกระดึง และเส้นทางสู่ภูกระดึง จะคึกคักทั้งการเพิ่มมูลค่า การหมุนเวียนของเม็ดเงินต่างๆ ในการขยายกิจการเพื่อรับการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น และหมุนเวียนมาเยือนเพื่อขึ้นลงกระเช้าไปที่ราบกว้างใหญ่บนยอดเขา ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากใช้สองเท้าเดิน
ประการที่สอง คือ ทำให้คนที่คิดว่าตัวเองขึ้นไม่ไหว ไม่มีเวลา และไม่กล้าขึ้น รวมถึงผู้ที่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ และร่างกายอื่นๆ มีโอกาสขึ้นไปได้ และกระเช้าไฟฟ้าอาจจะช่วยนำคนเจ็บป่วย บาดเจ็บ ขยะ และขนส่งข้าวปลาอาหาร เครื่องใช้ขึ้นไปง่ายขึ้น นี่เป็นเหตุผลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
แต่การสร้างกระเช้าภูกระดึง มีโจทย์ที่ไม่มีใครคิดจะตอบ สามข้อสามระดับ
ระดับที่ 1 ภูกระดึงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาที่เป็น Trekking trail ที่ดีที่สุดของประเทศ เมื่อประเมินจากระยะทางที่ไม่ไกลมาก แทบไม่มีอันตรายอะไร ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุจากความประมาท การจัดการที่ลงตัว มีค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยว
ไม่แพง รวมถึงเมื่อขึ้นไปแล้วก็มีที่สวยๆ ให้ไปเดินเที่ยวมากมาย เรียกว่าคุ้มค่าเดินขึ้นและเดินเที่ยว

.jpeg)
สิ่งต่างๆ ที่ว่ามาทำให้ภูเขาลูกนี้ทำหน้าที่มอบความรักธรรมชาติ ความซึมซับความงามทั้งจากธรรมชาติ และมิตรภาพระหว่างทาง รวมถึงการเรียนรู้ที่บังเกิดขึ้นมากมายระหว่างความอดทนเดินขึ้น สถานที่แบบนี้ในประเทศไทยมีที่เดียวคือ “ภูกระดึง” ส่วนที่อื่นๆ ก็มีถนนขึ้นถึง หรือ เดินไกลเกินไป เดินไปถึงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก
ดังนั้น เมื่อมีกระเช้า ความท้าทายให้ไปถึงเรื่องที่ว่ามาย่อมสู้ความสบายเย้ายวนของการขึ้นกระเช้าไม่ได้ มีคนเดินขึ้นก็คงมีน้อยกว่า พวกที่จะเลือกเดินก็เป็นคนที่รักธรรมชาติมากมายอยู่แล้ว คนที่ขึ้นกระเช้าไปก็ไม่ได้ซึมซับอะไร ขึ้นไปก็เหมือนขับรถขึ้นภูเรือ ดอยอินทนนท์ หรือภูเขาอื่นๆ ที่กลับมาก็ไม่มีความหมายอะไร
ภูกระดึงทำหน้าที่นี้ให้ประเทศไทยมากว่าห้าสิบปี ตั้งแต่รุ่นปู่ จนถึงปัจจุบัน การมีกระเช้าหมายถึงเราเลิกใช้ฟังก์ชั่นนี้ของภูกระดึงแล้ว จะเทียบไปคงเหมือนเปลี่ยนวัด โบสถ์ วิหาร เป็นบอร์ดนิทรรศการพุทธศาสนา นี่คือเรื่องที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจจะเลือกทิ้งคุณค่าเรื่องนี้หรือไม่
ระดับที่ 2 จากผลการศึกษาและการออกแบบระบบกระเช้า คาดว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย (เช่นตัดต้นไม้ไม่กี่ต้น) แต่ผลที่ตามมาหลังจากมีกระเช้ายังไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น
เมื่อคนจำนวนมากขึ้นไปข้างบนแล้ว จะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมแน่ๆ เช่น อาคารกลางแหล่งธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ถนนหนทางข้างบนที่ต้องรองรับผู้มาเยือนที่ไม่เตรียมตัวไป “เดิน” และไม่พร้อมจะรับรู้ทั้งนั้นว่าทำไมไม่มีรถวิ่งไปชมที่ท่องเที่ยวที่ห่างจากสถานีกระเช้าหลายกิโลเมตรในแต่ละที่ รวมถึงการจำกัดคนค้างแรม การจัดการขยะ ต่างๆ
ภายใต้สถานภาพความเป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย กำลังคน งบประมาณในการดูแลให้คงสภาพธรรมชาติ
เราพร้อมจะปล่อยให้ที่สวยๆ ข้างบนพังไปอีกที่ใช่หรือไม่
ระดับที่ 3 ถ้ามีคนขึ้นไปมากๆ จริงๆ แล้ว เราพร้อมจะเปลี่ยนพื้นที่อนุรักษ์ที่เป็นธรรมชาติ ไปรองรับการบริการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ กลายเป็น เมืองท่องเที่ยวข้างบนไปเลยในอนาคต ไปเลยไหม
หากนโยบายวันข้างหน้าจะเอาอย่างนั้น ยกเลิกอุทยานไปเลย
นี่คือเรื่องที่ต้องตัดสินใจตามกระเช้ามาในระดับท้ายสุด
สารส้ม

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี