วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 02.00 น.
พลิกฟื้นความเชื่อมั่น

ดูทั้งหมด

  •  

การประชุมสุดยอดอาเซียนที่เพิ่งผ่านไป คงจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยได้กลับมามีสถานะเป็นที่ยอมรับจากสังคมโลกอีกครั้ง และยังถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ต่อจากนี้ เราอาจได้เห็นการเจรจาและการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศมากขึ้นภายใต้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์

บทบาทการเป็นประธานอาเซียนของไทยนับเป็นภารกิจที่ท้าทายตั้งแต่วันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ด้วยอุปสรรคนานัปการในขณะนั้น ทั้งเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง และการเป็นที่ยอมรับของนานาชาติซึ่งนับว่ายังน่าเป็นห่วงด้วยสถานะของรัฐบาล คสช. ในขณะนั้น ตลอดจนความวิตกว่าเวทีการประชุมจะถูกละเลงด้วยปัญหาการเมืองแบบที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2552 เหล่านี้ทำให้หลายคนเป็นกังวล และไม่เชื่อนักว่ารัฐบาลจะแบกรับงานหินเช่นนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง?


อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ดูจะใจชื้นขึ้น หลังจากการประชุมสุดยอดในช่วงกลางปีที่ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากนั้นความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็ดูจะปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปเข้าร่วมในการประชุมระหว่างประเทศที่มีความสำคัญทั้งการประชุม G20 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ จนกระทั่งการประชุมใหญ่ท้ายปีอย่างอาเซียนซัมมิท ที่ก็จบลงอย่างสวยงาม สอดรับกับข่าวดีที่ประเทศไทยพึ่งได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อจากบริษัทจัดอันดับของญี่ปุ่นจาก BBB+ เป็น A-

ทั้งนี้ แม้ประเทศไทยจะทำได้ดีกับการเป็นประธานอาเซียน แต่ในงานประชุมที่เกิดขึ้นก็มีประเด็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง นั่นก็คือบุคคลที่หลายคนจับตามองอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่ได้ร่วมเดินทางมาประชุมด้วย กลับกันกับทางจีน ที่ส่ง หลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีมาเป็นแขกให้กับรัฐบาลไทย ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทิศทางเศรษฐกิจ และกระแสการเมืองกำลังเปลี่ยนศูนย์กลางภูมิภาคใหม่ใช่หรือไม่? ซึ่งด้วยเหตุข้างต้น ทำให้หลายฝ่ายต่างก็จับจ้องภารกิจด้านการต่างประเทศอื่นๆ ที่ใกล้เข้ามาและสำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับ สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม ได้นำหน้าไทยไปหนึ่งก้าวแล้ว

โดยการเจรจา FTA กับอียูนอกจากจะเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลแล้ว ยังนับว่าเป็นบททดสอบใหญ่ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งก็คงต้องติดตามต่อไปว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่? ขณะที่การเจรจากับสหรัฐฯ เรื่องสิทธิทางภาษีหรือ GSP นั้น ในอาเซียนซัมมิทที่ผ่านมา ประเทศไทยก็ได้มีการหารือในระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ ในเรื่องนี้เช่นกัน โดยทางสหรัฐฯ ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้มีการเจรจาทบทวนระหว่างกันฉะนั้นแล้วนักวิเคราะห์จึงมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่น่าหวั่นวิตกอย่างที่หลายคนคิด? และเชื่อว่าบทสรุปที่แท้จริงน่าจะอยู่ที่การเจรจาหลังจากนี้ว่าไทยจะสามารถดึง GSP กลับมาได้หรือไม่?

ทว่าหากมองตามความเป็นจริง การต่างประเทศของไทยในยุค พล.อ.ประยุทธ์ ในรัฐบาลก่อนก็คงจะไม่ได้หวือหวาหรือเต็มไปด้วยบทบาทนำ ซึ่งก็นับเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใดก็คงออกมาเป็นเช่นนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องน่าชื่นชมคงเป็นเรื่องการพลิกฟื้นสถานะของประเทศ จากการเป็นประเทศที่ขาดการยอมรับจากการรัฐประหารมาสู่การเป็นประเทศที่เป็นที่สนใจของโลกอีกครั้งภายใต้นายกฯคนเดิมแต่รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้หากประมวลภาพความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตลอดปีที่ผ่านมาก็คงถือว่า รัฐบาลสอบผ่าน แต่ก็ยังคงมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความท้าทายในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งการเจรจากับสหภาพยุโรป การเจรจากับสหราชอาณาจักรหลังถอนตัวจากสหภาพยุโรป ตลอดจนการรับมือสงครามการค้าและปัญหาในอนาคตที่ตามมา โดยเฉพาะการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนที่ถือว่าก้าวหน้าอย่างมาก อย่างไรก็ตามก็นับว่ารัฐบาลยังต้องผ่านอีกหลายบทพิสูจน์

กลับมาที่การเมืองภายในประเทศ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านวิ่งไล่แก้เกมการเมืองอลหม่านทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าทั้งพรรคเพื่อไทย ที่ยังวนเวียนขั้วอำนาจภายในอยู่ หรือทั้งพรรคอนาคตใหม่ที่เกิดกระแสต่อต้านภายใน ด้วยเหล่าลูกพรรคที่ลาออกด้วยข้อกล่าวหาไม่ทำตามสัจจะที่หัวหน้าพรรคเคยให้ไว้? รวมไปถึงปัญหาอื่น ๆ ที่ทยอยซัดเข้ามาเป็นระลอก ตามที่ได้เคยกล่าวไว้ในครั้งก่อน ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้พรรคประชาธิปัตย์กลับชิงจังหวะนำเสนอแก้รัฐธรรมนูญ โดยชูนายอภิสิทธิ์ จองนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ถือเป็นเรื่องใหญ่ และอาจก่อให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ขึ้นและอาจยังผลไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านด้วยหรือไม่? โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างก็วิเคราะห์ท่าทีของขั้วต่างๆทางการเมืองไว้ 2 ประเด็นนั่นคือ

อย่างที่หนึ่ง อาการของซีกพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ภายหลังกระแสออกมาว่านายอภิสิทธิ์ เตรียมนั่งเก้าอี้ประธาน นำทีมแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ดูทางพรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้องอะไร? หากสังเกตจากคำให้สัมภาษณ์กับสื่อของโฆษกพรรคเพื่อไทย เพียงแค่ย้ำว่าต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนเท่านั้น และยิ่งนับมานับรวมกับท่าทีของ สส. ในพรรคอย่างนายแพทย์ชลน่าน ที่ออกมาเสนอแนะให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกวุฒิสภาและรวมถึงนายกฯประยุทธ์ ด้วย ซึ่งหลายฝ่ายก็ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจไว้ว่าเป็นอาการที่เรียบร้อยที่ปกติหรือไม่ หรืออาจมุ่งเป้าเพื่อให้ได้แก้รัฐธรรมนูญก่อน ใช่หรือไม่?

ประการถัดมา คืออาการในทิศทางกลับกันของพรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ที่นายสนธิรัตน์ได้ให้สัมภาษณ์ออกสื่อว่า ควรเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องมาพูดคุยกันก่อน ซึ่งจากท่าทีดังกล่าว น่าสนใจว่าภายในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ น่าจะมองเห็นอะไรบางอย่างหากปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ขึ้นแท่น นำทีมรื้อรัฐธรรมนูญได้เองใช่หรือไม่?

อย่างไรก็ตามท่าทีในทิศทางตรงข้ามกันของซีกฝ่ายค้าน กับซีกรัฐบาลก็ยังไม่น่ากังวลเท่าท่าทีที่ในตอนนี้ยังมองไม่เห็น แต่หากเกิดขึ้นก็ดูจะน่าเป็นห่วงสำหรับพรรคประชาธิปัตย์เอง นั่นก็คือ ท่าทีของหัวหน้าพรรคอย่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ต่อการเข้ามามีบทบาทนำของนายอภิสิทธิ์ ที่อาจได้รับมอบหมายจากทุกฝ่ายให้ถือธงอัศวินผู้รื้อรัฐธรรมนูญ? จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในขั้วอำนาจพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ ตลอดจนกระแสหรือความคิดของประชาชนในอนาคต

ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น น่าสนใจว่ากรอบเวลาของการเลือกตั้งท้องถิ่นเองก็ใกล้ขึ้นมาทุกขณะแล้ว ซึ่งในตอนนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และงบประมาณของท้องถิ่น ซึ่งถ้าทั้งสองส่วนพร้อมแล้วก็จะเป็นหน้าที่ของ ครม. ในการพิจารณาจัดตั้ง ซึ่งสนามการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้หลายฝ่ายคาดกันว่าเป็นการวัดความพร้อมในการจัดทัพลุยศึก ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการพลิกเกมการเมืองหรือไม่? ต้องติดตามต่อไป

“…ความรักเป็นสิ่งงดงาม

งดงามประหนึ่งดอกกุหลาบ แต่ทว่ามันมีหนาม
กุหลาบที่ไร้หนามในโลกนี้ มีเพียงสิ่งเดียว คือมิตรภาพ…”

โกวเล้ง จากเรื่อง มังกรเมรัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:33 น. รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
08:27 น. 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
08:01 น. ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
07:56 น. หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
07:35 น. ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด
ดูทั้งหมด
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
'ปานเทพ' พอใจภาพรวมชุมนุม 28 มิ.ย. เผยยอดเงินหนุน 'มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน' 24 ล้านแล้ว
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 1 กรกฎาคม 2568
หุ้นเด่น : 1 กรกฎาคม 2568
วิกฤตกัญชาในพายุการเมือง
ขำกันหลังวันม็อบ
กูไม่ออก?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย

หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า

ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด

‘ชูวิทย์’เลคเชอร์‘เรื่องตลก’พรรคร่วมฯ เหน็บจุกๆทุกครั้ง‘เพื่อไทย’เป็นรัฐบาล ต้องไล่ถึงจะลง

'หมอสุรพล'ชี้ทางออก!!! 'ถ้าไม่เปลี่ยนวัฒนธรรมพลเมืองวันนี้ ประเทศไทยจะไม่มีวันเปลี่ยน'

ไม่พบข้อมูลเดินทาง! คาด'อดีตเจ้าคุณอาชว์'ยังอยู่ในไทย มีคนให้ที่พักพิง

  • Breaking News
  • รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
  • \'ปากีสถาน\'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
  • ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่ ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
  • หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
  • ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved