มีผู้ตั้งคำถามว่า เรื่องการทุจริตสินบนโรลส์รอยซ์ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ทำไมจึงเงียบหายไป เหตุใดหน่วยงานที่ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตในประเทศนี้จึงไม่มีคำตอบในเรื่องสำคัญนี้ ทั้งๆ ที่ในช่วงที่เกิดข่าวนี้ ก็ดูเสมือนว่าหน่วยงานปราบปรามการทุจริตในบ้านเมืองของเราจะพยายามแสดงบทให้สังคมเข้าใจว่าจะต้องดำเนินการนำตัวคนผิดไปลงโทษตามกระบวนการของกฎหมายให้ได้ แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป เรื่องใหญ่ที่เคยครึกโครมก็กลับเงียบงัน ราวกับมีคนจงใจทำให้เรื่องนี้หายลับไปกับสายลม เพราะหากขืนปล่อยให้มีการรื้อฟื้นเรื่องทุจริตนี้ขึ้นมา ก็ต้องมีการเปิดโปงให้สาธารณชนเห็นว่ามีคนตัวใหญ่ตัวโตในสังคมรายใดบ้างที่มีส่วนร่วมทุจริต
(ขอให้คุณอ่านบทความนี้ไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งดูเฉลยในตอนท้ายของคอลัมน์)
ผู้ที่ติดตามข่าวทุจริตสินบนโรลส์รอยซ์ยังจดจำได้ดีว่าเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เคยส่งหนังสือถามเรื่องนี้ไปยัง นายเอกนิตินิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันนายเอกนิติลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว)โดยเนื้อหาในหนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่าขอทราบความคืบหน้าคดีสินบนโรลส์รอยซ์ ที่ถูกระบุว่าเกิดขึ้นในบริษัทการบินไทย พร้อมทั้งทวงถามว่าบริษัทการบินไทยได้มีกระบวนการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดไปลงโทษ และให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯ แล้วหรือไม่ รวมทั้งได้ตั้งคำถามถึงขั้นตอนและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ว่ามีช่องว่าง ช่องโหว่อันนำไปสู่การทุจริตได้หรือไม่ และอย่างไร
ขอย้อนความเพียงสังเขปเพื่อเตือนความทรงจำของผู้อ่านที่อาจจะเลือนๆ ในเหตุทุจริตโรลส์รอยซ์ ดังนี้ บริษัทโรลส์รอยส์ ได้ยอมรับกับทางการของประเทศอังกฤษว่า บริษัทฯ ได้จ่ายเงินสินบนให้กับอดีตผู้บริหารของการบินไทยบางคน รวมถึงให้กับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยราชการบางคน รวมถึงได้จ่ายสินบนให้กับอดีตรัฐมนตรีไทยบางคน โดยสารภาพว่าได้จ่ายสินบนรวม 3 ครั้ง ซึ่งเหตุได้เกิดขึ้นระหว่างปี 2534-2548 คิดเป็นเงินประมาณ 1,223 ล้านบาท เหตุผลในการจ่ายสินบนก็เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือในการขายเครื่องยนต์ Trent 800 หรือ T 800 ของโรลส์รอยซ์ให้การบินไทย เพื่อนำไปใช้กับเครื่องบิน Boeing 777
ขอย้ำว่าข่าวนี้ปรากฏในสังคมไทย และกลายเป็นข่าวที่ถูกเผยแพร่ไปในหลายประเทศทั่วโลก และต้องยอมรับว่า เหตุทุจริตที่กลายเป็นข่าวนี้คือการทุจริตข้ามชาติ ซึ่งโยงใยและพัวพันกับบริษัทการบินไทย บริษัทที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นแนวหน้า
แห่งหนึ่งของประเทศไทย (ซึ่งอันที่จริงยังเกี่ยวพันกับบริษัท ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ด้วย)
เมื่อวิญญูชนได้รับทราบข่าวนี้ก็สืบค้นกลับไปว่าในยุค พ.ศ. 2534-2548 นั้น ประเทศไทยมีใครเป็นนายกรัฐมนตรี และมีรัฐมนตรีชื่อใดที่ดูแลกิจการของบริษัทการบินไทย และมีใครดูแลกิจการของ ปตท. ไล่เรื่อยไปถึงว่าใครเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม และใครดูแลกิจการพลังงานของไทย แล้วดูว่าใครเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ แล้วก็ดูต่อไปว่าในยุคนั้นมีใครเป็นผู้นำสูงสุดของการบินไทย และปตท. ใครคือประธานบอร์ด และบอร์ดของการบินไทยและ ปตท. ขอย้ำว่าเรื่องแบบนี้หาข้อมูลได้ไม่ยากเลย
แต่ก็นับว่าเป็นความอัศจรรย์เป็นที่สุด เพราะหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่อยู่ประมาณสองสัปดาห์ แต่แล้วข่าวนี้ก็เงียบหายไปแล้วก็ยังคงเงียบงันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะมีคนบางคนที่เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของการบินไทยในยุคดังกล่าวออกมาปฏิเสธโดยอ้างว่าตนเองบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ ที่ทำให้วิญญูชนกระจ่างใจว่า แล้วใครคือผู้มีส่วนกระทำการทุจริตตามข้อกล่าวอ้างของโรลส์รอยซ์ที่ระบุชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครกล้าออกมาบอกชัดๆ ว่าถูกโรลส์รอยซ์ใส่ความ คนเหล่านั้นอาศัยความเงียบเป็นเครื่องมือ เพราะรู้ดีว่าสังคมไทยนั้น หากใครก็ตาม ถึงแม้ผู้นั้นจะได้ลงมือกระทำความผิดชนิดสาหัสสากรรจ์สักเพียงใดก็ตาม แต่ถ้ามีอำนาจรัฐเป็นเครื่องหุ้มห่อร่างกายเสียแล้ว เขาก็สามารถรอดพ้นจากความผิดที่ใหญ่หลวงได้โดยไม่ยากเย็น นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมในสังคมไทยไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสุดท้ายผู้กระทำความผิดก็ลอยนวล ไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ และไม่ต้องชดใช้ความผิดที่ตนเองได้กระทำขึ้น ส่วนหน่วยงานและสังคมรวมถึงประเทศชาติก็ได้รับความเสียหายย่อยยับไปโดยปริยาย
คำถามที่ยังค้างคาใจวิญญูชนก็คือกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในองค์กรที่ถูกโรลส์รอยซ์ระบุว่ามีการทุจริตกินสินบนนั้นมีปัญหา มีช่องว่างช่องโหว่ใช่หรือไม่ แล้วช่องว่างที่ถูกสงสัยนั้นยังคงเปิดช่องโหว่อยู่จนถึงปัจจุบันหรือไม่
ส่วนประเด็นที่มีผู้ติดตามถามถึงความเสียหายที่เกิดกับองค์กร แล้วถามต่อไปว่าองค์กรจะติดตามเอาผิดจากใครได้ แล้วจะเรียกค่าเสียหายเพื่อชดเชยให้กับองค์กรได้หรืออย่างไร คำถามนี้ก็ยังคงไร้คำตอบอยู่จนถึงทุกวันนี้ แล้วถึงแม้จะมีผู้คนมากมายตั้งคำถามย้ำๆ และซ้ำๆ เพื่อให้ได้คำตอบก็ตาม แต่ก็ไม่เคยพบว่าคำตอบจะปรากฏออกมา
ผู้เขียนในฐานะคนทำงานด้านสื่อสารมวลชนตั้งคำถามนี้มาแล้วหลายครั้ง พยายามถามไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รวมถึงถามไปยังบริษัทการบินไทย แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบใดๆ ที่ทำให้เห็นถึงความพยายามทำงานเพื่อค้นหาความจริงในเรื่องดังกล่าว
ผู้เขียนจำได้ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติอ้างว่าสาเหตุที่คดีนี้ไม่มีความคืบหน้า เพราะว่าต้องรอข้อมูลจากต่างประเทศ เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปแสวงหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง แม้คณะทำงานจะตั้งใจทำงานให้ลุล่วงไปโดยเร็ว แต่ข้อติดขัดอยู่ที่ต้องขอข้อมูลจากต่างประเทศ ป.ป.ช. ไม่สามารถทำงานได้โดยลำพัง เพราะติดขัดเรื่องข้อมูล แต่ถึงกระนั้น ป.ป.ช. ก็ยังอ้างว่าเจ้าหน้าที่สำนักต่างประเทศของ ป.ป.ช.พยายามติดต่อประสานงานอย่างเต็มกำลังไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องลึกมาประกอบการทำงาน แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว จึงทำให้มีอุปสรรคมากมาย
เมื่อ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติอ้างถึงเพียงนี้ ก็ดูเสมือนจงใจบอกกับสาธารณชนว่าอย่าคาดหวังอะไรมากนักกับเรื่องนี้ เพราะเราไม่มีข้อมูลแต่ต้องขอข้อมูลจากคนอื่น แล้วที่สำคัญคือเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมาเนิ่นนานแล้ว
เมื่อหน่วยงานที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแบไต๋ออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้วิญญูชนในสังคมไทยเข้าใจได้โดยพลันว่าไม่ต้องหวังว่าจะหาคนกระทำผิดได้ แล้วก็ไม่ต้องหวังว่าจะมีใครชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับองค์กร และกับบ้านเมืองของเราทุกคน ซึ่งก็เท่ากับบอกโดยนัยว่า ขอให้เลิกหวังกับเรื่องนี้เสียเถิดด้วยเหตุผลที่ยกมากล่าวในข้างต้นก็จึงสรุปผลออกมาดังปรากฏ ณ ปัจจุบันคือ เรื่องทุจริตสินบนโรลส์รอยซ์ในการบินไทยจึงยังคงเงียบงัน
แต่เมื่อย้อนกลับไปดูฝ่ายโรลส์รอยซ์เอง ก็ดูเสมือนว่าเอกชนรายนี้ก็ถอดใจยอมยุติเรื่องไปโดยปริยายเช่นกัน เนื่องจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตขั้นร้ายแรงแห่งอังกฤษ หรือ Serious Fraud Office (SFO) ประกาศยุติการสอบสวนคดีสินบนของบริษัทโรลส์รอยซ์ เมื่อต้นปี 2562 โดย SFO ลงความเห็นว่าไม่ดำเนินคดีใดๆ กับบุคคลที่เคยถูกกล่าวหาโดยบริษัทโรลส์รอยซ์อีกต่อไป เพราะว่าเมื่อโรลส์รอยซ์ตัดสินใจ
ยอมยุติเรื่องนี้ แล้วจ่ายค่าปรับให้กับ SFO จำนวนเงินประมาณ 500 ล้านปอนด์ ตั้งแต่ปี 2560 ดังนั้น SFO จึงประกาศยุติการสอบสวนคดีจ่ายสินบนของโรลส์รอยซ์ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ปรากฏคือโรลส์รอยซ์ตกเป็นข่าวไปทั่วโลกว่าได้จ่ายสินบนให้กับคู่ค้าในประเทศต่างๆ อาทิ จีน รัสเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไนจีเรีย และประเทศไทย โดยในไทยนั้นมีข่าวว่าจ่ายสินบนให้กับบริษัทสองแห่งคือ การบินไทย และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
คำถามทิ้งท้ายที่ผู้เขียนอยากชวนคุณคิดคือ คุณสรุปเรื่องการทุจริตการจ่ายสินบนของโรลส์รอยซ์อย่างไร
ก) ไม่มีการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวเกิดมาจากความเข้าใจผิด
ข) ทุจริตจริงแต่ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตมุดน้ำและดำดินได้นานเสียจนผู้จ่ายสินบนถอดใจ ยอมถอนเรื่องเพื่อให้เรื่องยุติไป แล้วกลับไปค้าขายกันใหม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี