ศุกร์ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ค ไทยคู่ฟ้า เผยแพร่คำขวัญวันเด็กปี 2563 ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563
“เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”
ในเวลาไล่เลี่ยกัน กลุ่มศิลปินดาราจับมือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดโครงการ ล้านพลังคนไทย มอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ
ชวนคนไทย บริจาคช่วยเด็กด้อยโอกาสที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่เร่งด่วนและรอไม่ได้ ที่ลานหน้า LIDO CONNECT สยามสแควร์ เพื่อชวนคนไทยร่วมบริจาคเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะความยากจน ศิลปินดาราร่วมรณรงค์ อาทิ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์หนึ่ง-จักรวาร และน้องมินมินลูกสาว ในงานยังมีคอนเสิร์ตเปิดหมวกมอบโอกาสเป็นของขวัญ นำโดยลุลา ซีซั่นไฟว์ มาเรียมบีไฟว์ และ รุจ เดอะสตาร์
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กสศ. เผยว่า ปีที่ผ่านมา กสศ. ได้เดินหน้าช่วยเหลือบรรเทาอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กยากจนด้อยโอกาส มากกว่า 7 แสนคน ผ่านโครงการเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะจากการประเมินของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) พบว่ากลุ่มเป้าหมายตามภารกิจของ กสศ. มีมากกว่า 4 ล้านคน และจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรด้านงบประมาณมากกว่าปีละ 25,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา กสศ. ได้รับการจัดสรรทรัพยากรเพียง 2,537 ล้านบาท หรือเพียง 10% ของงบประมาณ
ที่ควรจะได้รับตามภารกิจเท่านั้น
จากการติดตามเด็กกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดผ่านระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา Information System for Equitable Education (iSEE) ซึ่งเป็น
ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ กสศ. ที่สามารถรายงานผลและติดตามเด็กๆ กลุ่มนี้ ได้รายบุคคล พบว่า ครอบครัวของนักเรียนที่ยากจนที่สุด มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดเพียง 462 บาทต่อคนต่อเดือน นั่นหมายความว่าครอบครัวของเด็กกลุ่มนี้จะมีรายได้เพียง 5,544 บาทต่อปีหรือราว 15 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น เด็กกลุ่มนี้กว่า 2 แสนคน ที่กำพร้าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ และกว่า 19,000 คน มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์การเจริญเติบโต หรืออยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องติดตามสภาวะทุพโภชนาการอย่างใกล้ชิด
จากการสำรวจยังพบว่า ในจำนวนนี้เกือบครึ่งที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า สาเหตุมาจากฐานะยากจน และต้องช่วยพ่อแม่ทำงานก่อนมาเรียน เด็กกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน และข้อเท็จจริงชี้ชัดว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ทันท่วงทีและพอเพียง มีความเสี่ยงที่จะหลุดจากการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน และตกอยู่วงจรความยากจนข้ามชั่วคน
เด็กเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษากำลังเพิ่มสูงขึ้นโดยมีมากถึง 430,000 คน (อายุระหว่าง 6-14 ปี/ป.1-ม.3) และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปีในอนาคต มีข้อมูลระบุชัดว่าแนวโน้มการออกจากระบบการศึกษาของเด็กไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะตัวเด็กเองและครอบครัว แต่ยังเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศ ดังนั้น โอกาสที่สูญเสียไปทางการศึกษาของเด็กๆ กลุ่มนี้ ก็คือโอกาสที่สูญเสียไปของประเทศเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปัญหานี้จึงจำเป็นเร่งด่วนและรอไม่ได้ และลำพังเพียง กสศ. และงบประมาณแผ่นดินที่จำกัดอาจไม่สามารถช่วยเด็กทุกคนได้ทันเวลา การสนับสนุนเพิ่มเติมจากประชาชนคนไทยจะเป็นพลังสำคัญในการทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเหล่านี้ให้มีแนวโน้มลดลงอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
ด้านป๊อก-ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์กล่าวว่า การร่วมบริจาคกับกสศ. สิ่งที่แตกต่างคือ มั่นใจได้ว่า มีระบบ isee เป็นเครื่องมือช่วยชี้เป้าความช่วยเหลือมุ่งไปยังเด็กๆ ที่เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ลงลึกตั้งแต่ระดับ จังหวัด อำเภอ ตำบล โรงเรียน และข้อมูลปัญหาความต้องการรายบุคคล ไม่ว่าเราจะ
เดินทางไปที่ไหนก็ตามในประเทศไทย บางครั้งในทริปท่องเที่ยว ระหว่างเส้นทางในช่วงปีใหม่เรายังสามารถแบ่งปันโอกาสให้กับเด็กๆ กลุ่มนี้ได้ด้วย เราทั้งคู่สามารถยื่นมือไปเติมเต็มความช่วยเหลือได้ทันที และมั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะมุ่งไปถึงเด็กๆ อย่างแน่นอน เพราะสามารถติดตามผลลัพธ์การช่วยเหลือได้จนกว่าเด็กๆ รายคนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อีกด้วย
ทั้งนี้ทุกเงินบริจาคยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยทุกท่านสามารถเข้าไปที่ www.eef.or.th/donate หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์ เลขที่ บช. 172-0-30021-6 ชื่อบัญชี กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค
ถือว่าเป็นการมองโอกาสทางการศึกษา เป็นของขวัญปีใหม่
ขอขอบคุณแทนน้องๆ เด็กด้อยโอกาสที่ได้รับเงินบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธา ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี