ปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง การคอร์รัปชั่นโกงกินในวงราชการไทย เป็นปัญหาที่แสนจะน่าเบื่อมากที่สุด เพราะเป็นปัญหาหมักหมมมายาวนาน แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ปัญหาเน่าเหม็นและแสนโสโครกเช่นนี้ไม่หมดไปจากวงราชการไทย ก็เพราะยังมีข้าราชการไทยบางจำพวกยังมีพฤติกรรมคดในข้องอในกระดูกเรื่อยมา แต่ที่น่าหนักใจมากกว่านั้นก็คือ ข้าราชการไทยบางคนนั้นอาจจะบอกว่าไม่ชอบการฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ก็ไม่ยอมคัดค้านพฤติกรรมฉ้อฉลในวงราชการ โดยอ้างว่าพูดไปแล้วเป็นอันตรายต่อตัวเอง ซึ่งก็เท่ากับแม้จะไม่สนับสนุนการทุจริตประพฤติมิชอบ แต่ก็มิได้คัดค้านอย่างชัดเจน

เมื่อมีผู้ทำเหตุทุจริตแล้วบุคคลอื่นในวงราชการด้วยกันไม่กล้าคัดค้าน และยังไม่กล้าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพื่อให้สื่อฯ นำความเลวเหล่านั้นไปเปิดโปง เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ความฉ้อฉลที่เกิดขึ้นในวงราชการไทย การฉ้อราษฎร์บังหลวงจึงไม่หมดไม่สิ้นไปจากบ้านเมืองของเรา

อย่างไรก็ตาม นับว่ายังโชคดีที่ในบ้านเมืองของเรานั้นยังมีข้าราชการที่ไม่ยอมจำนนต่อความฉ้อฉลของคนบางกลุ่มบางพวกในหน่วยราชการ แม้ผู้ฉ้อฉลจะมีตำแหน่งสูงกว่า แต่ข้าราชการผู้น้อยที่มิได้เห็นด้วยกับการฉ้อฉลก็พยายามส่งข้อมูลให้กับแนวหน้า เพราะเชื่อในการทำงานโดยยึดหลักจรรยาบรรณสื่อสารมวลชนของแนวหน้า

เรื่องที่แนวหน้าได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการชั้นผู้น้อยในศูนย์สุขภาพจิต ซึ่งส่อแสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล มีดังนี้

ศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓ เลขที่ ๑ ซอย เจริญกรุง ๓๔ แขวงบางรัก

เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ๑๐๕๐๐

มกราคม ๒๕๖๓

เรื่อง การเบิกจ่ายค่าวิทยากรในการจัดอบรมของศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓

กราบเรียน ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พลเอก ชนะทัพ อินทามระ

ข้าพเจ้า xxxxxxxxxxxxxxxxxx พนักงานราชการ ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป ศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓ ที่อยู่xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx เลขประจำตัประชาชนxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx (รายละเอียดปรากฏตาม สำเนาบัตรประชาชน เอกสารแนบ)หมายเลขโทรศัพท์xxxxxxxxxxxxxxxxxx  ขอร้องเรียน นางวิรัลพัชร กิตติธะระพันธุ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓ในเรื่องเกี่ยวกับใช้จ่ายเงินแผ่นดิน โดยมีพฤติการณ์ดังนี้

๑. นางวิรัลพัชร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เสนอโครงการตามที่ตนต้องการ โดยมีเจตนาที่ไปร่วมพิธีมงคลสมรสของ นางสาวxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx เจ้าหน้าที่ศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓ (รายละเอียดปรากฏตามเอกสารภาพถ่ายแอปพลิเคชันLine เอกสารแนบ )

จึงได้มีการดำเนินการขออนุมัติโครงการ ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนสู่ องค์กรคุณธรรม มีกำหนด ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ โรงแรมแซนด์ ดูนส์ เจ้าหลาวบีช รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี และมีการกำหนดให้นางวิรัลพัชร เป็นวิทยากรในการประชุมในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ด้วย (รายละเอียดปรากฏตาม สำเนาเอกสารขออนุมัติโครงการฯเอกสารแนบ )

๒. ในการจัดโครงการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ราชการส่วนกลางของศูนย์สุขภาพ จิตที่ ๑๓ จำนวนหนึ่งคัน รถตู้รับจ้างหนึ่งคัน โดยการจัดประชุมในวันที่ ๑๙ และ ๒๐ มีการจัดอบรมจริง แต่ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.ซึ่งตามกำหนดการนางวิรัลพัชรมีหน้าที่ที่จะต้องบรรยายในหัวข้อเรื่อง การเสริมสร้างความพึงพอใจในการทำงานบนพื้นฐานของ ๗ Habits Plus แต่นางวิรัลพัชรกลับสั่งการให้ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดเดินทางไปยังงานมงคลสมรส ตั้งแต่เวลา ๐๗.๓๐ น. โดยไม่มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ แต่ยังมีการเบิกจ่ายเงินค่าวิทยากรสำหรับนางวิรัลพัชรด้วย (รายละเอียดปรากฏตาม สำเนาเอกสารเบิกจ่าย เอกสารแนบ)

จากข้อเท็จจริงข้างต้นข้าพเจ้าขอให้ท่านได้โปรดดำเนินการตรวจสอบในประเด็นดังต่อไปนี้

๑. การสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำเสนอโครงการโดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝงซึ่งมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการ แต่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของนางวิรัลพัชร เป็นการดำเนินการและอนุมัติโครงการที่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือ มติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

๒. การเบิกจ่ายค่าวิทยากรของนางวิรัลพัชร การเบิกจ่ายโดยไม่มีสิทธิ และเป็นการทำเอกสารการเบิกจ่ายเท็จว่าได้มีการบรรยายในที่ประชุม แต่กลับไม่มีการบรรยายเช่นว่านั้น หรือไม่

๓. การสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๓ ซึ่งได้เข้าร่วมการอบรมพร้อมรถยนต์ราชการส่วนกลางของศูนย์ฯ เดินทางไปยังงานมงคลสมรสซึ่งมิได้เป็นการเดินทางไปเพื่อทางประโยชน์ของทางราชการ เป็นการกระทำที่ผิด กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือไม่

เพื่อให้การใช้จ่ายเงินแผ่นดินเป็นไปโดยถูกต้อง คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประโยชน์ในการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ ขอให้ท่านได้โปรดกรุณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วยจักขอบพระคุณยิ่ง

ด้วยความเคารพอย่างสูง

นาย XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

บัญชีเอกสารแนบท้ายหนังสือร้องเรียน

๑. สำเนาบัตรประชาชน

๒. ภาพถ่ายแอปพลิเคชัน Line ระหว่างนางวิรัลพัชร

๓. สำเนาเอกสารขออนุมัติโครงการฯ

๔. สำเนาเอกสารการเบิกจ่ายค่าวิทยากรของนางวิรัลพัชร

สำหรับเรื่องเช่นนี้ บางคนอาจจะดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทว่าหากเรื่องนี้เป็นจริงแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นการจงใจกระทำการอันแสดงให้เห็นถึงเหตุทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งหน่วยเหนือของศูนย์สุขภาพจิตสมควรเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นการด่วน และควรจะต้องจัดการลงโทษผู้ที่กระทำการอันเข้าข่ายทุจริตอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการอื่นๆ ในพระราชอาณาจักรไทย