วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันจันทร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563, 18.35 น.
วีซ่า...คือการปิดประตูการท่องเที่ยว

ดูทั้งหมด

  •  

 

ในอดีตกาลอันไกลโพ้น การเข้าเมืองนั้นไม่ต้องถือหนังสือเดินทางใดๆ ต่อมาเมื่อมีการไปมาหาสู่กันมากขึ้นและเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง จึงเกิดหนังสือเดินทางขึ้นและกลายเป็นพาสปอร์ตในปัจจุบันนี้


ครั้นการไปมาหาสู่ทั่วโลกกว้างขวางมากขึ้น ประเทศที่เป็นผู้รับก็ต้องการกลั่นกรองคนที่จะเข้าประเทศให้เป็นที่วางใจ จึงเกิดระบบการทำวีซ่าหรือการขออนุญาตเข้าเมืองก่อนออกเดินทาง โดยระบุไว้ในพาสปอร์ตนั้น

ครั้นพัฒนาการของโลกก้าวหน้าไปถึงยุคดิจิทัลแล้ว ระบบการตรวจสอบการเข้าเมืองก็มีความก้าวหน้าทันสมัยและรัดกุมยิ่งกว่าระบบการขอวีซ่าจนเทียบกันไม่ติด ดังนั้นหลายประเทศจึงยกเลิกการใช้วีซ่า และใช้ระบบการตรวจสอบบุคคลโดยเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสารสนเทศ ทั้งของประเทศตนเองและประเทศที่เกี่ยวข้อง

เมื่อครั้งที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของประเทศจีนสามารถตรวจจับผู้ก่อการร้ายได้ถึง 57 คน ซึ่งการตรวจจับเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ วีซ่าหรือไม่ได้มีผลต่อเนื่องจากวีซ่าแต่ประการใด แต่เป็นผลจากการใช้ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับการตรวจสอบ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดว่าความปลอดภัยของประเทศและข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากระบบวีซ่า แต่เกิดขึ้นจากระบบสารสนเทศสมัยใหม่

จึงทำให้ประเทศต่างๆ หันมาให้ความสำคัญและให้ความสนใจในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการตรวจสอบบุคคลในการเข้าเมืองและมีการใช้แพร่หลายมากขึ้นโดยลำดับ

ในปัจจุบันนี้ประเทศจำนวนมากในโลกได้ยกเลิกการใช้วีซ่าไปแล้ว แม้กระทั่งญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่อนุรักษ์และเข้มงวดในเรื่องคนเข้าเมืองมากที่สุดก็ได้ยกเลิกวีซ่าให้กับประเทศส่วนใหญ่ของโลกไปแล้ว รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ประเทศไทยของเราก็เช่นเดียวกัน ได้ยกเลิกการใช้วีซ่ากับมิตรประเทศหลายประเทศ แต่ปรากฏว่าประเทศคู่ค้าสำคัญที่จะส่งผลประโยชน์ใหญ่หลวงแก่ประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยวและการค้า การลงทุน กลับไม่ยกเลิก ไม่ว่าจีนหรืออินเดีย หรือประเทศในตะวันออกกลางบางประเทศ แม้ประเทศในยุโรปและอเมริกาอีกหลายประเทศ

ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบการตรวจสอบข้อมูลบุคคลในการเข้าเมืองที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงตามแบบอย่างอารยประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรเลย ขอเพียงมีสติปัญญากล้าหาญตัดสินใจทำการก็จะทำได้สำเร็จ และจะลดภาระและหน้าที่รวมทั้งค่าใช้จ่ายของสถานทูตไทยและสถานกงสุลไทยทั่วโลกด้วย

ที่สำคัญคือจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับประเทศไทยและคนไทยจากบรรดาคนเข้าเมืองทั้งหลายที่อาจมีอาชญากรหรือผู้หลบหนีเข้าเมืองหรือผู้ก่อการร้ายที่แอบแฝงเข้ามาได้ด้วย

ปัจจุบันนี้ระบบการทำวีซ่าของบางประเทศ รวมทั้งของประเทศไทยกลายเป็นระบบที่เอื้อประโยชน์ให้แก่การทำมาหากินหรือการทุจริตหรือการแสวงหาผลประโยชน์บนความเสียหายของประเทศชาติ ดังเช่น

ประการแรก มีการกำหนดหรือถ่วงเวลาในการพิจารณาวีซ่ายาวนานมาก สำหรับบางประเทศต้องใช้เวลา 3-6 เดือน แล้วจะมีใครหน้าไหนอยากจะไปมาหาสู่ด้วย ที่สำคัญคือการสร้างความคับแค้นใจให้กับมิตรประเทศ และประชาชาติของประเทศทั้งหลายเหล่านั้นว่าประเทศไทยกีดกันรังเกียจประชาชาติส่วนใหญ่ของประเทศนั้น เพราะถ้าหากมีคนไม่ดีหรือคนร้ายก็มีจำนวนไม่มากนัก สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีอื่น เหตุไฉนจึงต้องทำให้ประชาชาติส่วนใหญ่ต้องรับผลร้ายจากเรื่องแบบนี้

ประการที่สอง มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากซับซ้อนโดยเฉพาะการแสดงหลักฐานและข้อมูลที่บางครั้งเป็นข้อมูลในอนาคตที่ไม่อาจระบุได้ในขณะขอวีซ่า เช่น สถานที่พำนัก ซึ่งในขณะขอวีซ่าก็ยังไม่มีการจองที่พำนักเพราะไม่มีใครทราบว่าจะสามารถเดินทางได้หรือไม่เมื่อใด จึงเป็นการเปิดช่องให้นายหน้าหาประโยชน์ เพราะเมื่อจ้างนายหน้าดำเนินการเป็นพิเศษแล้ว เรื่องเหล่านี้ก็ได้รับการผ่อนผันหรือมองข้ามไป

ประการที่สาม ระยะเวลาในการพิจารณาและดำเนินการเกี่ยวกับวีซ่ายุ่งยากและใช้เวลามาก ทำให้นักธุรกิจหรือผู้ประกอบธุรกิจหรือนักลงทุนเบื่อหน่ายไม่อยากติดต่อทำมาค้าขายด้วย หรือถ้าจำเป็นก็ต้องจ่ายเงินพิเศษให้นายหน้าไปดำเนินการ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าผลประโยชน์ตกได้กับใคร แต่ที่แน่ชัดก็คือภาพลักษณ์แห่งการคอร์รัปชั่นหรือฉ้อโกงติดตรึงกับประเทศ และเป็นเครื่องทำมาหากินให้กับผู้ทุจริตฉ้อฉลทั้งหลาย

แม้ว่าประเทศไทยจะมีการลดค่าวีซ่าหรือยกเว้นค่าวีซ่าในบางครั้งบางคราว แต่นั่นเป็นเพียงตัวเงินที่แทบไม่สลักสำคัญเท่ากับเวลาและขั้นตอนซึ่งยังคงเป็นอุปสรรคอยู่เหมือนเดิมและไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาอย่างถาวร

เป็นเพียงการสร้างภาพแบบขอไปทีที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติเลย

ประเทศญี่ปุ่นหลังจากยกเลิกวีซ่าให้กับประเทศไทยแล้ว คนไทยได้แห่กันไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากมายมหาศาล และในที่สุดอัตราค่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็แทบไม่ต่างกับการไปท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวในประเทศไปแล้ว

นี่คือหายนะทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่งของประเทศไทย ที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะต้องเลิกใช้ทัศนะราชการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ให้ก่อเกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนโดยเร็วที่สุด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:45 น. ด่วน!!! โปรดเกล้าฯ'ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1/2' 'นายกฯ'ควบ'รมว.วัฒนธรรม'
08:33 น. รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
08:27 น. 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
08:01 น. ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
07:56 น. หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
ดูทั้งหมด
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
'ปานเทพ' พอใจภาพรวมชุมนุม 28 มิ.ย. เผยยอดเงินหนุน 'มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน' 24 ล้านแล้ว
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 1 กรกฎาคม 2568
หุ้นเด่น : 1 กรกฎาคม 2568
วิกฤตกัญชาในพายุการเมือง
ขำกันหลังวันม็อบ
กูไม่ออก?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย

หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า

ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด

‘ชูวิทย์’เลคเชอร์‘เรื่องตลก’พรรคร่วมฯ เหน็บจุกๆทุกครั้ง‘เพื่อไทย’เป็นรัฐบาล ต้องไล่ถึงจะลง

'หมอสุรพล'ชี้ทางออก!!! 'ถ้าไม่เปลี่ยนวัฒนธรรมพลเมืองวันนี้ ประเทศไทยจะไม่มีวันเปลี่ยน'

ไม่พบข้อมูลเดินทาง! คาด'อดีตเจ้าคุณอาชว์'ยังอยู่ในไทย มีคนให้ที่พักพิง

  • Breaking News
  • ด่วน!!! โปรดเกล้าฯ\'ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1/2\' \'นายกฯ\'ควบ\'รมว.วัฒนธรรม\' ด่วน!!! โปรดเกล้าฯ'ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1/2' 'นายกฯ'ควบ'รมว.วัฒนธรรม'
  • รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว
  • \'ปากีสถาน\'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย 'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย
  • ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่ ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่
  • หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved