วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ตั้งแต่หลังปีใหม่ 2020 ทั้งดัชนีตลาดหุ้นอเมริกากับตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐต่างทำสถิติขยับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วยกันทั้งคู่
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ขยับขึ้นไปปิดที่ประมาณ 29,348 จุด อันเป็นสถิติสูงสุด นับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อปี 1792 หรือ พ.ศ. 2335 (ประมาณสมัยรัชกาลที่ 1)ก่อนที่ต้นสัปดาห์นี้จะขยับปรับตัวลงมาบ้างอยู่ที่ระดับ 29,186 จุด ตอนปิดตลาดเย็นวันพุธที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์สร้างสถิติใหม่ปรับตัวขึ้นเกือบหนึ่งพันจุดภายในเวลาไม่ถึงเดือน ตั้งแต่หลังปีใหม่ที่ผ่านมาเช่นเดียวกับตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐ ณ ปัจจุบันมีอยู่ที่ประมาณ 23.2 ล้านล้านดอลลาร์ ก็ทำสถิติใหม่ขยับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาไม่ถึงปีจากประมาณ 22 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
.jpg)
เว็บไซต์แสดงยอดหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐ
แบบ real time
ณ วันที่ 22 มกราคม 2020
เวลาประมาณ 8.07 pm
การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นหนึ่งพันจุดภายในหนึ่งเดือนควบคู่ไปกับจำนวนหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ ภายในไม่ถึงหนึ่งปีถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ ขอให้ลองมาทำความเข้าใจการเดินทางในระบบเศรษฐกิจการเมืองสหรัฐของตัวเลขสองตัวนี้กันดู
นับตั้งแต่ปี 1960 รัฐสภาอเมริกัน ได้มีการออกกฎหมายเพื่อขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลมาแล้วเป็นจำนวนถึง 70 กว่าครั้ง เช่น ในสมัยรัฐบาลเรแกน 16 ครั้ง คลินตัน 4 ครั้ง บุช จูเนียร์5 ครั้ง โอบามา 9 ครั้ง และปัจจุบันรัฐบาลทรัมป์ 2 ครั้งเป็นต้น
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่ประการใด ที่ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐจะอยู่ที่ประมาณ 23.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในปัจจุบัน ถ้าลองย้อนกลับไปดู
การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในรอบหกสิบปีที่ผ่านมา
เริ่มตั้งแต่ ปี 1961 ในสมัยรัฐบาลจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ (เทียบกับประเทศไทยก็ปี 2504 ช่วงรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์) จนถึงปัจจุบันปี 2020รัฐบาลสหรัฐมีการขาดดุลงบประมาณมาเกือบโดยตลอดยกเว้น ปี 1969 สมัยรัฐบาลนิกสันและช่วงปี1998-2001 สมัยรัฐบาลคลินตันเท่านั้น ที่สามารถทำงบประมาณเกินดุลได้
พูดง่ายๆ ก็คือ งบประมาณแผ่นดินของประเทศสหรัฐฯ ในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา (1961-2020) มีการทำงบประมาณแบบขาดดุล 55 ปี และเป็นแบบเกินดุล 5 ปี การมีงบประมาณแบบขาดดุลมาตลอด 55 ปี ในระยะเวลา 60 ปี จึงทำให้ยอดหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐ (Public Debt) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินเพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณสะสมเรื่อยมาจนถึง 23.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันกลายเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะมากที่สุด
.....หนี้ก้อนมหึมาจำนวนดังกล่าวของรัฐบาลพญาอินทรีตัวนี้ มีที่มาจากไหน ขอให้ลองมาดูกัน.....
ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มแตะหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ $1 trillionในรัฐบาลจิมมี่ คาร์เตอร์ (1979-1982) ซึ่งค่อยๆ ถูกสะสมมาจากรัฐบาลก่อนหน้านั้นด้วยการทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพราะเอาเงินไปทำสงครามเวียดนามจนหมดและประกอบกับเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มชะลอตัวลง
ช่วงสมัยของเรแกน (1983-1988) มีการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพราะเอาเงินไปใช้จ่ายในการพัฒนาสร้างโครงการด้านอวกาศต่างๆ ขณะที่มีการจัดเก็บภาษีน้อยลงอันเนื่องมาจากนโยบายลดภาษีต่างๆ ตามสไตล์ของพรรครีพับลิกัน
ในปี 1989 ตอนบุช ผู้พ่อขึ้นมารับช่วงเป็นประธานาธิบดีต่อจากเรแกน ตัวเลขหนี้สาธารณะรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยระยะเวลาสี่ปีที่รัฐบาลบุช ซีเนียร์ บริหารประเทศนั้นก็ได้ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะเอาเงินไปใช้จ่ายในสงครามอ่าวเปอร์เซียและเศรษฐกิจอเมริกาได้เข้าสู่ภาวะถดถอยตามวัฏจักรของมัน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นอยู่ในช่วงขาขึ้นสมัยรัฐบาลเรแกน ยอดหนี้เพิ่มเป็น 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่บุช ซีเนียร์ อำลาทำเนียบขาวไป
ต่อมา ในยุคสมัยคลินตัน (1993-2000) ตลอดแปดปี รัฐบาลนี้ได้ก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งก็ถือว่าไม่มากนักถ้าเทียบกับ รัฐบาลบุช ซีเนียร์ ที่บริหารประเทศเพียง 4 ปี แต่สร้างหนี้ให้สหรัฐฯ ไป 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุที่เศรษฐกิจในช่วงรัฐบาลคลินตันนี้กลับมาดีขึ้นเพราะการเฟื่องฟูของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เนต (ยังมีต่อ)
ธิติ สุวรรณทัต

เสธ.ทบ. รับต้องทบทวนปรับแผน จัดซื้อยุทโธปกรณ์ หลังมีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
สมช.ยังไม่มีแนวคิดขยายพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน น้ำท่วมใต้ บอกใช้แค่สงขลาก่อน
นักกีฬาเจ็ตสกีชาวรัสเซียลุยภารกิจน้ำท่วมหาดใหญ่ เห็นธงชาติไทยจมน้ำรีบว่ายไปงมขึ้นมา
DSI บุกค้นตึกย่านราชเทวี ยึดสินค้าแบรนด์ดังปลอมร่วม 50,000 ชิ้น ความเสียหาย 20 ล้าน
เปิดภาพนาทีบุกบ้าน นานา ไรบีนา หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ข้อหาฉ้อโกง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี