เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันที่จ่าทหารคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชำนาญจัดเจนในการใช้อาวุธและได้ก่อโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คือการสังหารคู่กรณีและประชาชนผู้บริสุทธิ์ร่วม 30 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 50 คน โดยประชาชนนั้นไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองหรือรู้จักกันมาแต่ก่อน
เป็นเหตุการณ์วิปโยคโศกเศร้าเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในต้นศักราช 2563 ซึ่งเป็นต้นศักราชที่ทั่วทั้งโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญภัยพิบัติมากหลาย
สำหรับประเทศไทยนั้นกำลังเผชิญทั้งภัยแล้ง ฝุ่นพิษที่คุกคามสุขภาพและชีวิตประชาชน ตลอดจนการทำมาหากินของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจที่ทำมาค้าขายฝืดเคืองลงทุกวัน ในขณะที่โจรผู้ร้ายก็ชุกชุม และการโกงบ้านกินเมืองก็ขยายลามประสานเข้ากับการเผาป่าเผาไร่ที่ซ้ำเติมฝุ่นพิษอย่างหนักทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน
จึงเป็นการเริ่มต้นปี 2563 ที่นำความไม่สบายกาย ไม่สบายใจและความขุ่นข้องหมองใจ ความกังวลใจ แก่อาณาประชาราษฎรโดยทั่วไป
จะมีความอบอุ่นใจของอาณาประชาราษฎรก็ตรงที่บ้านเมืองนี้ยังมีฉัตรชัยของแผ่นดิน คือพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณและพระมหากรุณาธิคุณแก่อาณาราษฎรโดยทั่วไป มีความเดือดร้อนทุกข์เข็ญที่ไหนก็ทรงแผ่พระบารมีไปให้เกิดความร่มเย็นอยู่เสมอ
แต่การที่เกิดเหตุร้ายที่โคราชครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ปกติเนื่องจากการที่คนคนหนึ่งสามารถสังหารผู้อื่นโดยที่ไม่รู้จักมักคุ้นไม่มีข้อพิพาทบาดหมางอย่างอำมหิตนั้น ในช่วงเดือนเศษมานี้ก็มีเหตุการณ์ร้ายทำนองนี้เกิดขึ้นแล้วถึงสามครั้ง
ครั้งแรก คือการชิงทรัพย์ที่ร้านทองในห้างใหญ่ในจังหวัดลพบุรีและสังหารผู้คนอย่างเลือดเย็นโดยไม่เลือกหน้า มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และในที่สุดก็ถูกจับกุมได้ ก็ปรากฏว่าเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดนั้น และมีภาระหนี้สินเต็มตัว
ครั้งที่สอง เกิดขึ้นในจังหวัดในภาคกลางที่ร้านข้าวแกงเล็กๆ ร้านหนึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก ในขณะที่ชาวบ้านกำลังไปซื้อข้าวแกงกินกัน ซึ่งก็พอเห็นได้ว่าร้านข้าวแกงนี้อาจเป็นที่พึ่งสำหรับผู้มีรายได้ไม่มากนัก หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นร้านอาหารประจำถิ่นสำหรับคนยากจนก็ได้
จู่ๆ ก็มีคนเอาปืนมายิงคนที่กำลังซื้อข้าวแกงกันอยู่นั้น ตายไปคนหนึ่ง เจ็บไปคนหนึ่ง โดยที่ผู้เจ็บและผู้ตายก็ไม่ได้มีสาเหตุหรือทะเลาะเบาะแว้งหรือรู้จักมักคุ้นกันเลย
ครั้งที่สาม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โคราช ที่จ่าทหารคนหนึ่งมีความคับแค้นใจจากการกระทำของผู้บังคับบัญชาและแม่ยาย เป็นความคับแค้นใจที่เกิดจากเงินจำนวนไม่มากนัก แต่เพราะเหตุที่มีการกระทำและการปฏิบัติหลายอย่างที่ทำให้เกิดความคับแค้นใจเพิ่มขึ้นถึงขั้นสูงสุดจนสติแตก ถึงขั้นตัดสินใจและแจ้งข้อความประหลาดประหนึ่งส่งสัญญาณให้เพื่อนฝูงได้รับทราบ แม้กระทั่งได้กล่าวเตือนผู้บังคับบัญชาให้รับทราบด้วย
และแล้ววันเวลาแห่งความวิปโยคก็มาถึง จ่าทหารคนนี้ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตในทันทีและได้ยิงแม่ยายของผู้บังคับบัญชาซึ่งมีกรณีเกี่ยวกับการเงินตายตามไปอีกคนหนึ่ง
จากนั้นก็ชิงเอารถทหารไปยังคลังเก็บอาวุธซึ่งมีพลทหารเฝ้าอยู่คนเดียว จึงยิงเสียชีวิตและกวาดเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ร้ายแรงจำนวนมากใส่รถที่ชิงมานั้นขับออกไปด้านนอก โฉมหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองโคราช ระหว่างทางพบใครก็ยิงดะไปหมด
ครั้นเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแล้วก็ยิงดะไม่เลือกหน้า ในขณะที่ก่อการไปก็โพสต์เฟซบุ๊คให้คนทั้งหลายได้รับรู้ จึงกลายเป็นเหตุการณ์ลือลั่นสนั่นเมือง และดังสนั่นลั่นโลกไปในทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายก็พากันเข้าไประงับเหตุตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ จนกระทั่งรุ่งเช้าถึงอีกวันหนึ่งจึงเกิดการปะทะกัน และทำให้จ่าทหารผู้นั้นเสียชีวิต แต่ก่อนที่จะตายก็ได้ก่อกรรมสังหารผู้คนในห้างสรรพสินค้าไม่เลือกเพศ เลือกวัย ตายไปอีกหลายคนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
กรณีดังกล่าวนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่คนทั้งหลายจะต้องช่วยกันครุ่นคิดและสรุปเพื่อหาทางป้องกันแก้ไขต่อไป และที่เห็นประเด็นสำคัญอันควรคิดป้องกันแก้ไขก็คือ
ประการแรก อาจเกิดลัทธิเอาอย่างในการกระทำการลักษณะนี้เพิ่มขึ้น เพราะในระหว่างที่เกิดเหตุนั้นเมื่อมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คก็มีผู้เห็นด้วยช่วยกันพากันโพสต์ไปในทางเดียวกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีคนที่มีความคิดความเห็นแบบนี้อยู่จำนวนหนึ่งในสังคม ซึ่งหากพัฒนาต่อไปก็จะเป็นอันตรายต่อผองชนชาวไทยในอนาคตเป็นแน่
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดอ่านป้องกันแก้ไขเสียโดยไวที่สุด
ประการที่สอง เป็นเรื่องของการปฏิบัติต่อกันระหว่างผู้ใหญ่กว่ากับผู้น้อยกว่า โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชากับลูกน้อง ที่ถึงขั้นหนึ่งหากความคับแค้นใจสั่งสมถึงขีดสุดก็อาจตัดสินใจทำการในสิ่งที่คนไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ เพราะหลายกรณีอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กนั้นอาจจะเล็กสำหรับผู้มีอำนาจหรือผู้เป็นใหญ่ แต่สำหรับผู้น้อยหรือคนสิ้นไร้ไม้ตอกหรือไม่มีทางออกทางรอดประการอื่นก็อาจตัดสินใจที่เหนือกว่าความคาดคิดทั้งหลายดังเช่นกรณีจ่าทหารผู้นี้
คำของคนตายก่อนที่จะตายไม่กี่ชั่วโมงที่ว่าเงินที่ได้จากการโกงนั้นจะเอาไปใช้ในนรกได้หรือเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะไม่ว่าผู้ตายจะคับแค้นหรือดีร้ายประการใด แต่ถ้อยคำดังกล่าวนั้นมีน้ำหนักอันควรแก่การรับฟังเป็นข้อคิดสะกิดใจว่าการเบียดเบียนหรือการโกงกันนั้นอาจก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขนาดใหญ่ที่คาดคิดไม่ถึงได้ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้
ประการที่สาม การที่จ่าทหารคนหนึ่งบุกเข้าไปสังหารพลทหารเวรที่เฝ้าคลังอาวุธอยู่คนเดียวและกวาดเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ไปได้นั้นก็ซ้ำรอยกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นที่อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อสิบกว่าปีก่อน อันเป็นที่คาดหวังว่าน่าจะมีมาตรการป้องกันแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบเดียวกันนั้นอีก
แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์แบบนั้นก็ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่เสมอๆ และแม้ในพื้นที่โคราชซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก
และเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของกองทัพภาคก็เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดอ่านป้องกันแก้ไขให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้โดยเร็วที่สุด
ซึ่งต้องคิดอ่านทั้งในเชิงระบบการป้องกันแก้ไข เกี่ยวกับสถานที่เก็บที่มีความปลอดภัยสูง และมีผู้รับผิดชอบดูแลรักษาที่เห็นได้ว่ามีขีดความสามารถที่จะป้องกันรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังอาวุธได้ เพราะถ้าหากคนร้ายเพียงคนเดียวสามารถไปชิงเอาอาวุธจากคลังได้อย่างนี้แล้ว จะเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองในวันข้างหน้าอย่างคาดคิดไม่ถึง
ประการที่สี่ เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว หน่วยงานหรือบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ทั้งระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด หรือระดับภาค จะต้องมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเข้าควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยไวที่สุด โดยถือว่าเป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งถ้าหากหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไวที่สุดและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด
ที่สำคัญคือต้องกระจ่างแจ้งในหน้าที่รับผิดชอบตามบทกฎหมายและภารกิจ จะทำให้เกิดความสับสนในการบังคับบัญชาหรือบริหารจัดการไม่ได้เป็นอันขาด เพราะกรณีเช่นนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ถ้าหากระดับจังหวัดหรือระดับภาครับมือไม่ได้ก้ไขไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเข้าควบคุมสถานการณ์ต่อไป หรือถ้ายังไม่ไหวอีกก็สามารถร้องขอหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ เช่น ทหารให้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ได้
การบังคับบัญชาและการเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างไม่สับสนอย่างหนักแน่นมั่นคง และใจเย็นจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจำเป็นต้องทบทวนและย้ำหลักปฏิบัติให้ชัดเจนสักครั้งหนึ่ง มิฉะนั้นก็อาจเกิดการสับสนอลหม่านขึ้นได้
ประการที่ห้า ควรจะสำเหนียกว่ากรณีแบบนี้ไม่ควรใช้เป็นการหาเสียงทางการเมืองซึ่งเป็นเรื่องน่าชิงชังรังเกียจและเป็นเรื่องที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ซึ่งผลเป็นอย่างไรก็รู้ดีกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกล่าวอีก
บทเรียนทั้งห้าประการนี้จะมีคุณค่าถ้าหากได้มีการนำบทเรียนนี้ไปใช้ในการป้องกันแก้ไข มิฉะนั้นชีวิตของประชาชนที่ได้รับภัยพิบัติในครั้งนี้ก็จะเป็นการสูญเสียเปล่า ซึ่งควรขอให้ชีวิตเลือดเนื้อของประชาชนที่สูญเสียในครั้งนี้ได้เป็นสิ่งเตือนภัยปรับปรุงแก้ไขเป็นบทเรียนเพื่อปกป้องชีวิตของพี่น้องร่วมชาติให้มีความปลอดภัยต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี