วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ในประเทศพัฒนาแล้วที่อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องยากลำบากชนิดเป็นไปไม่ได้ ที่จะได้เห็นบริษัทในเครือกองทัพออกมาทำธุรกิจในสังคม เพราะกองทัพนั้นมีหน้าที่ที่จะป้องกันประเทศ และไม่ได้มีหน้าที่ไปทำธุรกิจหาเงินเข้าตัว
ในทางกลับกัน มีหลายประเทศกำลังพัฒนา ทั้งที่เป็นเผด็จการ หรือกำลังเพียรพยายามจะเป็นประชาธิปไตย การที่ฝ่ายกองทัพจะมีธุรกิจเพื่อหารายได้พิเศษเป็นของตนเองนั้นดูเป็นเรื่องธรรมดา หรือยอมๆ กันอยู่ด้วยมักจะอ้างเหตุผลว่า อาชีพทหารนั้นเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตราย มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองสูง แต่งบประมาณจากรัฐบาลให้มาไม่เพียงพอ สวัสดิการทหารจึงไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย กองทัพจึงจำเป็นต้องไปประกอบธุรกิจเพื่อหารายได้เอง ก็เป็นบ่อเกิดของการที่กองทัพสามารถมีวิสาหกิจของตนเองขึ้นมา
ยกตัวอย่างประเทศที่โดดเด่นในเรื่องกองทัพมีธุรกิจใหญ่โตคับประเทศ ก็มี พม่า ปากีสถาน ตุรกี และอียิปต์ เป็นต้น (ไทยเราก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน)
กองทัพไทยโดยเฉพาะกองทัพบก ก็มีกิจการหลากหลาย เช่น สนามกอล์ฟ สนามม้า สนามมวย โรงแรม ทีมฟุตบอลอาชีพ เป็นต้น อีกทั้งกองทัพยังมีบุคลากรที่ไปมีตำแหน่งหน้าที่ในสมาคมกีฬาอาชีพต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และส่อถึงการเกี่ยวข้อง ระหว่างข้าราชการประจำ กับวงการธุรกิจค้ากำไร และเป็นการเบียดบังเอาทรัพยากรบุคคลด้านความมั่นคงไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการงานที่มิใช่ภาระหน้าที่โดยตรง
บัดนี้ เมื่อผู้บัญชาการกองทัพบกได้ประกาศนโยบายการแยกกองทัพออกจากการทำธุรกิจ โดยเริ่มต้นจากการล้มเลิกทีมฟุตบอลอาชีพทัพบก ก็เลยเป็นข่าวน่ายินดี เป็นที่แซ่ซ้อง ควรแก่การชมเชย สนับสนุน ให้กำลังใจ
นอกจากนั้น ข่าวก็ยังมีอีกว่า ฝ่ายกองทัพจะทำการว่าจ้าง หรือให้สัมปทานกับบริษัทเอกชน ในการบริหารจัดการธุรกิจต่างๆ ของกองทัพ
ดังกล่าว และจะนำรายได้ไปใช้กับการเสริมสร้างสวัสดิการให้แก่บุคลากรของกองทัพ
ก็หวังว่า การว่าจ้างก็ดี หรือการให้สัมปทานก็ดีนั้น จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีผู้รับผิดชอบต่อการตั้งกฎเกณฑ์ และควบคุมดูแลการบริหารจัดการ รวมทั้งเปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าถึงซึ่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยมีตัวแทนของพวกเขา (รัฐสภา) ช่วยตรวจสอบด้วยอีกทางหนึ่งควบคู่กันไป
สำหรับรายได้เพื่อสวัสดิการนั้น ก็ต้องนิยามกันให้แน่ชัดแต่ต้นว่า เป็นสวัสดิการอย่างไร ทหารใดได้รับประโยชน์ และมีความทัดเทียม มีความเที่ยงธรรมหรือไม่
แล้วรายได้จะนำไปใช้เพื่อ “สวัสดิการ” ทั้งหมดนี้ ฝ่ายกองทัพควรจะคิดว่ารายได้ส่วนหนึ่งควรนำไปใช้ในกิจการอื่นด้วย เช่น
1.การวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ (ไทยคิด ไทยทำ ไทยใช้)
2.การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ แทนที่จะพึ่งงบประมาณประจำอย่างเดียว
3.การว่าจ้างบริษัทเอกชนไทย ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น การต่อเรือ การผลิตรถหุ้มเกราะการผลิตยานยนต์สะเทินน้ำสะเทินบก
4.อนึ่ง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญต่อการสงคราม ต่อการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัย ต่อการสอดแนมและการหาข่าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ไทย(ทั้งทหารและพลเรือน) มีมันสมองและองค์ความรู้ไม่ด้อยกว่าต่างชาติ ก็น่าจะอยู่ในวิสัยที่จะคิดและพัฒนาอาวุธและอุปกรณ์สงครามสมัยใหม่ คืออากาศยานไร้คนขับ (Drones) ได้ ซึ่งโดรนจะเป็นได้ทั้งเพื่อการขนส่ง ต่อการสอดแนม โจมตี และป้องกัน เป็นต้น
นอกจากนั้น กองทัพก็มีที่ดินว่างเปล่ามาก หรือใช้ประโยชน์น้อย สามารถนำไปให้เอกชนเช่า และนำรายได้มาสมทบการสวัสดิการ และการพึ่งตนเองทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ด้วย
ในขณะเดียวกัน ก็หวังว่าบรรดาแม่ทัพทั้งหลายจะดูแลเรื่องความเป็นอยู่ และค่าตอบแทนต่างๆ ด้วย ด้วยว่ามีข่าวหนาหู ว่าด้วยบัญชีรายชื่อปลอม บัญชีรายชื่อกับผู้ทำงานจริงไม่สอดคล้องกัน เงินเบี้ยเลี้ยงของทหารชั้นผู้น้อยถูกหักหัวคิว การจัดซื้อจัดจ้าง มีการผูกปิ่นโตกับบริษัทเอกชนขาประจำ ไปจนถึงการใช้แรงงานทหาร ทหารเกณฑ์ ตั้งแต่ระดับบนเบิกรับค่าใช้จ่าย แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋า ร่ำรวยไปตามๆ กัน
นอกจากนั้น ปัญหาภาคใต้ไม่ควรแก้ไขกันแบบ “เลี้ยงไข้” ที่เป็นช่องทางตบทรัพย์ รับงบประมาณจากภาษีราษฎร หากแต่ต้องเร่งทำงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งกองทัพสามารถกระทำได้ ถ้าตั้งใจจริง และซื่อตรง ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ต่อชาติบ้านเมือง
ในเรื่องของการแยกกองทัพออกจากธุรกิจครั้งนี้ ผมก็ขอเชียร์ท่านแม่ทัพอย่างเต็มที่ แต่ก็ขอวิงวอนให้ท่านค่อยคิดค่อยทำด้วยการปรึกษาหารืออย่างกว้างขวาง และหาข้อยุติที่จะไม่มีข้อสงสัยคลางแคลงใจใดๆ
ทั้งสิ้น
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี