ในตอนที่ผ่านมา ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ขณะนี้ได้มีนักวิชาการบางคนผุดไอเดียเรื่อง “การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง” ขึ้นมาให้ได้ยินได้ฟังกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วในบางครั้งบางคราวสมัยก่อน ด้วยเหตุผลที่ยกมากล่าวอ้างว่าจะทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ฟังแล้วขอชำแหละหน่อยนะครับ
เพราะไอเดียอย่างว่านี้ คนพูดคงไม่ได้คิดหรอกว่า ได้เกิดผลกระทบไปถึงสิ่งใดบ้างในทางที่เสียหายอย่างร้ายแรงกับบ้านเมืองโดยเฉพาะในเรื่องพระราชอำนาจ เรื่องราชอาณาจักร และสถาบันพระมหากษัตริย์
เรื่องประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง แต่อยู่ที่ว่าการเมืองการปกครองภายใต้การบริหารจัดการของผู้ใช้อำนาจในขณะนั้นเป็นอย่างไร มีระเบียบตามกฎหมายและศีลธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตต่องานในหน้าที่มากน้อยแค่ไหน การใช้เสรีภาพที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ ปั่นป่วนวุ่นวายตามใจชอบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นอนาธิปไตยซึ่งเป็นภัยอย่างใหญ่หลวงของสังคมและบ้านเมือง
นักวิชาการบางคนที่ผุดไอเดียการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงนั้น คงจะไม่ได้เคยศึกษาหาความรู้ให้ดีมาก่อนว่า อุปสรรคสำคัญอันเป็นสาเหตุให้กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยในบ้านเราล้มเหลวนั้น เนื่องจากการศึกษาของชาติที่ผ่านมาไม่สามารถพัฒนาคนในชาติให้มีหลักคิดและมีจิตสำนึกที่ถูกต้องในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่รู้และไม่เข้าใจในเรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งผลให้ประชาชนถูกครอบงำความคิดทางการเมืองอย่างผิดๆ อีกทั้งยอมขายเสียงเพื่อแลกกับเศษเงิน โดยไม่ตระหนักถึงคุณค่าของคะแนนเสียงที่มีความสำคัญต่อชะตาของบ้านเมือง
นักการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอและมีคุณภาพสมกับการเป็นผู้แทนราษฎร มุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์และอำนาจทางการเมืองเท่านั้น พรรคการเมืองก็ไม่มีรากฐานมาจากประชาชน แต่มีเจ้าของพรรคเป็นพ่อค้า และมีกลุ่มทุนต่างๆคอยให้การสนับสนุนเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของตน
นี่คือความเป็นจริงที่ยังคงดำรงอยู่ขณะนี้
ความเป็นจริงที่สะท้อนให้เห็นว่า ในบ้านเมืองของเรายังคงมีอุปสรรคที่จะขับเคลื่อนกระบวนการทางประชาธิปไตยให้ก้าวไปสู่วิถีทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกล่าวคือ ประชาชนขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องประชาธิปไตย ประชาชนรู้จักเพียงว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งเท่านั้น
เหมือนพวกนักวิชาการบางคนนั่นแหละที่ออกมาเรียกร้องหรือแสดงความเห็นให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพราะคนพวกนี้บอกว่าบ้านเมืองจะได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
งี่เง่ายิ่งกว่านั้นก็คือ คนพวกนี้ที่อยากให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงนั้น ไม่ได้นึกหรือคิดให้ดีเสียก่อนจะพูดในเรื่องดังกล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร”มาตั้งแต่พันปีแล้ว และมีการปกครองที่เรียกว่า“การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
นายกรัฐมนตรีนั้นเป็เพียง “ประมุขฝ่ายบริหาร” ซึ่งรับอำนาจการปกครองหรืออำนาจบริหารมาจากประมุขของประเทศ
แม้กระทั่ง “ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ” และ “ประมุขของฝ่ายตุลาการ” ก็ได้รับอำนาจในการทำงานมาจากประมุขของประเทศ
ประเทศที่มีการปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐนั้นมี “ประธานาธิบดี” เป็นประมุขของประเทศ ประเทศอย่างว่านี้บางประเทศก็มี “นายกรัฐมนตรี” เป็นหัวหน้ารัฐบาล แต่คนแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นก็คือประธานาธิบดี ยกเว้นแต่ว่าตัวประธานาธิบดีจะเป็นหัวหน้าในการบริหารประเทศเสียเองเท่านั้น อย่างที่เป็นอยู่ในโลกขณะนี้หลายประเทศ ที่มีแต่ประธานาธิบดี ไม่มีนายกรัฐมนตรี
รูปแบบการปกครองของประเทศต่างๆในโลกขณะนี้ จึงยังคงมีทั้งรูปแบบของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เรียกว่า “ราชอาณาจักร” และรูปแบบของประเทศที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ที่เรียกว่า “ประเทศสาธารณรัฐ”
“ราชอาณาจักร” เป็นประเทศเดี่ยว ไม่ประกอบด้วยจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ที่แยกตัวเองออกไปจัดการกับปัญหาภายในของตนเหมือน “ประเทศสาธารณรัฐ” ที่มีรัฐหลายรัฐมารวมกันเป็นประเทศ ซึ่งแต่ละรัฐมีการจัดการกันภายในได้ในขอบเขตหนึ่งแต่ก็ต้องขึ้นกับส่วนกลางหรือรัฐบาลกลางของประเทศ
การเลือกตั้ง “นายกรัฐมนตรีโดยตรง” เป็นการเปลี่ยนรูปประเทศจาก “ราชอาณาจักร” เป็น “สาธารณรัฐ”
จะบั่นทอน “พระราชอำนาจ” กับไปถึงไหน
ความมั่นคงปลอดภัยของสถาบันสูงสุดในขณะนี้ นับวันอันตรายมากขึ้นจากการกระทำในรูปแบบต่างๆ เหมือนดินพอกหางหมู จนหมูเดินไม่ไหวแล้ว
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี