หลังจากที่คนไทยติดเชื้อ “โควิด-19” แบบ “ก้าวกระโดด” 5 วันติดต่อกัน แล้วในวันที่ 19 ที่ผ่านมาก็มี “สถิติช็อกคนไทยจนใจแป้ว” เพราะวันเดียวเท่านั้น มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะไปถึง “60 ราย”

ในจำนวน 60 รายดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดต่อเนื่องจากผู้ป่วยเดิมที่ถูกโควิด-19 “ตุ๊บตั๊บในผับย่านทองหล่อ” และ “ถูกเตะก้านคอในสนามมวยลุมพินี” ใน “ไฟท์มรณะ” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม

“ยอดผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 มีนาคมของประเทศไทยอยู่ที่ 272 ราย กลุ่มคนป่วยที่ติดจากผับ มีทั้งสิ้น 57 ราย และติดจากสนามมวย52 ราย รวมสองรายการเป็น 109 ราย เหลือ 163 รายติดจากกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มเข้าร่วมพิธีศาสนาที่มาเลเซียเป็นต้น”

ดังนั้น ทั้ง “ผับ” และ “สนามมวย” จึงกลายเป็น“จำเลยสังคม” ที่ถูกประชาชนทั้งประเทศออกมาชยันโตเป็นสเตอริโอทั้งสิบทิศ

โดยเฉพาะ “กรณีไม่กักขังตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน เพื่อรอดูอาการ แต่กลับเที่ยวแพร่เชื้อให้ใครต่อใครอย่างกระจุยกระจายไปถึง 9 จังหวัด”

มีผู้คาดหมายว่า ยังจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อไปในลักษณะ “ลูกโซ่” ที่มาจากกลุ่มผับและกลุ่มสนามมวยดังกล่าว

แม้ “สนามมวย” และ “ผับ” ในกทม.และอีกหลายจังหวัดจะถูกปิดไปจนถึง 31 มีนาคมนี้ คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ ถ้าวันที่ 1 เมษายน ผับและ
สนามมวยกลับมาเปิดใหม่ “คนไทยหัวใจชอบฮาเฮ” จะขอเป็น “เหยื่อ” ให้โควิด-19 เล่นงานอีกครั้งอย่างกระหน่ำหรือไม่?

ล่าสุด ก็มีข่าว “สนามมวยนนทบุรี” จัด “ไฟท์พิเศษ” เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ทำให้ “ตำรวจฝ่ายสืบ” จากสภ.เตาปูน ติดเชื้อไปหลายรายอย่างน้อยหนึ่งราย และอีก 19 ราย ถูกกักตัวไว้ดูอาการ

ถ้า “โปลิศ 19 ราย” กลายเป็น “เหยื่อโควิด-19” รับรองได้ ไม่เพียงแต่ “สนามมวยนนทบุรี”และ “สนามมวยลุมพินี” นั้น จะตกเป็น “จำเลยสังคม”

แต่ “สนามมวยทุกแห่งในประเทศไทย” จะกลายเป็น “จำเลยสังคม” ถูกตราหน้าเป็น “ผู้ก่อการร้ายยิงขีปนาวุธติดหัวรบโควิด-19 ใส่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม