การประชุมเพื่อสันติภาพประเทศยูเครนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอตัวเป็นท้าวมาลีวราช เป็นคนกลางการเจรจาระหว่างคู่สงคราม ที่หลายประเทศยุโรปและนาโตผสมโรงเจรจา ผลลัพธ์ออกมาสหรัฐอเมริกามีแต่ได้กับได้

รอบแรกการเจรจาแสวงหาสันติภาพในยูเครน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดการประชุมสุดยอดผู้นำที่ฐานทัพร่วมเอลเมนดอร์ฟ-ริชาร์ดสัน รัฐอลาสกา เมื่อวันศุกร์ที่15 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยการจับมือกันอย่างอบอุ่น ก่อนเข้าสู่การหารือหลายชั่วโมง เกี่ยวกับทิศทางสงครามยูเครนและความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตัน-มอสโก

การประชุมกว่าสามชั่วโมงหาข้อยุติหยุดยิงไม่ได้ แต่มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายเข้าใจร่วมกันเรื่องยูเครนต้องยอมถอนทหารออกจากสี่ภูมิภาค ที่รัสเซียยึดได้ระหว่างสงครามกว่าสามปีเจ็ดเดือน

หลังจากประชุมกับปูติน ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่า เป็นการพูดคุยที่อบอุ่นจริงใจ มีความคืบหน้าหลายอย่าง..เรื่องหยุดยิงนั้นข้ามไปก่อนจนกว่าจะมีการเจรจาสามฝ่าย คือ รัสเซีย ยูเครน และ สหรัฐ ซึ่งสถานที่และวันเวลายังไม่ได้กำหนด

การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งประวัติศาสตร์ที่ ทรัมป์กับปูติน พบกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่นักวิเคราะห์มองว่ารัสเซียได้ชัยชนะทางการทูต การพบกันใน อลาสกา ทำให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของอเมริกาและตะวันตกด้อยค่าลงไป และเป็นสัญญาณว่าสหรัฐมีแนวโน้มยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย

สามวันต่อมาประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน หอบผู้นำยุโรปและนาโตเข้าพบ ปธน.ทรัมป์ ในทำเนียบขาวในวอชิงตัน การที่ผู้นำยุโรปแห่ไปกับพี่เลี้ยงเซเลนสกี้ วันที่ 15 สิงหาคม นักการทูตและนักวิเคราะห์มองว่า นอกจากผู้นำยุโรปป้องกันไม่ให้ เซเลนสกี ถูก ทรัมป์ รังแกเหยียดหยามเหมือนเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว ผู้นำยุโรปยังต้องการรู้ความจริงว่า สหรัฐยอมจำนนเรื่องดินแดนต่อรัสเซียหรือไม่ สหรัฐร่วมมือในแผนการรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญสหรัฐจะยกเลิกคว่ำบาตร รัสเซียทันทีหรือค่อยเป็นค่อยไป

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า หลังประชุมสองต่อสองกับ ทรัมป์ เซเลนสกี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้เป็นก้าวสำคัญของการแสดงพลังสามัคคีอย่างแท้จริงระหว่างยุโรป และสหรัฐอเมริกา ผู้นำยุโรปมาสนับสนุนยูเครนด้วยตัวเอง และหารือกันทุกอย่างที่นำพวกเราเข้าใกล้สันติภาพอย่างแท้จริง และสถาปัตยกรรมความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ จะปกป้องยูเครนและยุโรปทั้งมวล” เซเลนสกี แสดงท่าทีดึงยุโรปเข้าเป็นแนวร่วมสงครามชัดเจน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องดินแดนที่รัสเซียยึดได้ เซเลนสกีกล่าวว่า “เรื่องเขตแดน ผมได้พูดมามากแล้วเกี่ยวกับแผนที่ยูเครน ผมสามารถแสดงให้เห็นหลายอย่างบนแผนที่ให้เพื่อนอเมริกันดูได้..ผมโต้เถียงถึงเปอร์เซ็นต์บนแผนที่ เพราะผมรู้เรื่องเปอร์เช็นต์ของดินแดนที่ถูกยึดครองชั่วคราว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่การถกเถียงกัน มันเป็นการพูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะและมีเหตุผลรองรับ”

รัสเซียกล่าวว่า ยึดดินแดนยูเครนได้ 20% แต่เซเลนสกียืนยันว่า ยูเครนเสียดินแดนชั่วคราวเพียง 1% เท่านั้น “ผมคิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ฟังผม อย่างไรก็ตามเรื่องดินแดนปล่อยให้เป็นเรื่องของผมกับปูติน” (เจรจากัน) และเสริมว่า#นอกจากนั้นยูเครนเสนอซื้ออาวุธสหรัฐอเมริกาประมาณเก้าหมื่นล้านดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ทำเนียบขาวจัดประชุมระหว่าง ปธน.ทรัมป์กับผู้นำยุโรปถกกันเรื่องความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทำเนียบขาวไม่ค่อยจัดประชุมกับผู้นำต่างประเทศหลายฝ่ายบ่อยนัก เหมือนที่เซเลนสกีกับผู้นำยุโรป 7 ชาติยุโรปถกกันเรื่องความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน กับ ปธน.ทรัมป์

การหารือหลายฝ่ายเกิดขึ้นสามวันหลังจาก ทรัมป์ พบกับปูติน ในอลาสกา ที่มีรายงานว่า มีความคืบหน้าหลายประเด็น แต่ข้อตกลงยังแถลงไม่ได้ การถกกันในทำเนียบขาวครั้งนี้ข้อใหญ่ใจความเน้นเรื่อง รับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน และความเป็นไปได้เจรจาสามฝ่ายระหว่างรัสเซีย ยูเครน และ สหรัฐ ยังไม่มีข้อตกลงกันในประเด็นสำคัญเช่นการหยุดยิงจำเป็นหรือไม่ ก่อนเจรจาในประเด็นอื่นๆ

หลังพบกับ เซเลนสกี นักข่าวถามทรัมป์ว่า รับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนรวมทั้งส่งกองทัพสหรัฐไปด้วยหรือไม่ ทรัมป์ไม่ได้ตอบตรงๆ เพียงพูดว่า “เอาไว้พบกับผู้นำยุโรปก่อนค่อยคุยกันเรื่องนี้” และเสริมว่า ประเทศยุโปทั้งมวลเข้าไปมีส่วนร่วม และยูเครนจะได้รับความช่วยเหลืออย่างกว้างขวางในแง่ความปลอดภัยจากยุโรป..

“..พวกเขาจะเป็นแนวหน้าการป้องกันภัย เพราะพวกเขาอยู่ที่นั่น.. แต่เราก็จะช่วยเช่นกันเราต้องเกี่ยวข้องแน่นอน”ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้อธิบายว่าอเมริกาจะช่วยทางไหนอย่างไร แต่เน้นโยนภาระรับประกันความปลอดภัยไปให้ยุโรปและนาโต

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการพบปะพหุภาคียุโรป ยูเครนอเมริกาในวันเดียวกันมีการพูดถึง “รับประกันความปลอดภัย”20 ครั้งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของทุกฝ่ายในประเด็นนี้ และรายงานคำพูดของเซเลนสกีว่า ทุกฝ่ายพูดเรื่องรับประกันความปลอดภัยและเน้นว่าสำคัญมากที่ “สหรัฐต้องให้สัญญาณหนักแน่นและพร้อมรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน”

ผู้นำยุโรปหลายคนยกมาตรา 5 ของหลักการร่วมกันป้องกันในหมู่ชาติสมาชิกนาโต พวกเขากล่าวว่า ควรนำมาเป็นโมเดลมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ยูเครน

หลังจากประชุมในทำเนียบขาว ปธน.ทรัมป์ โพสต์บน Truth Social ว่า เขาได้ “หารือที่ดีเยี่ยม” กับผู้นำยูเครนและยุโรป “ระหว่างหารือกันเราได้พูดประเด็นรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนซึ่งรับประกันจัดให้โดยหลายประเทศยุโรปโดยการประสานงานกับสหรัฐอเมริกา” เขากล่าว

เซเลนสกี บอกผู้สื่อข่าวหลังจากประชุมว่า รายละเอียดเรื่องรับประกันความปลอดภัยได้ข้อสรุปใน 10 วัน และเสริมว่า“คุณควรรู้ด้วยว่ายูเครนได้เสนอซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกามูลค่า เก้าหมื่นล้านดอลลาร์” ซินหัวรายงาน ด้าน เดอะไฟแนนเชี่ยลไทม์ รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า “ยูเครนเสนอซื้ออาวุธจากอเมริกามูลค่าแสนล้านดอลลาร์”

วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยผ่าน Truth Social ว่า “ผมได้มีการพบปะที่ดีมากๆ กับแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ แห่งฟินแลนด์, นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี แห่งอิตาลี, นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร, นายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซ์ แห่งเยอรมนี, ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน และเลขาธิการใหญ่นาโต มาร์ก รุทเทอ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งจบลงด้วยการประชุมเพิ่มเติมที่ห้องทำงานรูปไข่..

..“ระหว่างการประชุมเราได้หารือกันเรื่องการรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน ซึ่งการรับประกัน จะจัดหาให้โดยหลากหลายประเทศยุโรป โดยมีสหรัฐอเมริกาให้ความร่วมมือทุกคนยินดีมากเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีสันติภาพระหว่าง รัสเซียและยูเครน” ในตอนท้ายของการประชุม ผมได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีปูติน และเริ่มเตรียมการเพื่อการประชุมครั้งใหม่ ณสถานที่ อยู่ระหว่างการตัดสินใจ

กล่าวโดยสรุปการประชุมเพื่อสันติภาพยูเครน สหรัฐอเมริกาซึ่งทำตัวเป็นท้าวมาลีวราช สร้างเงื่อนให้ตัวเอง มีแต่ได้กับได้ สิ่งแรกที่ได้ คือ วอชิงตันกดดันให้เคียฟ ยอมคืนพื้นที่รัสเซียยึดได้ ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมไปด้วยสินแร่โดยเฉพาะแร่หายากที่สหรัฐ อาจได้สัมปทานในพื้นเหล่านั้น ได้สิ่งที่สองคือ สหรัฐขายอาวุธเพิ่มอีกหนึ่งแสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ยุโรปนำอาวุธไปใช้รับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน..

.. ได้ที่สามคือสหรัฐถอยห่างออกจากสงครามรัสเซีย ยูเครน โดยมอบหมายให้ชาติยุโรปและนาโตปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยให้ยูเครนในแนวหน้า ส่วนสหรัฐอเมริกามีหน้าที่ประสานงานให้เท่านั้น

ทรัมป์ เป็นนักต่อรอง ก้าวข้ามการเจรจาหยุดยิง ไปพูดเรื่องสันติภาพถาวร โดยรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน และเมื่อผลักดันให้ยูเครนติดกับ “รับประกันความปลอดภัย” ทรัมป์ ก็ขายอาวุธให้สหรัฐฯมูลค่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์

คอยดูการประชุมสามฝ่ายระหว่าง ยูเครน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แน่นอน ทรัมป์กับปูตินต้องมีลูกเล่นใหม่ออกมา ที่ทำให้อดีตดาวตลกซีรี่ส์ทีวีไปไม่เป็น เช่นเดียวกับที่อดีตทหารป่าถูกต้อนในการลงนามหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขในประเทศมาเลเซีย

สุทิน วรรณบวร