สถานการณ์การเมืองในสภาฯ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาและผู้นำมีปัญหาทางกฎหมายบ่งชี้ว่า ประเทศไทยจะมีรัฐบาลใหม่ก่อนตุลาคม หรือเร็วกว่านั้น
พิเคราะห์จากการประชุมสภาที่ล่มแล้วล่มเล่าผู้เป็นประธานฯต้องเลิกการประชุมบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุอันควร และความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทำให้ความนิยมในกองทัพและทหารสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับความนิยมรัฐบาลที่ดิ่งเหวลงนรก
คลุกคลีข่าวการเมืองไทยมา 50 ปี พบว่า เมื่อไรก็ตามที่รัฐบาลอ่อนแอ นักการเมืองสร้างปัญหาให้ประเทศชาติคนไทยหันไปสนับสนุนทหาร ให้กอบกู้ชาติบ้านเมือง
การยึดอำนาจ ปี 2549 และ ปี 2557 ล้วนมีมูลเหตุมาจากรัฐอ่อนแอ คอร์รัปชั่นในรัฐบาลนั้นๆ ประชาชนนับล้านเดินขบวนประท้วงขับไล่ รัฐบาลคอร์รัปชั่น ก็ใช้เผด็จการสภา ดื้อด้านอยู่ในอำนาจนานเท่าที่ทำได้ และมีกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายสังหารประชาชน ประเทศชาติวุ่นวายเกือบกลายเป็นรัฐล้มเหลว
ถึงจุดหนึ่งทหารจำเป็นต้องกอบกู้ชาติด้วยการยึดอำนาจ ประชาชนก็นำดอกไม้ น้ำดื่มไปให้ทหาร ที่แล้วมาประชาชนได้แต่แสดงความดีใจมอบดอกไม้ให้เป็นกำลังใจทหาร
แต่การสนับสนุน ยกย่องทหารในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะคนไทยรัก ศรัทธา ทหารที่กล้าสวนทางรัฐบาล ปกป้องอธิปไตยแบบถวายชีวิตในขณะที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่เต็มใจให้ทหารทำ และคนไทยสนับสนุนทหาร เพราะสงสัยว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา มีคนในรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจกับศัตรูหรือไม่?
คนไทยหลายล้านคนเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เกิดจากครอบครัวของผู้นำรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ที่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ
นี่คือมูลเหตุสำคัญที่คนไทยสนับสนุนทางทหารทุ่มเทกำลังใจ และปัจจัยที่จำเป็นเร่งด่วนให้ทหาร จัดหายุทธปัจจัย และสิ่งของที่จำเป็นให้ทหาร เพราะรัก ชื่นชม และศรัทธา ที่รู้ว่าระเบียบราชการเป็นอุปสรรคเบิกงบประมาณมาใช้ในภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
เช่น กองทัพภาคที่ 2 ขอรับบริจาค ลวดหนามหีบเพลงหลายร้อยม้วน เพื่อไปวางตามชายแดนป้องกันเขมรรุกล้ำอธิปไตย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯแทนที่จะภูมิใจ ที่คนไทยมีส่วนร่วมในการปกป้องอธิปไตย กลับแสดงอาการฉุนเฉียวใส่ทหารว่า ทำไมต้องรับบริจาค “ต้องการอะไรก็บอกมาจะจัดให้”นายภูมิธรรมฉุนเฉียวเพราะขายหน้า หรือ ขัดขวางยุทธวิธีทหารอย่างมีเลศนัย ที่ปรามไม่ให้รับบริจาคในกรณีจำเป็นเร่งด่วน
รักษาการนายกฯขัดขวางยุทธวิธีทหารเหมือนกับที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขัดขวางทหารเข้มงวดด่านชายแดน โดยทำเสียงเขียวใส่ผู้ว่าฯสุรินทร์ ในที่ประชุมความมั่นคงว่า “เปิดด่านพร้อมกันได้ไหมเพื่ออำนวยความสะดวกการค้า” เป็นการพูดสวนทางกับมาตรการทหารกดดันเขมร และห้ามไม่ให้คนไทยข้ามชายแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา
น่าสนใจที่รัฐบาลขัดขวางสิ่งใด คนไทยสนับสนุนให้ทหารทำสิ่งนั้น เมื่อคนไทยต้องการให้ทหารปิดด่านถาวร 6 แห่งในพื้นกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ลงมาถึงด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กองทัพภาคที่ 2 ก็จัดให้
การปิดด่านถาวร 6 แห่ง ทำให้สมเด็จฮุนเซนเดือดพล่าน เป็นเหตุให้น.ส.แพทองธาร โทรศัพท์ไปเคลียร์ กับ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา และเมื่อเห็นว่านายกฯไทยอ่อนข้อให้ ฮุน มาเนตก็นำคำพูดกับนายกฯไทยไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก
น.ส.แพทองธาร คงขายหน้าเลยโพสต์ข้อความสวนไปว่า “ฮุน มาเนต ไม่เป็นมืออาชีพที่นำการสนทนาส่วนตัวไปเผยแพร่ในที่สาธารณะ” ข้อความของแพทองธาร ทำให้ฮุนเซนพ่อนายกฯเขมรด่าว่า นายทักษิณไม่สอนลูกสาว ที่เหิมเกริมดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
สงครามน้ำลายระหว่างตระกูลฮุน กับ ตระกูลชิน เปิดฉากตั้งแต่นั้นมา โดยที่นายกฯไทยไม่สำเหนียกว่า การอ่อนข้อต่อเพื่อนพ่อ จะนำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ เธอยังโทรศัพท์ไปหาตระกูล ฮุน ตลอดเวลาโดยที่กองทัพไทยและคนไทยไม่รู้ว่าตระกูลฮุน กับ ตระกูลชินสมคบกันทำอะไร
กระทั่งวัน 18 มิถุนายน ฮุนเซน ปล่อยคลิปเสียงอัปยศออกมา สร้างความตะลึงงันให้กองทัพไทยและคนไทยทั่วประเทศ ประชาชนผู้รักชาติและอธิปไตยพากันประณามนายกฯว่า เป็นผู้นำชาติสู่หายนะ คณะ สว.ก็นำคลิปเสียงอัปยศขึ้นร้องศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกฯในความผิดฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง
ขณะที่นายกฯถูกศาลฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ฮุนเซน เมื่อเห็นว่าสหายในประเทศไทย ไม่สามารถทำตามที่ตกลงกันไว้ ก็ระดมทหารกัมพูชาประชิดชายแดน เปิดฉากสงครามกับกองทัพไทย
ในสงคราม 5 วัน ที่ทหารป่าเขมรปะทะกับกองทัพไทยผู้อัจฉริยะใช้อาวุธล้ำสมัย ทำลายกองทัพกัมพูชาย่อยยับจวนล่มสลาย ทหารเขมรหลายพันนายกลายเป็นศพเกลื่อนป่า ฝ่ายกัมพูชาเมื่อพบว่าเพลี่ยงพล้ำก็สมคบกับไส้ศึกในไทยขอให้สหรัฐอเมริกากับมาเลเซียเป็นคนกลางเจรจาหยุดยิง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯบินไปตกลงหยุดยิงกับพลเอก เตีย เซยอา รมต.กลาโหมกัมพูชาในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ท่ามกลางความคลางแคลงใจของคนไทยที่ไปตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ 24.00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม
คนไทยสงสัยว่า ไปตกลงหยุดยิงในขณะที่ สหรัฐ กัมพูชา กับมาเลเซียได้กำหนดล่วงหน้าว่าต้องหยุดยิงเวลา 24.00 น.หรือไม่? ทำให้กัมพูชารู้เวลาหยุดยิงล่วงหน้า ฉวยโอกาสเสริมทหารเข้าพื้นที่ปะทะนับหมื่นนายไม่นานก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง
ที่เลวร้ายกว่านั้น ขณะที่ทหารไทยกำลังยึดยุทธภูมิสำคัญปราสาทตาควายได้ มีไอ้โม่งสั่งการให้ทหารไทยหยุดยิง ทำให้ทหารเขมร มุดเข้าไปใช้ปราสาทตาควายเป็นป้อมปราการอย่างไรก็ตาม ทหารไทยยังตั้งมั่นอยู่ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 30 เมตร
ปราสาทตาควายเป็นยุทธภูมิสำคัญ เพราะฝ่ายกัมพูชาตั้งเป้าหมายใช้เป็นเส้นเขตแดนลากตรงลงไปในทะเลอ่าวไทย ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน พื้นที่ตรงนั้นมีแหล่งแก๊สธรรมชาติและน้ำมันมูลค่ามากมายมหาศาล
มีรายงานตลอดมาว่า ฮุนเซน ตกลงกับสหายคนไทย แบ่งผลประโยชน์จากแก๊สธรรมชาติและน้ำมันกัน 50-50
เรื่องพื้นที่ทับซ้อนคนไทยสงสัย ตั้งแต่ทหารไทยขับไล่ทหารเขมรที่ขุดคูเลต ล้ำเข้ามาที่ช่องบกกว่า 200 เมตร ซึ่งทหารไทยยืนยันว่าเป็นดินแดนของประเทศไทยไม่ยอมให้เขมรรุกล้ำได้
ตอนนั้นทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯผู้มีอิทธิพลบารมีเหนือรัฐบาลเพื่อไทย พูดสวนทางกับทหารไทยว่า “พื้นที่ตรงนั้นเป็น No Man’s Land หยวนๆกันได้ก็คุยกัน หรือไม่ก็ใช้พื้นที่ตรงนั้นเป็นสนามเล่นตะกร้อร่วมกัน”
คำนั้นมันบาดใจทหารและคนไทย นี่คงเป็นเหตุสำคัญทำให้คนไทยรักและศรัทธาทหาร ในเวลาเดียวกันคนไทยรังเกียจ ชิงชังรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
เรื่องเขตแดนที่เป็นของไทย ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนนั้น น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีเคยพูดเหมือนบิดาว่า “ส่วนพื้นทับซ้อนนั้นก็เจรจาแบ่งผลประโยชน์กัน 50-50”
จึงพูดได้ว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่ระเบิดเป็นสงคราม 5 วัน เริ่มต้นจากความขัดแย้งครอบครัวสหายไทย-กัมพูชา ที่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ เนื่องจากสหายฝ่ายไทยไม่สามารถควบคุมทหารไม่ให้ขัดขวางแผนการแย่งดินแดนไทยของฝ่ายกัมพูชาได้
พฤติกรรมและการกระทำของรัฐบาลเพื่อไทย ที่สมคบกับรัฐบาลพรรคประชาชนกัมพูชา สร้างสถานการณ์เลวร้ายทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ซึ่งรัฐบาลเพื่อไทยไม่สามารถทำให้คนไทยหายคลางแคลงใจได้ ถึงแม้นายกฯพยายามแก้ตัวฟอกขาวในศาลฯว่า ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ
วันที่ 29 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่ รัฐบาลนี้ก็ไปต่อไม่ได้อยู่แล้ว การบริหารล้มเหลวทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ ความมั่นคง การเมืองและสังคม ตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลนำพาประเทศล่มจมเกินกว่าคนไทยจะรับได้
ความพยายามขัดขวางทหารของพระราชาผู้สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตย เป็นปัจจัยเสริมสำคัญทำให้รัฐบาลล่มสลาย นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนวันที่ 29 สิงหาคมหรือไม่ รัฐบาลชุดนี้ก็ต้องไปอยู่แล้ว
วันที่ 9 กันยายน หากมีอภินิหารกฎหมาย นายทักษิณรอดคุกได้ ก็ไม่สามารถกอบกู้ความนิยมจมดิ่งลงเหวของรัฐบาล และหากปะเหมาะเคราะห์ร้าย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองมีคำสั่งให้เทวดาชั้น 14 รับโทษตามคำสั่งศาล ถึงตอนนั้นเจ้าของคอกหมาก็หายไปจากเมืองไทย
ถึงเวลาแล้ว ที่นักการเมืองในสภาต้องหารือกันว่าจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่รูปแบบใด เป็นรัฐบาลร่วมกันผลาญชาติต่อไป หรือ คิดใหม่ทำใหม่ล้างบาปที่ทำกับประเทศไทย ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อกอบกู้ประเทศไทยไปสักสองปี โดยไม่ต้องรอ 29 สิงหาคม และไม่ต้องรอ 9 กันยายน เนื่องจากว่าพระสยามเทวาธิราชไม่ทนกับรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป
หากนักการเมืองในสภายังไม่สามารถร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ภายในเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาอาถรรพณ์ เวลานั้นจะไม่มีที่พล่ามในสภา จะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี