วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
บรรดาพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง กลุ่มภาคประชาชนผู้สนใจการเมือง กลุ่มวิชาการปัญญาชน ไปจนถึงกลุ่มสื่อ และปัจเจกบุคคลทั่วไป ต่างออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย หรือยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเลยก็ไม่ว่ากัน ซึ่งจัดได้ว่าต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นั้น ไม่ทำให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตย ด้วยขาดความถูกต้องชอบธรรม เพราะขีดเขียนกันขึ้นมาเพื่อเปิดทางให้ฝ่ายกองทัพมีบทบาททางการเมืองต่อไปเรื่อยๆ แม้หลังจากที่ได้ยึดอำนาจเป็นเวลาร่วม 5 ปี หรือนัยหนึ่งเนื้อหากฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้นเอื้อให้มีการสืบทอดอำนาจของบุคลากรของกองทัพ และของตัวกองทัพเอง
และตราบใดที่เป็นเช่นนี้ หรือตราบที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ยังมีชีวิตอยู่ ความเห็นต่างและความขัดแย้งก็ยังจะต้องมีต่อไป เพราะธงของประเทศไทยตั้งแต่มิถุนายน 2475 คือ ธงประชาธิปไตย มิใช่ธงอื่นใด
แต่ความเห็นพ้องดังกล่าวของฝ่ายเรียกร้องกฎหมายรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย กลับมีจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ เพราะมีแค่ความเห็นตรงกันว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น จนแล้วจนรอด กลับยังไม่มีพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง หรือกลุ่มภาคประชาชนใดออกมาแถลงให้แน่ชัดว่า จะให้เป้าหมายและสาระเนื้อหาของกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นเป็นอย่างไร
อย่างเก่งก็แค่บอกกล่าวกันว่า มาตราใดของกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 สมควรต้องถูกยกเลิก เช่นที่ว่าด้วยวุฒิสภา หรือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เป็นต้น หรือให้มีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น เช่น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดโดยตรง เป็นต้น
ฉะนั้น ในการจะแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แบบยกเครื่อง หรือยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมู่เหล่าก็สมควรต้องมานั่งคุยกันก่อนว่า หลักการสำคัญของกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ควรจะมีประเด็นอะไรบ้าง เมื่อเห็นพ้องกันในเรื่องหลักการแล้ว การขีดเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญก็จะตามมา และจะเป็นไปโดยง่าย และมีความรวดเร็วขึ้น
แต่จะมีประเด็นอะไรบ้างที่เป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ควรเห็นพ้องร่วมกันก่อน ผมก็อยากนำเสนอนำร่องดังต่อไปนี้
1. ความเป็นราชอาณาจักรของไทย และบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในฐานะองค์ประมุขที่ดูแลปกป้องทุกข์สุขของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นพุทธมามกะ และเป็นผู้สนับสนุนค้ำจุนศาสนาต่างๆ ที่ปวงชนชาวไทยต่างนับถือ
2. ความเป็นรัฐเดียวของไทยที่แบ่งแยกไม่ได้ แต่มีโครงสร้างการเมืองการปกครองที่กระจายอำนาจเพื่อขยายการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากที่สุดอย่างกว้างขวาง
3. การเป็นสังคมที่ประชาชนพลเมืองเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และถวายอำนาจแด่องค์พระมหากษัตริย์เพื่อทรงดูแล และให้คำปรึกษาหารือ ตัดสินใจแก้ปัญหาในยามวิกฤติ และคานอำนาจองค์กรรัฐอื่นๆ ให้อยู่ภายใต้กฎหมายและกรอบจริยธรรมและศีลธรรม
4. สิทธิเสรีภาพของประชาชนพลเมืองเป็นความศักดิ์สิทธิ์ จะมีข้อจำกัดคือ ไม่ละเมิดผู้อื่น ไม่เอาเปรียบสังคม และไม่ทำลาย บ่อนทำลาย ความเป็นอธิปไตย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศชาติ
5. สิทธิพลเมือง คือการได้รับการบริการทางด้านการศึกษา การสาธารณสุข ที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยประจำวัน เพื่อมิให้มีผู้ใดตกหล่น ถูกทอดทิ้ง และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว และการถูกขู่บังคับใดๆ
6. พลเมืองทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการเสียภาษี และการร่วมรักษาสิ่งที่เป็นของส่วนรวม เป็นสาธารณประโยชน์ และทุกคนต้องเคารพกฎหมายภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่เป็นอิสระ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และทุกคนเข้าถึงซึ่งความยุติธรรมได้ โดยการบริการของรัฐ
7. การให้มีการดำเนินการเสริมสร้างวัฒนธรรมการเมือง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย ไปจนถึงการเข้าถึงซึ่งข้อมูลข่าวสาร กฎเกณฑ์และการบริการของภาครัฐ และสิทธิหน้าที่ที่พึงมีอย่างโปร่งใส สะดวกรวดเร็ว
8. ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกและยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ มุ่งใฝ่หาสันติภาพและความเจริญก้าวหน้าร่วมกัน
9. การแยกแยะและเสริมสร้างความเข้าอกเข้าใจว่าด้วยความมั่นคงของชาติบ้านเมือง ออกจากความมั่นคงและเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น เพื่อป้องกันมิให้ฝ่ายรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือเพื่อตนเอง
ก็ขอเสนอเป็นประเด็นให้ทุกฝ่ายได้นำไปพินิจพิจารณาหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปออกมาร่วมกันก่อนที่จะดำเนินการขีดเขียนยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญกันใหม่
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

'บก.ลายจุด'ปูดพรรคการเมืองดังแจกข้าว ลักไก่นำสำเนาบัตรปชช.ชาวเขา สมัครสมาชิกพรรค
'เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม'เข้ารับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินอย่างเป็นทางการ
'วัน อยู่บำรุง' ขยี้ 'ไอซ์' โชว์หลักฐาน ของบสร้างสะพาน
รวบขณะกำลังให้บริการ! สาวอังกฤษเปิดสอนโยคะเซ็กซ์ บนเกาะพะงัน
ศาลจีนสั่งประหารชีวิต5มาเฟียตระกูล'ไป๋' แก๊งอาชญากรรมที่มีอิทธิพลที่สุดในโกก้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี