ไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ไม่ใช่ไวรัสไข้หวัดซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน แต่เป็นไวรัสตัวใหม่ที่เป็นส่วนผสมของพันธุกรรมของไวรัสไข้หวัดซาร์สและไวรัส HIV หรือโรคเอดส์ ที่มีจุดแข็งคือติดง่าย ระบาดไว แต่มีจุดอ่อนคือมีระยะฟักตัว 14-21 วัน และเชื้ออ่อนแอลงเหลือไม่ถึง 1 ใน 3 ของเชื้อเดิม
ดังนั้นจีนจึงคิดค้นสูตรยาเพื่อรักษาไวรัสนี้ได้สำเร็จ โดยมุ่งทำลายพันธุกรรม HIV เป็นหลัก และกำจัดไวรัสไข้หวัด จึงทำให้นวัตกรรมยาจีนดังกล่าวสามารถรักษาโรคนี้ได้อย่างชะงัด
นับตั้งแต่การค้นพบสูตรยาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ถึงก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2563 ประเทศจีนก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้สำเร็จ และสามารถรักษาผู้ป่วย80,000 คน ได้เกือบหมดสิ้นแล้ว และพลิกสถานการณ์กลายเป็นประเทศที่ให้การช่วยเหลือประเทศต่างๆ ทั่วโลกในการป้องกันรักษาไว้รัสโควิด-19
เพราะความอ่อนแอของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงสามารถใช้ยามากมายหลายขนานในการรักษา ไม่ว่ายาพาราเซตามอลยารักษาโรคเอดส์ ยารักษาไข้หวัดซาร์ส หรือแม้ยารักษาไวรัสอื่นๆ รวมทั้งยาสมุนไพรมากมายหลายขนาน ซึ่งวันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีการใช้ยาเหล่านี้กันอย่างกว้างขวางและได้ผลกันเป็นจำนวนมาก
แม้ในประเทศจีนก็มีการใช้ยาจีนมากมายหลายขนานในการรักษา รวมทั้งการใช้เซรุ่มจากผู้หายป่วยฉีดให้กับผู้ป่วยก็ได้ผลชะงัด แม้ในประเทศไทยของเราก็ใช้ยาหลายขนานในการรักษาตามอาการ ดังนั้นจึงทำให้เสียเวลาในการรักษาและทำให้ระยะเวลาในการรักษาผู้ป่วยมากขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยระหว่างการรักษาเพิ่มจำนวนขึ้น จนเป็นที่วิตกว่าสถานที่รักษาผู้ป่วยจะไม่เพียงพอ จนต้องหาสถานที่รักษาผู้ป่วยอาการไม่หนักเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญ จะต้องย้ำทำความเข้าใจว่ายารักษาไข้หวัดซาร์สนั้นเป็นยาที่ประเทศญี่ปุ่นได้คิดค้นขึ้นเมื่อ 17 ปีก่อนสำหรับรักษาไข้หวัดซาร์สโดยตรง ซึ่งในข้อนี้ทั่วโลกก็ยอมรับ และประเทศไทยก็ใช้ยานี้ในการรักษาไข้หวัดซาร์สมาช้านานแล้ว
แต่ต้องย้ำทำความเข้าใจว่ายาดังกล่าวไม่ใช่ยาสำหรับรักษาไวรัสโควิด-19 โดยตรง และไม่ใช่ยาตัวเดียวกันกับยารักษาไวรัสโควิด-19 ที่จีนคิดค้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และใช้ได้ผลเป็นที่ประจักษ์แล้ว ดังนั้น จึงไม่ควรแอบอ้างแต่ข้างเดียวว่าเป็นยาตัวเดียวกัน
เพราะถ้ามีความรังเกียจเดียดฉันท์ไม่อยากใช้ยารักษาไวรัสโควิดที่จีนคิดค้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก็ให้เป็นความรับผิดชอบของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งสักวันหนึ่งความจริงก็จะต้องปรากฏ และความจริงก็ปรากฏให้เห็นตำตากันอยู่แล้ว
ว่าชั่วเวลาเดือนเศษ ประเทศจีนได้ใช้ยาที่คิดค้นขึ้นนี้รักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ในเมืองจีนหายเกือบ 80,000 คนแล้วและยังใช้รักษาให้กับหลายประเทศในโลกด้วย ใครจะรังเกียจเดียดฉันท์ไม่ยอมรับหรือไม่ยอมใช้ยานี้ในการรักษาผู้ป่วยก็ต้องรับเวรรับกรรมกันไปในสักวันหนึ่ง
ไวรัสโควิด-19 ระบาดมาสามเดือนแล้ว ขณะนี้ยอดผู้ป่วยทั่วโลกทะลุ 1 ล้านคนไปแล้ว มีคนตายหลายหมื่นคน ทั้งยอดผู้ป่วยและยอดคนตายกำลังพุ่งพรวดพราด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป
ทำให้การคุยโวโอ้อวดในเรื่องมาตรฐานด้านสาธารณสุขว่าประเทศเหล่านั้นเป็นลำดับหนึ่งและเป็นลำดับต้นๆ ของโลกนั้นแท้จริงแล้วเป็นเรื่องเหลวไหลโกหกทั้งเพ กระแสลมแห่งไวรัสโควิด-19 พัดมาแต่เบาๆ ไม่ถึงสามเดือน สิ่งที่โกหกลวงโลกนั้นก็ถูกกระแสลมไวรัสโควิด-19 พัดปลิวไปจนหมดสิ้น เผยให้เห็นความจริงว่าแท้จริงแล้วเป็นประเทศที่ไม่มีความพร้อมในทุกด้านในทางสาธารณสุข ถึงขนาดต้องปล่อยให้คนตายอย่างอำมหิตโดยไม่มีหนทางแก้ไข จนประเทศจีนต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยทั่วไป
สำหรับประเทศไทย แม้ถูกจัดลำดับมาตรฐานทางสาธารณสุขเป็นลำดับ 6 ของโลก แต่ความจริงของสามเดือนแห่งการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นว่าขีดความสามารถและมาตรฐานทางสาธารณสุขของประเทศไทยนั้นแท้จริงแล้วอยู่ในลำดับ 1 ของโลก
ประเทศไทยเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สามเดือนเต็ม มีคนตายไม่ถึง 5 คน มีคนป่วยไม่ถึงพันคน แต่มาเพิ่มจำนวนขึ้นเพราะพวกขี้เรื้อนทางการเมืองที่ก่อความผิดพลาดใหญ่หลวงขึ้น และทำให้บุคลากรทางการแพทย์ของไทยต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่หนักหน่วง
ความผิดพลาดใหญ่หลวงข้อแรก คือการรับคนไทยในประเทศที่แพร่ระบาดเข้ามาโดยไม่มีการกักตรวจโรค ไม่ว่าการกักตรวจโรคในประเทศต้นทางหรือในประเทศไทย โดยให้ไปกักตรวจโรคกันเอง และในที่สุดก็ทำให้การแพร่ระบาดขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง ที่สำคัญคือการไม่ยึดถือในกฎระเบียบ ถือเอาเส้นสายเป็นใหญ่ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่หลวงเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน นั่นคือการเกิดเหตุที่สนามมวยและการเกิดเหตุที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจวาสนาทางการเมืองทั้งสิ้น
ความผิดพลาดใหญ่หลวงข้อสอง คือการทำให้เกิดความขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนยารักษาไวรัส โดยเฉพาะคืออุปกรณ์ในการป้องกันทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน นั่นคือหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ซึ่งปล่อยให้ขาดแคลนมานานนับเดือนและมีหลายการกระทำที่ตอกย้ำว่ามีความจงใจให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น
จึงเกิดสภาพน่าอเนจอนาถขึ้นในประเทศไทย คือบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลจำนวนมากต้องประกาศขอรับบริจาคจากประชาชน จนความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชทานเครื่อง
ช่วยหายใจถึง 100 เครื่อง ให้แก่หลายโรงพยาบาล นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ทั้งสองประการนั้นคือความผิดพลาดใหญ่หลวงหลักที่ทำให้การแพร่ระบาดขยายวงกว้างและยืดเยื้อ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วประเทศไทยนั้นไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่ระบาดของโรค
ข้อแรก ประเทศไทยอยู่ที่เส้นศูนย์สูตร มีภูมิอากาศร้อนที่ไวรัสไม่สามารถแพร่ระบาดในที่แจ้งได้เลย จึงมีพื้นที่แพร่ระบาดเฉพาะพื้นที่ในห้องปรับอากาศและโดยอาศัยติดผู้คนไปเท่านั้น
ข้อสอง คนไทยมีภูมิต้านทานไวรัสสูงกว่าหลายชาติเพราะคุ้นเคยกับไวรัสหวัดมาตั้งแต่เกิด เกิดมาก็รู้จักหวัดแล้วเป็นๆ หายๆ หลากหลายประเภทของหวัด ภูมิต้านทานนี้จึงสามารถต้านยันและเป็นมิตรกับไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีดังที่ยอมรับกันแล้วว่าผู้รับเชื้อ 80% ไม่แสดงอาการ ในที่นี้หมายถึงอาการของโรคไม่สามารถแสดงได้และไม่สามารถแพร่เชื้อได้ มีเพียง 20% เท่านั้นที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
ข้อสาม คนไทยกินสมุนไพรสารพัดชนิด ทั้งกินโดยตรงและกินโดยอ้อมในรูปแบบของเครื่องปรุงอาหารประจำวัน สมุนไพรเหล่านี้หลายประเภทมีฐานะเป็นยา ทั้งในเชิงป้องกันและเชิงรักษา จึงเป็นกองทหารในการป้องกันรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับคนไทยเป็นอย่างดี
ข้อสี่ แผ่นดินประเทศไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง อานุภาพแห่งพระรัตนตรัยมีจริง ดังที่สมเด็จพระสังฆราชทรงเตือนว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นอย่าคิดว่าไม่มี ซึ่งผู้มีสติย่อมไตร่ตรองเห็นความจริงว่าไวรัสโควิด-19 นั้นก็มองไม่เห็นแต่มีอยู่ อานุภาพแห่งพระรัตนตรัยและอธิษฐานฤทธิ์ทั้งหลายแม้มองไม่เห็นก็ย่อมมีอยู่ ดังหลักฐานมากหลายในพระไตรปิฎกและประวัติศาสตร์ของชาติไทย จึงคุ้มครองป้องกันอาณาประชาราษฎรได้
ดังนั้นสามเดือนผ่านไปแล้ว การติดเชื้อและการตายน้อยกว่าน้อยนัก การข่มขู่ข่มขวัญของผู้อวดอ้างความรู้ตามความรู้แบบทาสฝรั่งที่มุ่งสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับคนไทยก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องเหลวไหลโกหกทั้งสิ้น
มาถึงวันนี้ความเสียหายและอันตรายจากไวรัสโควิด-19ในประเทศไทยน้อยกว่าที่ถูกข่มขู่และตามที่เป็นข่าวมากนัก แต่ที่เป็นอันตรายร้ายแรงที่แท้จริงคือเศรษฐกิจที่ประชาชนจนยากทั้งแผ่นดิน เศรษฐกิจของประเทศชาติกำลังล่มสลาย
และคนร้ายกำลังขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าไปสู่อุ้งตีนของ IMF ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยและคนไทยตกเป็นเมืองขึ้นและกลายเป็นทาสเหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้ว!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี