คำกล่าวที่ว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเอ่ยทุกครั้งเวลาที่เกิดสถานการณ์คับขัน หรือสังคมกำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะถือเป็นบททดสอบที่ดีกว่า “ผู้นำ” หรือ “วีรบุรุษ” เหล่านี้ รับมือกับสถานการณ์และความกดดันจากความหวังและพลังศรัทธาของผู้คนได้มากแค่ไหน แต่กระนั้น สถานการณ์หรือวิกฤติก็ทำลายวีรบุรุษได้เช่นกัน หากพวกเขาไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นให้คลี่คลายลงได้ด้วยดี หรือไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในกับสังคมได้
เช่นเดียวกับวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ที่กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเป็นทบวงการชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ ทำหน้าที่
รับผิดชอบประสานงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ตอนนี้ WHO กำลังถูกตั้งคำถามจากคนส่วนใหญ่ถึงความไม่พร้อมในการรับมือกับการระบาดโควิด-19 ทั้งเรื่องความล่าช้าในการประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลก และการออกคำแนะนำให้คนทั่วไปที่มีสุขภาพดีไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก ยกเว้นคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ดูแลคนอื่นที่มีอาการ
จนเป็นเหตุให้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศระงับเงินสนับสนุนปีละ 400-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เคยให้กับองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยให้เหตุผลว่า WHO บริหารจัดการผิดพลาดอย่างร้ายแรง ไม่ทันต่อเหตุการณ์ และปกปิดการระบาดของโควิด-19 จนทำให้สถานการณ์ทั่วโลกเลวร้ายลง
แน่นอนว่าการที่สหรัฐฯ ออกมาประกาศตัดงบสนับสนุน WHO ในเวลานี้ย่อมก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก เพราะอาจส่งผลต่อการขาดแคลน
งบประมาณจำนวนมากในการดำเนินการและการต่อสู้กับวิกฤติสุขภาพโลกในขณะนี้และในอนาคต และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ WHO ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและสุขภาพอนามัย
WHO ถือเป็นองค์กรด้านสุขภาพที่ได้รับความเชื่อถือในประเทศไทย เพราะหน่วยราชการ และภาคีเครือข่ายองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ทำงานรณรงค์ด้านสาธารณสุขในประเทศไทยมักจะยึดเอาแนวทางวิธีปฏิบัติ และคำแนะนำของ WHO มาปรับใช้มาโดยตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรณรงค์ควบคุมบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษครั้งนี้จึงถือเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของ WHO ว่าจะแก้ไขวิกฤติสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่นี้ของประชาชนได้อย่างสง่างามเพียงใด รวมทั้งยังมีภารกิจระดับโลกด้านสุขภาพอีกมากมายนอกเหนือจากโควิด-19 ที่ WHO ต้องจัดการในอนาคต และเชื่อว่าสิ่งที่สังคมโลกอยากเห็นจาก WHO คือภารกิจเชิงรุก มุมมองที่ทันสมัย เช่น การพัฒนาวิธีการรักษา การผลิตวัคซีน การแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างรัฐ เอกชน องค์กรภาคประชาชนทั่วโลก ตลอดจนการเปิดกว้างรับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนต่อไปในอนาคต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี