วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันพุธ ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
การต่อสู้กับขบวนการวัคซีนโลก

ดูทั้งหมด

  •  

ปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่ลุกลามระบาดไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนป่วยไปแล้วเกือบ 3 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้ว 2.8 แสนคน ในขณะที่ความพินาศย่อยยับทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นมากมายสุดคณานับ อาจจะเสียหายมากกว่าความเสียหายในสงครามโลกทั้งสองครั้งรวมกันก็ได้

ปรากฏการณ์ภายนอกดูประหนึ่งว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างบุคลากรทางสาธารณสุขกับไวรัสโควิด แต่ดูกันให้ดีเถิด มันมีอะไรมากมายกว้างใหญ่ไพศาลและหลากหลายมิติกว่าที่จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างบุคลากรทางสาธารณสุขกับโรคระบาดชนิดหนึ่งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมานับพันปีแล้ว


ที่สำคัญ ชาวโลกควรจะได้รู้ว่าในห้วงเวลาตั้งแต่วันตรุษจีนปีนี้มาจนถึงบัดนี้หวุดหวิดจะเกิดสงครามใหญ่มาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือช่วงที่มีการลอบสังหารท่านชาฮีด นายพลกอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพกุดส์แห่งอิหร่าน และครั้งที่สองในช่วงหลังตรุษจีนต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ประธานาธิบดีคิม จอง อึน หายตัวไป 21 วัน

ครั้งแรกนั้นหวุดหวิดจะเกิดเป็นสงครามใหญ่ แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายได้เตรียมที่จะเปิดศึกชนิดล้างผลาญกันให้สิ้นซาก ลบบางประเทศออกจากแผนที่โลกกันเลย สงคราม ณ พื้นที่นั้นจึงชะลอลงเป็นการชั่วคราว

ครั้งที่สองก็หวุดหวิดจะเกิดเป็นสงครามใหญ่ แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ผิดคาด แทนที่จะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นในจีนจากการแพร่ระบาด กลับกลายเป็นว่าจีนได้ใช้โอกาสนั้นเป็นการทดสอบการทำสงครามชีวภาพครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์ชนชาติจีน กองบัญชาการทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมรบเต็มอัตราศึก และยังหนุนเนื่องด้วยแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ของรัสเซียและเกาหลีเหนือ

โดยเฉพาะคือการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในห้วงอวกาศที่กองบัญชาการอวกาศของจีนและอิหร่านได้เคลื่อนไหวผิดปกติ จนสามารถทำลายสัญญาณนำทางในภาคพื้นเบื้องล่างอวกาศนั้นจนเปลี่ยนแปลงไปสิ้น จึงทำให้สงครามใหญ่ต้องชะลอตัวไปอีก

โลกได้ผ่านพ้นความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่สองครั้งในสองพื้นที่ก็ด้วยดุลแห่งแสนยานุภาพที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันการขยายผลของสงครามชีวภาพก็ยังขับเคลื่อนไปอย่างกว้างขวาง

จำเป็นที่จะต้องเรียงลำดับเหตุการณ์เพื่อจะได้ทราบและเข้าใจโดยถ่องแท้ว่าการระบาดของโควิดนี้ไม่ใช่การระบาดของโรคระบาดธรรมดาเหมือนที่เคยเกิดมานับพันปีแล้ว

ประการแรก ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ผลสุดท้ายว่าใครเป็นผู้สร้างโควิดขึ้น แต่ที่แน่ชัดและมีหลักฐานชัดเจนแล้วก็คือมีการระบาดเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาก่อนเกิดเหตุระบาดในเมืองจีนถึง 4 เดือน โดยที่ไม่มีประเทศใดในโลกทราบและระแคะระคายมาก่อน

ประการที่สอง มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิบัตรไวรัสโควิดเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไวรัสโควิดจึงไม่ใช่ไวรัสเถื่อน แต่เป็นไวรัสที่มีเจ้าของตามกฎหมายคือบริษัทยักษ์ใหญ่ดังกล่าวที่ใครจะไปแย่งชิงผลิตอีกไม่ได้

และบริษัทดังกล่าวก็ได้วางแผนผลิตวัคซีนไว้ล่วงหน้าแล้ว มุ่งหวังจะจำหน่ายวัคซีนให้แก่ชาวโลก 7,000 ล้านคน ซึ่งถ้าหากสำเร็จก็จะได้กำไรมากที่สุดในบรรดานวัตกรรมทั้งหลายที่มนุษย์เคยคิดอ่านสร้างขึ้น การผลิตวัคซีนเช่นว่านี้แน่นอนว่าต้องใช้เวลาล่วงหน้าพอสมควร ไม่ใช่เกิดปุ๊บสร้างปั๊บได้ ซึ่งประการนี้ทั่วโลกก็ทราบดีกันอยู่แล้ว

เพื่อการจำหน่ายวัคซีนลอตแรก ได้มีการเตรียมการผลิตไว้ถึง 500 ล้านโด๊ส และมีการประชุมวางแผนเพื่อจำหน่ายวัคซีนแก่ชาวโลกในห้วงเวลา 3 เดือน ก่อนวันตรุษจีน โดยมีการคาดหมายในที่ประชุมนั้นว่าในระยะเวลา 3 เดือน จากนั้นไปจะมีไวรัสใหม่ระบาด เป็นไวรัสที่ติดง่าย แพร่เชื้อเร็ว จะทำให้ชาวโลกติดเชื้อถึง 65 ล้านคน จนรักษาไม่ทัน เพราะไม่มียารักษา และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 25 ล้านคน

ประการที่สาม ในช่วงวันตรุษจีนเหตุการณ์การแพร่ระบาดก็เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น บรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ของโลกนำเสนอข่าวอย่างพร้อมเพรียงกันราวกับนัดหมายกันไว้ พร้อมได้เสนอถึงอันตรายร้ายแรงถึงขนาดซากศพเปลี่ยนสภาพ โดยระบุว่าเด็กและผู้สูงวัยมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งหมายความว่าผู้คนราว 30% ของโลกมีความเสี่ยงจะเสียชีวิต จึงเกิดความตื่นตระหนกตกใจกันทั่วโลก

และเพื่อส่งสัญญาณให้ชาวโลกรู้ว่ามีบางประเทศรู้ข้อมูลลับเรื่องการแพร่ระบาดและอันตราย จึงมีการเสนอข่าวว่าชาวจีนจะติดโรคระบาดนี้เกือบทั้งประเทศ เป็นอันตรายต่อชาวต่างประเทศดังนั้นสหรัฐ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และพันธมิตรใกล้ชิดรวมทั้งประเทศไทยจึงได้แสดงออกถึงการตื่นตระหนกตกใจกลัว รีบขนผู้คนกลับประเทศกันอย่างเอิกเกริก

โชคดีที่ประเทศไทยตั้งหลักยั้งคิดได้ทันจึงลังเลรีรออยู่และขนผู้คนกลับหลังเพื่อน จึงสามารถนำเข้าพื้นที่กักตรวจได้โดยปลอดภัย และผลที่สุดบรรดาประเทศที่ขนผู้คนกลับเหล่านั้นด้วยความเชื่อว่าเมื่อผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่ติดโรคระบาด กลับเกิดเหตุการณ์ที่คนเหล่านั้นนำเชื้อไปแพร่ระบาดในประเทศของตนจนระเบิดเถิดเทิงดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ประการที่สี่ หลังจากขนผู้คนกลับแล้วก็เกิดข้อเสนอมากมาย และออกมาตรการมากมายเพื่อล็อกดาวน์พื้นที่ปิดประเทศ ปิดกิจการค้าขายต่างๆ รวมทั้งการขนส่งและความสัมพันธ์ทั้งหลายอันเป็นปกติของมนุษย์ลงแทบจะสิ้นเชิง ทำให้กิจการครึ่งโลกต้องปิด ผู้คนตกงานหลายสิบล้านคน แต่ละวันมีการรายงานถึงการป่วยด้วยโรคระบาดและการเสียชีวิตและเพราะโรคระบาด มีการนับจำนวนผู้ป่วยและผู้ตายเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวันต่อเนื่องมา สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ชาวโลก และตั้งตารอคอยวัคซีน ซึ่งระบุว่าจะผลิตออกได้ในปลายปี 2563

ประการที่ห้า ในขณะที่มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางนั้นกลับไม่มีการพูดถึงยาที่ใช้ในการรักษา หรือวิธีการรักษาใดๆ เลย สร้างบรรยากาศให้เกิดการงอมืองอเท้ารอความตาย ในขณะที่มีความกระหายอยากได้วัคซีนกันเต็มประดา ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการจำหน่ายวัคซีนแก่คน 7,000 ล้านคน ก็คงสำเร็จดังปรารถนา

ประการที่หก ในขณะที่สถานการณ์สับสนนั้น ประเทศจีนกลับไม่จำนนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และประกาศระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน “เข้าสู่สงครามชีวภาพ” อย่างเด็ดเดี่ยวถึงที่สุด และออกมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด ในการรักษาผู้ป่วย ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งระบบเศรษฐกิจของประเทศ และการดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในห้วงเวลาเพียง 76 วัน จีนได้ประกาศใช้ยาสำหรับรักษาไวรัสโควิดเป็นประกาศถึง 7 ฉบับ ใช้ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาจีน รวมทั้งใช้พลาสมาในการรักษาด้วย สร้างความผิดหวังให้แก่ขบวนการวัคซีนอย่างยิ่ง

เพราะจีนมุ่งเน้นรักษาผู้ป่วยให้หายโดยไวเหมือนกับการรักษาไข้หวัดใหญ่ และสามารถรักษาผู้ป่วย 80,000 คนให้หายได้ในเวลาแค่ 20 กว่าวันเท่านั้น และยังนำแบบแผนวิธีการรักษาไปช่วยเหลือมิตรประเทศอย่างเอิกเกริกครึกโครมด้วย

ความสำเร็จของจีนได้ทำลายแผนการตลาดของขบวนการวัคซีนโลกอย่างยับเยิน เพราะเมื่อผลการรักษาหายในเวลาอันรวดเร็วก็สามารถปลดล็อก restart ประเทศได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นประเทศที่ช่วยเหลือประเทศอื่นไปแล้ว

ประการที่เจ็ด จีนและประเทศทั้งหลายในโลกต่างก็เห็นผลประโยชน์ก้อนใหญ่จากการผลิตวัคซีน จึงระดมการสร้างวัคซีนกันอย่างขนานใหญ่และประสบความสำเร็จขั้นใหญ่ไปแล้ว คือผ่านการทดลองในคนไปแล้ว นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น เยอรมนีและอีกหลายประเทศเพื่อเร่งผลิตวัคซีนออกจำหน่ายแข่งกับขบวนการวัคซีนโลก

ในขณะที่ขบวนการวัคซีนโลกกลับประสบความล้มเหลว เพราะปรากฏว่าสูตรวัคซีนที่เตรียมไว้นั้นไม่สามารถรักษาโควิดได้เนื่องจากกลายพันธุ์ จึงต้องปรับปรุงสูตรการผลิตใหม่เป็นครั้งที่สองและล้มเหลวอีกครั้งหนึ่ง จนทำให้ราคาหุ้นในตลาดตกลงเหวระเนระนาด จึงนำไปสู่การปรับปรุงครั้งที่สาม

และในครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศที่ออกหน้าก็คือสหรัฐ อิสราเอล และอังกฤษ ถึงขนาดนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกมากล่าวด้วยตนเองว่า แม้จะสามารถควบคุมการระบาดครั้งแรกได้ แต่จะมีการระบาดครั้งที่สองที่จะทำให้มนุษยชาติสิ้นสุดลง แต่เชื่อว่าอิสราเอลจะผลิตวัคซีนได้ทันเวลา

ก็พิจารณาดูกันเอาเองว่าการต่อสู้ครั้งนี้ใหญ่โตและแหลมคมขนาดไหน และอาจจะเกี่ยวเนื่องกับสงครามโลกครั้งที่สามด้วยก็ได้ ดังนั้นจึงอย่าได้คิดและพูดแต่เรื่องตั้งการ์ดอย่างเดียวเพราะจะทำให้ตกเป็นเหยื่อที่น่าเวทนา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:16 น. 'มิสยูนิเวิร์สกัมพูชา'ประกาศลุยชิงมงฯที่ไทย ลั่นจะนำธงชาติขึ้นเวทีให้ได้
08:58 น. ‘เสธ.นิด’แนะศึกษาการสู้รบระหว่าง‘ปากีสถาน กับ อัฟกานิสถาน’ เทียบชายแดนไทย-กัมพูชา
08:56 น. สาวใหญ่เครียดหนี้สินรุมเร้า เจอแก๊งเงินกู้รายวันตามเก็บ บ่นอยากตายผูกคอลาโลก
08:33 น. ทั้งสวยทั้งใจบุญ! 'เจนนี่'ควักเงินสด1ล้าน มอบให้'บุ๋ม ปนัดดา'กลางไลฟ์สด
08:27 น. ผิดฟอร์ม! เทียบ‘นายกฯอนุทิน’กับสมัยนั่ง‘มท.1-รมว.สาธารณสุข’
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
'สิทธิชัย สันติวิจิตร'จี้'ม.นครพนม'ทบทวนมอบปริญญากิตติมศักดิ์ 'ก้อง ห้วยไร่'
ดูทั้งหมด
รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’
บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?
กินแห้ว
ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม
บุคคลแนวหน้า : 17 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'มิสยูนิเวิร์สกัมพูชา'ประกาศลุยชิงมงฯที่ไทย ลั่นจะนำธงชาติขึ้นเวทีให้ได้

‘เสธ.นิด’แนะศึกษาการสู้รบระหว่าง‘ปากีสถาน กับ อัฟกานิสถาน’ เทียบชายแดนไทย-กัมพูชา

สาวใหญ่เครียดหนี้สินรุมเร้า เจอแก๊งเงินกู้รายวันตามเก็บ บ่นอยากตายผูกคอลาโลก

ทั้งสวยทั้งใจบุญ! 'เจนนี่'ควักเงินสด1ล้าน มอบให้'บุ๋ม ปนัดดา'กลางไลฟ์สด

แห่สแกนม่านตาแลกคริปโต! แจ้งเตือนชาวบ้านระวัง ชี้ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีผู้เสียหาย

จยย.ย้อนศร! พุ่งชนหน้ารถพ่วง22ล้อ เจ็บ2รายกลิ่นเหล้าคลุ้งทั้งคู่

  • Breaking News
  • \'มิสยูนิเวิร์สกัมพูชา\'ประกาศลุยชิงมงฯที่ไทย ลั่นจะนำธงชาติขึ้นเวทีให้ได้ 'มิสยูนิเวิร์สกัมพูชา'ประกาศลุยชิงมงฯที่ไทย ลั่นจะนำธงชาติขึ้นเวทีให้ได้
  • ‘เสธ.นิด’แนะศึกษาการสู้รบระหว่าง‘ปากีสถาน กับ อัฟกานิสถาน’ เทียบชายแดนไทย-กัมพูชา ‘เสธ.นิด’แนะศึกษาการสู้รบระหว่าง‘ปากีสถาน กับ อัฟกานิสถาน’ เทียบชายแดนไทย-กัมพูชา
  • สาวใหญ่เครียดหนี้สินรุมเร้า เจอแก๊งเงินกู้รายวันตามเก็บ บ่นอยากตายผูกคอลาโลก สาวใหญ่เครียดหนี้สินรุมเร้า เจอแก๊งเงินกู้รายวันตามเก็บ บ่นอยากตายผูกคอลาโลก
  • ทั้งสวยทั้งใจบุญ! \'เจนนี่\'ควักเงินสด1ล้าน มอบให้\'บุ๋ม ปนัดดา\'กลางไลฟ์สด ทั้งสวยทั้งใจบุญ! 'เจนนี่'ควักเงินสด1ล้าน มอบให้'บุ๋ม ปนัดดา'กลางไลฟ์สด
  • ผิดฟอร์ม! เทียบ‘นายกฯอนุทิน’กับสมัยนั่ง‘มท.1-รมว.สาธารณสุข’ ผิดฟอร์ม! เทียบ‘นายกฯอนุทิน’กับสมัยนั่ง‘มท.1-รมว.สาธารณสุข’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved