มีการวิเคราะห์กันมากว่า โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะ “ปัง” หรือ “แป้ก”?
จะคุ้มค่าที่เอาเงินของแผ่นดินเข้าไปสนับสนุนกว่า 22,400 ล้านบาท หรือไม่?
ล่าสุด เว็บไซต์ “เราเที่ยวด้วยกัน.com” สามารถเข้าได้แล้ว
พร้อมกับนำเสนอรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม พร้อมคำตอบสำหรับข้อสงสัยต่างๆ แต่ยังไม่เปิดให้ลงทะเบียน
จะเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไหร่? แล้วรายละเอียดที่น่าสนใจ เป็นอย่างไร? น่าสนใจแค่ไหน?
สรุปคร่าวๆ ดังนี้
1. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม
ระยะเวลาโครงการ 4 เดือน
ระหว่าง 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563 (สามารถไปเที่ยวพัก ไปใช้จ่ายได้ช่วงเวลานี้)
สะท้อนว่า ต้องการให้มีการเดินทางไปท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอยอย่างรวดเร็วที่สุด ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น นั่นคือก่อนเริ่มใช้งบประมาณแผ่นดินประจำปี 2564
2. ภาครัฐสนับสนุนอะไรให้คนไปเที่ยวบ้าง?
2.1 สนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน
จำกัดสิทธิ์คนละไม่เกิน 5 ห้อง หรือ 5 คืน
เมื่อจองที่พักแล้ว ไม่สามารถยกเลิกการจองหรือเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
2.2 สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว มูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน
เมื่อ check-in โรงแรมสำเร็จ จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยววันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ของวัน check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 24.00 น. ของวัน check-out
คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง
2.3 สนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน 40% ของค่าตั๋วเครื่องบิน ทั้งนี้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
ประชาชนแสดงความประสงค์ขอ redeem ค่าตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ โดยจะได้รับเงินสนับสนุนเมื่อตรวจสอบแล้วว่ามีการเดินทางจริงและเข้าพักจริง จำกัดจำนวนการ redeem ค่าตั๋วเครื่องบินได้ ห้องพักละ 2 ที่นั่ง ตามจำนวนห้องพักที่เข้าพักโรงแรมจริง ทั้งนี้รวมไม่เกิน 10 ที่นั่ง
3. ลงทะเบียนเมื่อไหร่? อย่างไร?
ประชาชนและร้านค้า สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เท่านั้น
3.1 เริ่มลงทะเบียน 15 ก.ค. 2563
เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน – มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน (ประชาชนจะได้รับสิทธิ์เมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง)
3.2 ถ้าลงทะเบียนได้แล้ว จะจองโรงแรมผ่านช่องทางใดบ้าง? Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda, Traveloka, Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี), www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม, ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line, Facebook, เบอร์โทรศัพท์
3.3 ส่วนกิจการที่สามารถร่วมโครงการ ได้แก่ โรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวตามรายชื่อจาก ททท. สามารถเข้ามาลงทะเบียนได้เช่นกัน เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนในโครงการนี้
ผู้ประกอบการโรงแรมจะเข้าร่วมทำอย่างไร? มีบัญชีธนาคารกรุงไทย สมัครใช้บริการแอพพลิเคชั่นถุงเงิน สมัครใช้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ (Payment Service Provider) หรือผู้ให้บริการ Online Travel Agency กับผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ เฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พัก เท่านั้น
3.4 คำตอบของคำถามที่หลายคนสงสัย ที่มีการตอบไว้ในเว็บไซต์ เช่น
ตรวจสอบผลการลงทะเบียนอย่างไร? สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้จาก sms ระบบจะส่ง sms แจ้งผลจากชื่อผู้ส่ง “TTogether” แจ้งไปยังเบอร์ที่รับรหัส OTP
ประชาชนมีสิทธิ์ 1 คนต่อ 5 ห้อง/คืน ซึ่งสามารถจองกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้สิทธิ์ส่วนลดห้องพักได้ไม่เกิน 5 ห้อง/คืน
จะสามารถใช้บัตรกำนัล 600 บาทต่อวันเมื่อไหร่? ต้องทำการจองโรงแรมพร้อมชำระเงินส่วน 60% สำเร็จ และเดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม เมื่อทำการเช็คอิน ที่พักเรียบร้อย ระบบจะแสดงคูปองส่วนลดอาหาร/ท่องเที่ยว บนแอพฯเป๋าตังให้ใช้งานเวลา 17.00 น. ในวันเช็คอิน
สามารถทราบได้หลังจากที่ประชาชนชำระเงินส่วน 60% ที่จองโรงแรมสำเร็จ และตรวจสอบ E-voucher บนแอพฯเป๋าตัง ที่เมนู G-wallet
บัตรกำนัลส่วนลดอาหารไม่สามารถโอนออกหรือใช้เป็นเงินสดได้ ฯลฯ
4. ประเมินจากเงื่อนไขรายละเอียดที่ปรากฏออกมาแล้ว เชื่อว่า โครงการนี้ น่าจะได้รับความสนใจล้นหลาม
ดูแค่ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา จะเห็นว่าคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จำนวนมาก แน่นขนัด รถติดยาวเหยียด ทั้งๆ ที่ ยังไม่ได้เริ่มต้นโครงการเลยด้วยซ้ำ
โครงการนี้ ยิ่งจะทำให้คนมีแรงกระตุ้นออกไปเที่ยวมากขึ้นไปอีก เป็นโอกาสที่ประชาชนจำนวนหนึ่งจะหาประสบการณ์ใหม่ในการเลือกพักโรงแรมที่พักที่มีความหรูหรามากกว่าปกติ อันจะทำให้ตนได้รับการช่วยจ่ายจากรัฐบาลเต็มเพดาน (คืนละไม่เกิน 3,000 บาท) ยกตัวอย่าง สามารถเลือกที่พักราคาคืนละประมาณ 7,500 บาท ซึ่งนับว่าหรูหรามาก โดยถ้าเลือกโรงแรมเรตนี้ ประชาชนก็จะจ่ายเอง 4,500 บาทต่อคืนรัฐช่วยจ่าย 3,000 บาทต่อคืน เป็นต้น
นอกจากนี้ เงิน 600 บาทต่อวัน ก็สามารถนำไปช่วยจ่ายค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ค่าของที่ระลึกตามร้านค้าต่างๆ ได้อีก 40% โดยประชาชนต้องจ่ายเอง 60% ก็จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอีกจำนวนมาก เพราะเงินส่วนใหญ่ที่จะจ่าย จะต้องเป็นเงินที่ประชาชนผู้ไปเที่ยวจ่ายเอง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี