วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ท่ามกลางกระแสข่าวโควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดรอบสองหรือไม่ จากกรณีชาวต่างชาติสองคนที่สร้างความกังวลใจและสร้างความไม่พอใจของประชาชนต่อรัฐบาล ประกอบกับข่าวการปรับครม. ที่มีต้นเรื่องจากพรรคหลักอย่างพลังประชารัฐ และลามมาถึงการเขย่ากันเองของพรรคร่วม จนในท้ายที่สุดมีการลาออกของรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและกระทรวงการอุดมศึกษารวม 4 ตำแหน่ง ต่อมามีการลาออกของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และการลาออกของรัฐมนตรีแรงงาน ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจถือเป็นช่วงเขย่าการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีอย่างมากในตอนนี้ทั้งเรื่องประชาชนและเรื่องการเมือง จึงไม่แปลกจากที่หลายคนคาดคิดคือการออกมาเดินเกมรุกของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
แต่จากผลงานการอภิปรายใหญ่สองครั้งหลังที่ผ่านมาพรรคหลักในฝ่ายค้านเองไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ที่จะส่งผลทางการเมือง แต่สุดท้ายก็มีปรากฏการณ์การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ซึ่งได้มีการจัดการชุมนุมที่บริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ราชดำเนิน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน และมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณหนึ่ง ในช่วงสูงสุดก็ประมาณระดับหลักพัน โดยแกนนำมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลเป็นช่วงๆ และมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นระลอกตลอดการชุมนุม และสุดท้ายก็จบโดยการประกาศสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง
การปราศรัยเน้นพูดถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา และมีการชูป้ายสนับสนุนของกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน โดยหนึ่งในนั้นที่เป็นประเด็นที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ก็คือป้ายที่มีเนื้อหาก้าวล่วงสถาบันฯ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่ตั้งประเด็นถึงสถาบันฯ อย่างเปิดเผย โดยมีผู้สังเกตว่ากลุ่มแกนนำไม่ได้มีการห้าม หรือปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าภายใต้ข้อเรียกร้องต่างๆ เหตุใดจึงกลายเป็นเรื่องสถาบันฯ? จนทำให้ผู้ติดตามสื่อการชุมนุมเริ่มไม่แน่ใจในเป้าหมายของการชุมนุม เท่าที่สื่อมีการนำเสนอ ผู้เข้าร่วมชุมนุมก็มีทั้งระดับเยาวชนตามชื่อกลุ่มเยาวชนปลดแอก
แต่ก็มีผู้สังเกตว่ามีประชาชนเข้าร่วมมากกว่ากลุ่มนักศึกษา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดที่จะเข้าร่วมหากคิดเห็นแนวทางเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่เข้าร่วมเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องทั้งหมดหรือไม่? รวมไปถึงเรื่องของสถาบันฯที่หากกลุ่มแกนนำไม่สามารถชี้แจงให้ชัดเจนได้ว่าข้อเรียกร้องจะไปจบที่ตรงไหน และเรื่องที่เป็นข้อกังวลใจของประชาชนในประเทศอย่างเรื่องสถาบันฯ เป็นหนึ่งในเป้าหมายด้วยหรือไม่ และถ้าไม่มีความชัดเจนอาจทำให้เป้าหมายของการชุมนุมถูกมองเปลี่ยนไป จนหลายฝ่ายกังวลต่อพลังบริสุทธิ์ของนักศึกษา ?
การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองใดหรือไม่?และอะไรหรือประเด็นใดคือปัจจัยโน้มน้าวเยาวชนให้ออกมาชุมนุม? ไม่มีใครตอบได้แน่ชัด แต่ตอนนี้หลายฝ่ายกำลังเป็นห่วงประชาชนต่อประเด็นที่แสดงออกตามป้ายประท้วงตามที่เป็นข่าว และอาจทำให้เป้าหมายในการชุมนุมตามที่ตั้งใจไว้คลาดเคลื่อนหรือไม่
ข้อเรียกร้องแรกๆของกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้คือ การเรียกร้องให้มีการยุบสภา โดยก่อนหน้านี้พบว่าเริ่มมีการพูดถึงเรียกร้องในการยุบสภา ในการอภิปรายสภามาก่อนเพียงไม่กี่สัปดาห์ เปิดประเด็นโดยสส.พรรคก้าวไกลในสภาเมื่อครั้งการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ว่าอาจถึงเวลาที่ควรมีการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจกลับให้ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งในตอนนั้นไม่ค่อยได้เป็นข่าวและได้รับความสนใจจากสื่อนัก
และไม่มีใครรู้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ในเวลาต่อมาไม่นานก็เริ่มมีกระแสดังกล่าวในโซเชียลไม่นานก่อนมีการนัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภาเช่นกัน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองบนท้องถนนของกลุ่มเยาวชนปลดแอก กำลังเป็นที่จับตาของหลายฝ่ายแม้กลุ่มผู้เข้าร่วมยังไม่มากนัก เหตุเพราะมีประเด็นเชื่อมโยงจากการตั้งข้อสงสัยของหลายฝ่าย โดยเฉพาะพรรคการเมืองบางพรรคและกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม โดยพบว่ามีสส.ปัจจุบันของบางพรรคเข้าไปร่วมในที่ชุมนุมและพูดคุยกับแกนนำด้วย ตลอดจนแกนนำกลุ่มการเมืองอย่างกลุ่มก้าวหน้าอย่างนายธนาธร และนางสาวพรรณิการ์ ก็ได้ออกมาพูดถึงการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย
โดยนายธนาธรมีออกมากล่าวว่า “ขอให้ไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ขอเชิญชวนไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ว่าเราไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจหรือการทำรัฐประหาร และต้องการให้ประเทศเดินกลับสู่ประชาธิปไตย” ซึ่งบางคนก็ตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งประเด็นของนายธนาธรที่พูดว่ากลับสู่ประชาธิปไตยคืออะไร? เพราะตอนนี้เราก็เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว และแม้จะมีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมก็ตาม
แกนนำส่วนใหญ่ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ถูกมองว่าคือกลุ่มเยาวชนในกลุ่มเดิมๆ ที่เคยออกมาเรียกร้องรัฐบาลในหลายเรื่องหรือไม่ บางคนปรากฏตัวเมื่อครั้งตอนการชุมนุมกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ และยังคงวนเวียนอยู่ในวงการการเมือง มีการดำเนินกิจกรรมโจมตีรัฐบาลมาตลอด ทำให้อาจเกิดข้อสงสัยจากประชาชนที่ติดตามได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือไม่
ข้อเรียกร้องอีก 2 ข้อ ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่พูดถึงการหยุดคุกคามประชาชน ด้วยเนื้อหาสาระที่แม้ไม่ลงลึกแต่เน้นการปลุกเร้าอารมณ์อย่างกรณีการอุ้มวันเฉลิมในต่างประเทศ เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล แม้เป็นกรณีนี้จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของรัฐบาลไทย และสิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่การทวงถามไปยังประเทศที่เกิดเหตุเท่านั้น แต่ถูกมองว่านำมาโยงเพื่อสร้างประเด็นเชื่อมต่อทางการเมืองหรือไม่? นอกจากนี้ยังมีการชูแกนนำผู้ถือป้ายวิจารณ์นายกฯที่จังหวัดระยอง ที่ถูกเชิญตัวในขณะนั้นออกจากพื้นที่ โดยกล่าวว่าหาว่ารัฐใช้ความรุนแรง?
แต่ประเด็นท้ายที่มีการเรียกร้องจนทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยบางอย่าง นั่นคือประเด็นเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรมนูญ
ตามจริงการขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรานั้นเป็นข้อเรียกร้องในสภาอยู่แล้ว รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเองก็เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา จนนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เมื่อเรื่องนี้ถูกนำมาหยิบยกให้เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอก จึงเป็นประเด็นตั้งคำถามต่อไปว่าเหตุใดจึงเร่งรีบให้มีการแก้ไข และจะขอแก้ไขเรื่องใดบ้าง และที่สำคัญที่สุดขอให้มีการแก้ไขนี้ก่อนหรือหลังการยุบสภา
เพราะมีกระแสข่าวว่า เนื้อหาสาระที่จะให้มีการแก้รัฐธรรมนูญที่จะถูกนำเสนอต่อไป คือการนิรโทษกรรมทางการเมืองใช่หรือไม่? หรือกรณีการแก้เพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก่อนหน้านี้ ให้กลับมาลงเลือกตั้งก่อนกำหนดได้หรือไม่ และที่สำคัญของห้วงเวลาคือการแก้รัฐธรรมนูญที่เรียกร้องคือต้องสิ้นสุดลงก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วยเพื่อให้นักการเมืองบางกลุ่มสามารถกลับมาสู่วงการการเมืองได้หรือไม่?
เหล่านี้ ทำให้เกิดคำถามถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการชุมนุมอันเป็นพลังบริสุทธิ์ของเยาวชน ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผู้ไม่หวังดีนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้ภายหลังหรือไม่
การเมืองทั้งในสภาและนอกสภาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามว่ารัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารสถานการณ์อย่างไรต่อไป และกู้ศรัทธาของประชาชนผ่านการปรับครม.ประยุทธ์ 2 นี้หรือไม่? ที่สำคัญคือต้องใช้คนให้ถูกกับงาน เลือกคนดี ที่มีความเหมาะสมเพื่อแก้วิกฤติและพัฒนาประเทศชาติต่อไป.....
“ยากจะหาคนใดรู้โชคตน แต่ข้ามีกังวลเพราะเชื่อว่า
ที่สุดวันวันหนึ่งคงจะมา ให้ข้าลานิเวกสุขเข้าคลุกงาน”
เล่าปี่ สามก๊ก ฉบับวณิพก

'กาน เวลไฟร์' นอนคุก ไร้ญาติยื่นประกัน คดียิงหนุ่มดับคาเก๋งบนทางด่วน
ปชป.ปักธงภาคตะวันออก สาธิต ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ทำ คนไทยหายจน
'อนุทิน'ขอรอฟังผลเจรจา GBC ก่อนนำเข้าที่ประชุมสมช. วันนี้ ลั่นอะไรเป็นของเราก็ต้องเป็นของเรา
ทบ. เผย คุมพื้นที่ สระแก้ว อีสานใต้ ได้แล้วหลายจุด แม้กัมพูชายังยิงต่อเนื่อง
อนุทิน ย้ำยึดโหวตเตอร์ ขออย่ากล่าวหาพรรคไหนใช้ทุนเทา ลั่นถ้ามีแก้ ม.112 ไม่มีภูมิใจไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี