วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในยุคแก๊งสี่คนครองอำนาจในประเทศจีน ทำการสิ่งใดก็จะอ้างลัทธิคอมมิวนิสต์ อ้างสังคมนิยม อ้างประธานเหมา ถึงขนาดมีคำพูดติดปากว่าพูดคำหนึ่งก็ชูสมุดปกแดง ซึ่งหมายถึงหนังสือสรรนิพนธ์ เหมา เจ๋อ ตุง ทีหนึ่ง แต่ยิ่งทำมากเท่าใดความโกรธแค้นชิงชังของประชาชนและความปั่นป่วนวุ่นวายก็ยิ่งขยายตัวไปทั่วประเทศจีน
ประธานเหมา เจ๋อ ตุง ในขณะนั้นอายุมากแล้วและป่วยมีอาการมากด้วย แม้กระนั้นเมื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารแล้วถึงกับต้องเตือนแก๊งสี่คนว่าพวกคุณอย่ามักใหญ่ใฝ่สูง ต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชน อย่าชูธงแดงแล้วล้มธงแดง
แต่ทว่ากลุ่มแก๊งสี่คนฮึกเหิมลำพองในอำนาจทั้งคิดว่าประธานเหมาชราภาพและป่วยเจ็บคงไม่สามารถหยุดยั้งการใช้อำนาจของพวกตนได้จึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ประธานเหมาต้องวางแผนลับคือแผนเดียวกันกับแผนที่ขงเบ้งวางแผนสังหารอุยเอี๋ยนหลังจากตัวเองถึงแก่อสัญกรรมแล้ว
และในที่สุดแก๊งสี่คนก็ถูกจอมพลเย่ เจี้ยน อิง และเติ้ง เสี่ยว ผิง ยึดอำนาจ ต้องล้มหายตายจากต้องติดคุกและตายในคุก ในขณะที่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ได้จัดประชุมครั้งสำคัญคืนอำนาจให้แก่ เติ้ง เสี่ยว ผิง กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งหนึ่ง
ในบ้านเมืองของเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อาณาประชาราษฎรมีความจงรักภักดีเคารพรักศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นมาแต่โบราณกาลแม้วันเวลาผ่านไปนานสักเพียงใด น้ำใจแท้ของชาวไทยก็ยังมีความยึดมั่นจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
และนี่ก็คือรากฐานอันมั่นคงของประเทศไทยที่ประชาชนชาวไทยจะสามารถสืบทอดความเป็นชาติและสายเลือดต่อไปตลอดชั่วกัลปาวสาน
สถาบันพระมหากษัตริย์มีความมั่นคงเป็นที่เคารพศรัทธา จึงเป็นธรรมดาที่กลุ่มอำนาจทั้งหลายต่างก็มุ่งหมายพึ่งพาอาศัยพระบารมี ซึ่งถ้าหากเป็นไปเพื่อสนองพระราชปณิธาน “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” แล้ว แผ่นดินก็จะศานติและมีความเจริญรุ่งเรือง
พระมหากษัตริย์ไทยทรงไว้ซึ่งความปรีชาสามารถและทรงแจ้งในหลักธรรมาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นในพระปฐมบรมราชโองการจึงย้ำเน้นถึงมหาชนชาวสยาม อันเป็นการจำเริญรอยตามพระพุทธวจนที่ประกาศพระธรรมวินัยเพื่อประโยชน์สุขของชนหมู่มากในโลก ซึ่งไม่ได้หมายถึงคนทุกคน
เพราะคนบางพวกก็เปรียบได้เหมือนบัวที่อยู่กับโคลนตม เป็นปทปรมะบุคคลที่มีแต่จะตกเป็นเหยื่อของ เต่า ปู ปลา ดังนั้น ทุกการกระทำจึงไม่อาจเป็นประโยชน์แก่ทุกคนได้ แม้สิ่งที่เรียกว่าธรรมาภิบาลก็ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน ไม่ใช่เพื่อคนชั่ว คนทุจริต คนฉ้อฉล คนบิดเบือนการใช้อำนาจ และคนที่ไม่นำพาต่อความเดือดร้อนของราษฎร
แต่มีการอ้างอิงพระบารมีเพื่อประโยชน์ทางการเมืองต่อเนื่องมาโดยลำดับ ถึงขั้นมีกลุ่มมีขบวนการที่ผลักไสไล่ส่งผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองว่าเป็นพวกล้มเจ้า ทั้งๆ ที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงเกี่ยวข้องในการกระทำใดของนักการเมือง
ถึงขนาดผลักไสไล่ส่งผู้คนที่เลือกพรรคการเมืองที่ไม่ใช่พวกตนว่าเป็นพวกล้มเจ้า ถึงขนาดขับไล่ไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีการท้วงการติงในเรื่องนี้มาโดยลำดับแต่ก็หาได้สังวรไม่
ถึงวันนี้ก็ยังมีการไล่แจกหมวกให้แก่ผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองว่าเป็นพวกล้มเจ้าในขณะเดียวกันเมื่อพวกล้มเจ้าตัวจริงปรากฏตัวเปิดเฟซบุ๊คใส่ร้ายพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างโจ่งแจ้งครึกโครมกลับไม่กล้าเอ่ยปากแตะต้องเลยแม้แต่คำเดียว ยังคงปล่อยให้กระทำการหยาบช้าย่ำยีน้ำใจคนไทยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
นี่ก็คือกระบวนการชูธงแดงล้มธงแดงนั่นเอง เพราะยิ่งผลักผู้คนในลักษณะนี้มากขึ้นเท่าใด บ่อยครั้งขึ้นเท่าใด น้ำใจคนก็จะเกิดกระแสต้านขึ้นในใจ จึงไม่ต่างอันใดกับการสร้างศัตรูให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์
ม็อบ 18 กรกฎา ที่เพิ่งสลายตัวไปในคืนวันที่18 กรกฎาคม 2563 กำลังถูกปั่นกระแสว่าเป็นม็อบล้มเจ้าอีกแล้ว
และเป็นที่แน่นอนเช่นเดียวกันว่าในม็อบดังกล่าวนั้นก็มีทั้งกลุ่มเยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่มีความคิดความเห็นต่างทางการเมืองกับผู้มีอำนาจในบ้านเมือง และข้อเรียกร้องทั้งสามข้อนั้น ก็คือข้อเรียกร้องทางการเมืองที่เรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองปฏิบัติ ซึ่งจะผิดจะถูกก็เป็นเรื่องความคิดเห็นทางการเมือง แต่ที่ชัดเจนก็คือเป็นข้อเรียกร้องทางการเมืองต่อรัฐบาล ไม่ใช่ต่อพระมหากษัตริย์
แต่กลับมีการบิดเบือนเบี่ยงเบนให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้นกลายเป็นผู้ที่มีความขัดแย้งกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งผลแท้จริงก็คือการสร้างศัตรูให้สถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาผู้จงรักภักดีทั้งปวงและผู้มีอำนาจทุกระดับชั้นที่เคยถวายสัตย์ปฏิญาณไว้ประการใดที่จะต้องปฏิบัติการตามที่ถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น
ในขณะเดียวกันในกลุ่มผู้ชุมนุมก็มีพวกล้มเจ้าแอบแฝงตัวเข้าไป หรือคนบางคนอาจจะชักนำเข้าไป โดยมุ่งหวังเพื่อจะบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของผู้ก่อการชุมนุมที่จะต้องจำแนกแยกแยะและขัดขวางไม่ให้เกิดการกระทำเช่นนั้นขึ้น มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นปรปักษ์กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
แม้ม็อบ 18 กรกฎา จะสลายตัวไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตราบใดที่ยังมีความขัดแย้งทางการเมือง ตราบนั้นการเรียกร้องทางการเมืองต่อรัฐบาลก็จะยังคงมีต่อไป ซึ่งต้องเข้าใจให้เห็นตรงกันว่านี่คือความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองฝ่ายที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ทุกฝ่ายจะต้องไม่เบี่ยงเบนบิดเบือนให้การชุมนุมทางการเมืองนี้ว่าเป็นการต่อสู้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ดังที่กำลังทำกันอยู่

ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง
แฉเหลี่ยมเขมร คนไทยเกือบหมื่นติดด่านโดนเขมรทยอยจับเข้าคุก
กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย
หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’
สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี