พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไปเยือนปักษ์ใต้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ไปกำชับชาวประมง ว่าอย่าการ์ดตกหลังคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการโครงการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตามที่กระทรวงเกษตรฯขอมา เป็นเงิน 171.60 ล้านบาท เพื่อให้กรมประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน องค์การสะพานปลา เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งมีที่มาที่ไปก็เนื่องมาจาก กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า
1.ผลการหารือทวิภาคีกับสหภาพยุโรปเมื่อเดือนธันวาคม 2562 มีข้อเสนอแนะจากสหภาพยุโรปว่า การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and UnregulatedFishin : IUU Fishing) ของประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถคงประสิทธิภาพการดำเนินการได้อย่างเข้มแข็งเหมือนช่วงก่อน การปลดใบเหลือง (ใบเหลืองคือการตักเตือนให้มีการปรับปรุงแก้ไข) และมีความเสี่ยงว่าหากประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาจจะได้รับใบเหลืองครั้งที่ 2
โดยมีสาเหตุมาจาก (1) ประสิทธิภาพของระบบการตรวจสอบ ติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังการทำการประมง(Monitoring Control and Surveillance : MCS) และศูนย์ติดตามและควบคุมเรือประมง (Fisheries MonitoringCenter : FMC) มีแนวโน้มลดต่ำลง (2) การบริหารจัดการกองเรือและทรัพยากรประมงที่ยังต้องดำเนินการเพิ่มเติมตามที่ได้หารือ (3) ระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง และ (4) การบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับมีเงื่อนไขการกีดกันทางการค้าในประเด็นเรื่องการทำลายทรัพยากรสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม โดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกกฎระเบียบในการป้องกันการทำลายสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act : MMPA) จากการทำประมง ซึ่งหากไม่มีการเตรียมการและมีแผนบริหารจัดการที่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้ในปี 2565
2.ปีงบประมาณ 2563 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กรมประมง กรมเจ้าท่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน (กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน) และองค์การสะพานปลาได้รับจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอต่อการคงประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและมีงบประมาณบางส่วนจัดสรรคืนให้กับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา/ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ภัยแล้ง อุทกภัย ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยกรมประมงโอนงบประมาณดังกล่าวตามร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563 จำนวน 113.16 ล้านบาท ทำให้กรมประมงไม่สามารถเจียดจ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้เป็นไปตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสหภาพยุโรป ทำให้อาจเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะได้รับใบเหลืองอีกเป็นครั้งที่ 2
3.คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ในการประชุม ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 โดยมี รองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย และให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป กรมประมงจึงได้จัดทำโครงการการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งมีรายละเอียดโครงการ ดังนี้
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเติมงบประมาณหนนี้
1) เพื่อให้การทำประมงของประเทศไทยทั้งในน่านน้ำไทยและนอกน่านน้ำไทย เป็นไปอย่างถูกกฎหมาย มีการรายงาน และมีการควบคุมตามมาตรฐานสากล
2) เพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย รวมถึงการควบคุมไม่ให้สินค้าประมงที่มาจากการทำประมงผิดกฎหมายเข้ามาในห่วงโซ่การผลิต
3) เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้า รายได้ คุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำในการประกอบอาชีพของประมงพื้นบ้าน
4) เพื่อการอนุรักษ์และความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ
ส่วนวิธีการทำงานนั้น คือ จะมีการปรับปรุงการเก็บข้อมูล ทั้งจากการทำประมงพาณิชย์และพื้นบ้านให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดชายทะเล และดำเนินการปรับปรุงวิธีการคำนวณค่าผลผลิตสัตว์น้ำสูงสุดที่ยั่งยืน (Maximum Sustainable Yield : MSY) ให้ถูกต้องแม่นยำและเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ทรัพยากรประมง การตรวจสอบความถูกต้องและข้อเท็จจริงของการบริหารจัดการเรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
การตรวจสอบติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมงของเรือประมงไทยที่ทำการประมงในน่านน้ำและนอกน่านน้ำไทย ทั้งก่อนออกทำการประมง ระหว่างทำการประมง และเมื่อกลับเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่ายสัตว์น้ำ
การพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ในระบบการตรวจสอบย้อนกลับ และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์ประมงจะมาจากการทำประมงแบบไม่ถูกต้อง เพื่อตรวจสอบอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะสินค้าสัตว์น้ำที่มีปริมาณและมูลค่าการนำเข้าสูง
การดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าในประเด็นเรื่องการทำลายทรัพยากรสัตว์ทะเลหายาก และสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมฯลฯ
ก็มาบอกกล่าวกัน เพื่อประมงไทยไม่ต้องถอยหลังไปรับใบเหลืองอีก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี