มีการปฏิเสธจากแกนนำทั้งสองพรรคใหญ่แล้วว่าไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ คงยากที่ พปชร. จะจับมือเพื่อไทย และแกนนำทั้งสองฝั่งก็ปฏิเสธตั้งพรรคสำรองหรือพรรคใหม่ โดยเพื่อไทยมีแต่การปรับโครงสร้างในพรรคแบบยกเครื่องเพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่วันนี้รู้ผล และอดีตนายกฯทักษิณยืนยันยังไม่กลับไทย ขณะที่นายกฯส่งสัญญาณพรรคร่วมยังอยู่ครบและเตรียมตั้ง ส.ส.ร. แล้ว ใช่หรือไม่
หากย้อนไปดูปมเรื่อง ก่อนเรื่องทั้งหมดนี้ คนมองว่ามาจากการชุมนุมเมื่ออาทิตย์ก่อนและการประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณา 6 ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 23 กันยายน -24 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ตลอดการอภิปรายทั้ง2 วัน ทั้งฝ่าย สว. และ สส. สลับกันออกมาอภิปรายต่างฝ่ายต่างออกมาอภิปรายที่ยืนในมุมของตนเอง ทั้ง สส.ฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายรัฐบาล และสว.
แต่การอภิปรายก็จบลงที่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้ลงมติรับ/ไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้แต่ฉบับเดียว เป็นเหตุให้นายวิรัช วิปของฝ่ายรัฐบาล ลุกขึ้นเสนอให้รัฐสภาตั้ง กมธ. พิจารณาก่อนรับหลักการ ข้อเสนอของนายวิรัช ได้ถูกนายไพบูลย์นำไปเสนอเป็นญัตติทันที ก่อนจะได้รับการขานรับจากวิปของวุฒิสภาทันที โดยให้เหตุผลในทำนองว่า เพิ่งได้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนการอภิปรายเพียง8 วัน และที่ผ่านมายังไม่เคยได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเลย ขณะที่ วิปของฝ่ายค้าน แสดงความไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ. แต่ในที่สุดฝ่ายค้านโดยพรรคเพื่อไทยก็เกือบจะเสนอชื่อตั้ง กมธ. ร่วม ก่อนจะเปลี่ยนใจปฏิเสธที่จะส่งตัวแทนฝ่ายค้านไปเข้าร่วม
โดยที่ฝ่ายค้านปฏิเสธที่จะให้ตั้ง กมธ. นั้นเพราะมองว่าเป็นการดึงเวลาและดูเหมือนทางฝ่ายค้านจะเร่งและบีบให้มีการเปิดทางเพื่อแก้ไข รธน. ผ่าน ส.ส.ร. แต่ในท้ายที่สุดที่ประชุมสภาก็มีมติเห็นชอบตั้ง กมธ. ศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 432 คะแนน ต่อ 255 เสียง งดออกเสียง 28 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากนั้นก็มีการเสนอตั้งกมธ. 45 คน แบ่งเป็น สว. 15 คน สส. 30 คน แต่เนื่องจากฝ่ายค้านประกาศไม่ส่งคนเข้าร่วมทำให้สมาชิก กมธ. เหลือเพียง 31 คน
ราวกับคลื่นยักษ์ซัดเข้าใส่การเมืองที่กำลังร้อนระอุ ถาโถมเข้าใส่พรรคเพื่อไทยโดยตรง? หลังจากข่าวการกลับมาของคุณหญิงพจมานในพรรคเพื่อไทย
เพราะในช่วงสองวันนั้น คุณหญิงพจมาน อดีตภริยาของนายทักษิณ ก็ได้ออกมามีข่าวอีกครั้ง หลังจากห่างหายบนหน้าสื่อไปนาน การออกมาครั้งนี้ยังมาพร้อมกับข่าวการเข้ามาปรับทัพใหม่ในพรรคเพื่อไทยซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่และไม่รู้ว่ามีความเกี่ยวพันกับเรื่องใดหรือไม่ แต่ที่แน่ๆแกนนำพรรคเพื่อไทยลาออกกันหมดเพื่อเปิดทางให้เลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ กรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคหลายคนต่างพากันลาออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสำคัญอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ ที่ถึงกับออกมาโพสต์เฟซบุ๊ค
ส่วนตัวถึงการลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคของตนเอง และตามมาด้วยนายโภคิน นายพงศ์เทพ และนายวัฒนา ก็ได้ประกาศลาออกด้วยเช่นกัน ส่วนกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ท่านอื่นอย่าง นายจิรายุ ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค และสุดท้ายก็ตามมาด้วยการประกาศลาออกของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
หลังจากที่นายสมพงษ์ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรค ก็ได้มีการนัดประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีการเสนอการปรับโลโก้พรรคใหม่และมีการกำหนดวันประชุมใหญ่สมัยวิสามัญของพรรคในวันที่ 1 ตุลาคม เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งนับว่ารวดเร็วมาก จนหลายคนคาดการณ์ไปต่างๆ นานา
จากการที่กรรมการพรรคคนสำคัญๆ ต่างพากันลาออกเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะแพแตกแล้วหรือไม่? หรือว่านี้อาจจะเป็นแค่การเตรียมตัวเพื่อสร้างอีกพรรคขึ้นมาแทนที่ พรรคไทยรักษาชาติ ที่โดนศาลสั่งยุบไปก่อนจะมีการเลือกตั้งปี’62 เสียมากกว่า? หรือเป็นการเดินเกมที่ต้องการจะดึงคะแนนเสียงที่เทไปเลือกอนาคตใหม่ครั้งนั้นให้กลับมา? หรือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือน ธันวาคม ที่จะถึงนี้ใช่หรือไม่?
หลายกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ที่ไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากแกนนำพรรคที่ยังเก็บตัวเงียบกันทุกคน จนล่าสุดก็ได้มีการออกมาปฏิเสธแล้วว่าจะไม่มีการตั้งพรรคใหม่หรือพรรคสำรอง และไม่มีปมอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการปรับโครงสร้างภายในเพื่อดึงคนรุ่นใหม่ขึ้นมามีบทบาท ถึงขนาดมีข่าวว่า มีการไปดึงเอาลูกเขยของอดีตหัวหน้าพรรคมาลงการเมืองและอาจดันสู่ตำแหน่งสำคัญในพรรค รวมถึงความพยายามดึงคนเก่าๆ สมัยไทยรักไทย อย่างตอนนี้คือกลุ่มแคร์ให้กลับมามีบทบาทคุมพรรคแทนชุดปัจจุบัน ซึ่งหากเป็นจริง อาจกำลังแสดงให้เห็นถึงผู้มีอำนาจที่จะมาคุมพรรคหลังจากนี้ โดยเป็นกลุ่มคนที่เคยใกล้ชิดอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งต้องรอดูผลจริงบ่ายวันนี้
อย่างไรก็ตาม การเดินหมากตานี้ของคุณหญิงพจมานก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนกับพรรคเพื่อไทย เป็นอย่างมาก เพราะคุณหญิงเป็นคนที่หลายฝ่ายในพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงให้ความเคารพนับถือ เงาของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในใจแฟนคลับคือ อดีตนายกฯทักษิณ จึงทำให้คุณยิ่งลักษณ์เป็นที่รักของสมาชิกอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการขยับตัวของคนในครอบครัวชินวัตรแม้จะบอกว่าเป็นอดีตก็ตามแต่ย่อมสร้างความสนใจและมีผลอย่างมากต่อผู้ที่นิยมพรรคเพื่อไทย
ไม่รู้ว่าเป็นการปรับกลยุทธ์ใหม่ของทางพรรคหรือไม่ ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนว่าพรรคเพื่อไทย จะเล่นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น และไม่ได้อยู่ร่วมกับพรรคอื่นที่อาจคิดต่างจากนี้?
อย่างไรก็ตาม น่าคิดว่า ขบวนการเคลื่อนไหวต่างๆที่กำลังวางแผนนัดชุมนุมพาคนลงถนน คงจะทำให้แกนนำต้องคิดหนักกันว่าจะเอายังกันต่อหลังจากนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสื่อเป็นนัยว่าจำนวนผู้ชุมนุมที่ส่วนหนึ่งหรืออาจเป็นส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับการชุมนุมเมื่อ 19 กันยายนที่ผ่านมา จะลดลงหรือไม่? และตอนนี้ผู้ชุมนุมก็กำลังมีทิศทางลดลงอย่างมีนัยอยู่หรือไม่
เหตุจากการที่แกนนำในครั้งนั้น ไม่สามารถนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแทนท่ีจะโจมตีนายกฯหรือการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลก็กลับไปโจมตีสถาบัน เป็นเหตุทำให้หลายคนเลือกที่จะถอยห่างออกมา และเนื่องจากกองกำลังหลักที่แสดงให้เห็นแล้วในวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมาก็เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่นักศึกษาที่เป็นผู้ชุมนุมหลักที่ท้องสนามหลวงและคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวผู้เล่นหลักในการชุมนุมครั้งต่อไป แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอาจจะเป็นเหตุทำให้จำนวนคนเสื้อแดงในครั้งนั้นส่วนใหญ่หายไป ดังนั้นแกนนำที่แท้จริงที่เหลืออยู่ หรือที่เคยหลบอยู่หลังนักศึกษาจะขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวกันต่อไปอย่างไร?
โดยท่าทีล่าสุดของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ในการประชุมครม.ครั้งล่าสุด ที่ยังแสดงท่าทีชัดเจนต่อพรรคร่วมที่จะจับมือกันต่อไป มากกว่านั้นคือการส่งสัญญาณบางอย่างให้พรรคร่วมรับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ญัตติ ที่มีหลักการเดียวกัน คือญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล กับญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ให้แก้ไขมาตรา 256 เปิดทางให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่ต้องไม่แตะต้องหมวด 1และหมวด 2 และที่สำคัญคือท่าทีที่ไม่กังวลต่อการชุมนุมในช่วงเดือนตุลาคม
มาตรว่ามีความชอบสักเท่าใดก็ดี ก็ควรจะเจียมตัวคำรบตามประเพณีข้ากับเจ้า
ซุนฮก สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี