เหลือเชื่อมาก... ที่มีนักการเมืองผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนึ่ง ร่วมกับพรรคพวก ลูกสมุน บริวาร บิดเบือนประวัติศาสตร์ 14 ต.ต. 2516 เพื่อปลุกระดมการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.2563 โดยอ้างว่า ประยุทธ์ออกไปไม่พอแก้รัฐธรรมนูญไม่พอ จะต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ (จาบจ้วง) ต้องพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ในการชุมนุมด้วย
เหลือเชื่อกว่านั้น คือ นักการเมืองคนนั้น มันไม่ออกมานำการชุมนุมเอง ไม่ขึ้นเวที ไม่ยอมร่วมรับผิดชอบอะไรเลย แต่ปล่อยให้แกนนำซึ่งไร้ทุนทางสังคมใดๆ ทั้งปวง ออกมานำการเคลื่อนไหวจาบจ้วง
แกนนำประกาศจะชู 3 นิ้ว รับขบวนเสด็จฯ
แกนนำประกาศอยากให้ในหลวงคุยกับตัวแทนนักศึกษา
เหลือเชื่อไปอีก คือ มีขบวนการปั่นกระแส ทั้งในออนไลน์ และในสื่อเครือข่ายค่ายสีส้มและคณะปลดแอก แบบหลับหูหลับตา ไร้ยางอาย ไร้สำนึกความรับผิดชอบ ไม่ละอายใจตัวเอง โดยบิดเบือนสารพัดเรื่อง แม้แต่ข่าวปลอมก็เอามาเล่น ภาพการชุมนุมในต่างประเทศที่มีคนเยอะๆ ก็เอามาใช้ปลุกปั่นกัน ฯลฯ
1. เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 บริบทและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ เล่าไว้ว่า
“1. ก่อนเคลื่อนขบวนออกนอกธรรมศาสตร์ ใน 14 ตุลา 16 เวลาเที่ยง กรรมการ ศนท. ในขณะนั้น ได้นำมวลชนร่วมแสนคน สวดมนต์ หรือนึกถึงความเชื่อทางศาสนาของตัวเอง (แกนนำหลักคนหนึ่งนับถือศาสนาอิสลาม)หลังจากนั้นทุกคนก็มาร่วมกันร้องเพลงสรรญเสริญพระบารมีอย่างพร้อมเพรียงกัน ดังกึกก้อง ออกไปนอกมหาวิทยาลัย
2. รูปขบวน: 4 แถวหน้า ถือธงชาติและรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 เดินมุ่งหน้าออกมาทางประตูด้านสะพานพระปิ่นเกล้า.. หัวขบวนถึงสะพานผ่านฟ้าแล้ว ท้ายขบวนยังออกจากธรรมศาสตร์ไม่หมด
3. ความสับสนของข่าวสารที่จะมีการสลายการชุมนุมในตอนดึก ที่บริเวณลานพระรูปทรงม้า ทำให้นายเสกสรร ตัดสินใจแปรรูปขบวน ไปขอพึ่งพระบารมีที่พระราชวังสวนจิตรฯ ก่อนออกเดินก็พร้อมใจร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเป็นกำลังใจในการไปขอพึ่งพระบารมี
4. การเผชิญหน้าระหว่าง จนท.ทหาร ตำรวจ กับผู้ชุมนุม บริเวณลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยใกล้จะเกิดขึ้น จีระนันท์ พิตรปรีชา คุมฝูงชนอยู่ตรงนั้นประมาณหมื่นกว่าคน สงสารเด็กอาชีวะที่จะออกไปเสี่ยงชีวิตปกป้อง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากนึกถึงพระองค์ท่าน จึงให้ทุกคนร้องเพลงสรรญเสริญพระบารมี ทำให้ทหาร ตำรวจ ก็ต้องหยุดยิง ลุกขึ้นยืนร้องตามไปด้วย เมื่อเพลงจบลงต่างคนก็ไชโยพร้อมกัน และเหตุการณ์ความตึงเครียดก็ผ่อนคลายไป
5. มีอีกหลายเหตุการณ์ในลักษณะนี้ที่เกิดขึ้น ท้ังทางฝั่งศิริราชและราชดำเนิน เพราะตอนเย็นมวลชนได้ออกจากธรรมศาสตร์ไปหมดแล้ว
เรื่องแบบนี้ ต้องรู้ไว้บ้าง และควรรู้จากผู้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ด้วย
อย่าไปเชื่อพวก 3 เกลอ ที่หัวแข็ง แต่ขี้ขลาด เอาลูกหลานคนอื่นออกมาตายแทน
ต่อให้ม็อบออกมาล้านคน ถ้ารัฐบาลไม่ผิด ก็ไม่มีทางชนะหรอกครับ”
2. คณะบิดเบือนในปัจจุบัน บังอาจ เหิมเกริม หลงตัวเอง อย่างไร?
คุณนิมิตร สมบูรณ์วิทย์ วิเคราะห์ไว้อย่างเผ็ดร้อน บางตอนว่า
“...ยามที่มีกลุ่มคนจำนวน“หยิบมือ” นำโดย คณะสามสัสสร้าง #ลัทธิปลดแอก
สื่อสัญลักษณ์ด้วย #นิ้วด้วนสองนิ้ว
ปลุกปั่นสังคมให้ร่วมกัน “คุกคามสถาบันฯ มุ่งเปลี่ยนระบอบ โดยอาศัยเหล่าสาวกเป็นเบี้ยในกระดาน ระรานคุกคามสังคมฯ บุคคล ไม่เว้นแม้กระทั่งสถาบันฯ
อ้างว่าประท้วงรัฐบาลเป็นการบังหน้า แต่เนื้อแท้ เป็นเรื่องความพยายามของ #หมางับเมฆ มุ่งบั่นทอน ด้อยค่าสถาบันกษัตริย์ไทย อันเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยมาราวๆ 800 ปี !
แน่นอนว่า ไอ้พวกหัวหมู่ทะลวงฟัน (เลี้ยงไม่เสียข้าวสุก) ก็กำลังเป็นนักสะสมคดี ชีวิตที่จะผูกพันไปยาวนานที่ โรงพัก ศาล และ #จบที่เรีอนจำ
ขณะที่วันนี้..#คณะสามสัส ซึ่งเป็นตัวขุน ยังคงหลบอยู่หลังกระโปรงเด็ก ไม่เคยแสดงการเข้าร่วมชุมนุมยืนยันประกาศเจตนารมณ์อะไรของตนแม้แต่ครั้งเดียว!!
ที่ผ่านมา แต่ละม็อบก็ไปโฉบเฉี่ยวสร้างเรตติ้ง เซลฟี่กับสาวก พอเป็นน้ำจิ้ม ไอ้จะเห็นขึ้นเวทีปราศรัยน่ะ...อย่าหวัง !!! #ริเบอร่าน... !!!
ไม่น่าเชื่อที่ #คณะสามสัส ประกาศว่าตนเป็น “คนรุ่นใหม่” แต่ชุดความคิด (Mind Set) กลับวนไปอยู่กับ 2475
หมกมุ่นกับจินตนาการเพ้อฝันการปฏิวัติในฝรั่งเศส
ยามตุลาฯ มาเยือนก็โหน 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ (มันยังไม่เกิดกันเลย)ประกาศมั่วๆ สืบทอดเจตนาวีรชนคนตุลาฯ นักศึกษา คนตุลาฯน่ะเขาสู้เผด็จการแบบไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่มีพรรคการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง และในการชุมนุมน่ะ ล้วนเทิดองค์พระมหากษัตริย์ เคลื่อนขบวนเมื่อใด จะมีขบวนแรกอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ ทุกครั้ง!
ดังนั้น อย่าเที่ยวมั่วนิ่มว่า ขอสืบทอดเจตนารมณ์ตุลาคม เพื่อไป “ปฏิรูปสถาบันมหากษัตริย์” เพราะมันจะทำให้ประวัติศาสตร์การต่อสู้ของนักศึกษาพลังบริสุทธิ์ในตำนานต้องมาเสียหายด่างพร้อย เพียงเพราะการบิดเบือนของตน! (ไม่ต้องสืบทอด พวกกู คนตุลาฯ ยังไม่ตายเว้ย!)
ฟังจากที่ไอ้ตี๋ พูดว่า “ประยุทธ์ ไม่ใช่หัวหน้าใหญ่” หรือ “ถ้าในหลวงจะคุยกับนักศึกษา....ฯลฯ (วจีกรรมทำนองเดียวกับไอ้แม้ว เรื่อง ถ้าในหลวงกระซิบข้างหู...) จะให้เข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้เลยว่า... คณะสามสัสน่ะ ชัดเจนว่า ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อในหลวง!
จุดสำคัญอยู่ตรงนี้ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งมวลของพสกนิกรในประเทศ
ทั้งยังเป็น“ผู้ให้ ผู้สร้าง” มาตลอด ในทุกยุคทุกสมัย จึงเป็น“ศูนย์รวมใจ” ของชาติ
คณะสามสัส มุ่งโจมตีในหลวง กะเล็งผลเลิศให้ไปสู่การเปลี่ยนระบอบ
พูดแบบชาวบ้านก็คือ “โจมตีเป้าใหญ่” เลย (ก็ลอกตำราฝรั่งเศสนั่นแหละ)
หารู้ไม่ว่า ที่นี่ ราชอาณาจักรไทย ที่มีมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขอันถือเป็นสิ่งสูงส่งอย่างยิ่งของชาวไทย เกือบ 70 ล้านคน
...เยี่ยงนี้ คณะสามสัส จึงมิได้เป็นปฏิปักษ์ต่อในหลวง หากแต่กำลังเป็นปฏิปักษ์ต่อคนไทยทั้งประเทศ และก็คงต้องจัดให้เป็น“พวกวิปลาส”เท่านั้น ...ที่คิดว่า.. พวกตนจะชนะ....ในขณะที่ต้องสู้กับคนทั้งประเทศ !!!
...จะบอกให้เอาบุญ #ต่อให้เตี่ยพวกมึงตายแล้วเกิดสามรอบ ก็ไม่มีทางล้มสถาบันกษัตริย์ไทยได้..
คนเราบางทีก็ “#ติดกับดัก” ที่ไม่ซับซ้อนอะไร?
เพียงคิดว่าพวกตนฉลาดรอบรู้เหนือคนอื่นๆ... กระหายอยากมีอำนาจ!
และจุดจบของคนเหล่านี้มักต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้าย..
ภายใต้การสาปแช่ง ก่นด่า ของคนทั้งประเทศ !!!...”
3. เมื่อรู้จัก 14 ตุลา 2516 อย่างแท้จริง ก็จะรู้ทัน 14 ตุลา 2563
รู้เช่นเห็นชาติคนที่กำลังพยายามบิดเบือนอย่างน่าเวทนา ไร้ความละอายแก่ใจ อย่างไร
สะท้อนให้เห็นถึงความชั่วร้ายในจิตใจของคนที่บังอาจกระทำเช่นนั้นได้ โดยไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบ แต่หลบอยู่ข้างหลังเด็ก เยาวชน หนุ่มสาว ที่ตนเที่ยวไปปลุกปั่น โป้โปด จับแพะชนแกะ หยอดยาพิษทางความคิดต่อเนื่องมานานหลายปี
นักการเมืองพวกนี้ ไม่มีอนาคตแน่นอน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี