หลังจากมีการวางรากฐานและก่อหวอดการชุมนุมแบบแฟลชม็อบมาระยะหนึ่งแล้ว ก็ทำให้คนไทยได้ตื่นตัวระมัดระวังว่าสักวันหนึ่งข้างหน้าก็จะเกิดสงครามพันทางขึ้นในประเทศไทยแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่ฮ่องกง หรือเวเนซุเอลา หรือเบลารุส หรืออาหรับสปริงก่อนหน้านั้น
การทำสงครามพันทางเป็นรูปแบบการกดดันการครอบงำยึดครองและการเปลี่ยนรัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่ตกเป็นเป้าหมายเพื่อให้ยอมปฏิบัติตามความเรียกร้องต้องการของนักล่าอาณานิคมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จนกว่าจะเป็นเมืองขึ้นของการล่าอาณานิคมแผนใหม่เต็มรูปแบบ
และเมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลไม่สามารถที่จะปฏิบัติหรือไม่ยอมปฏิบัติตามแรงกดดันนั้น สงครามพันทางก็จะยกระดับมากขึ้น จนกระทั่งท้ายที่สุดก็จะถูกต่างชาติเข้าแทรกแซงโดยตรง ทั้งในรูปการสังหารผู้นำประเทศ หรือขับไล่ผู้นำประเทศออกนอกประเทศ หรือสร้างสงครามกลางเมืองขึ้นเพื่อให้องค์กรต่างประเทศเข้ามาจัดการให้มีรัฐบาลหุ่นตามที่นักล่าอาณานิคมต้องการ
แต่โลกไม่ได้มีแต่นักล่าอาณานิคม หากมีประเทศซึ่งต่อต้านการล่าอาณานิคมดำรงอยู่ด้วย และพร้อมเข้าช่วยเหลือประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย ในขณะเดียวกัน ในบรรดาประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายก็มีผู้รักชาติที่ไม่สามารถยอมรับให้ชาติบ้านเมืองตกเป็นเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคมแบบใหม่ได้
ดังนั้นการสรุปบทเรียนทั้งหลายในการก่อสงครามพันทางจึงได้มีการรวบรวมเรียบเรียงประมวลและสรุปขึ้นจนเป็นรูปเป็นร่างและเผยแพร่ให้ได้รู้กันทั่วไป ตลอดจนเกิดกระบวนการอันเป็นแบบแผนที่จะรับมือกับสงครามพันทางดังกล่าวนั้นและได้รับชัยชนะมาแล้ว
การสร้างสงครามพันทางเพื่อยึดครองเวเนซุเอลาไม่ประสบความสำเร็จเพราะผู้นำประเทศเวเนซุเอลายืนหยัดต่อสู้ร่วมกับประชาชาติเวเนซุเอลา ด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้จึงสามารถยืนหยัดดำรงความเป็นเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติเอาไว้ได้
การสร้างสงครามพันทางในเบลารุสเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่ผู้นำรัฐบาลเบลารุสและประชาชาติเบลารุสได้ยืนหยัดทำการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว และในที่สุดด้วยการช่วยเหลือของกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ การรุกรานยึดครองด้วยสงครามพันทางในประเทศนั้นก็ถูกยันเอาไว้ได้ และอีกไม่นานก็คงประสบชัยชนะ
สงครามพันทางในฮ่องกงเพื่อจะยึดครองฮ่องกงในยุคใหม่ได้ยกระดับการทำสงครามพันทางขึ้นถึงขั้นสูงสุด คือนอกจากดำเนินสงครามพันทางเต็มรูปแบบเป็นเวลานับปีแล้ว ในตอนท้ายก็เสริมด้วยแสนยานุภาพทางการทหารดังที่ปรากฏการณ์ซ้อมรบทางนาวีครั้งใหญ่ที่สุดสามครั้งในทะเลจีนใต้
แต่ในที่สุดจีนก็ประสบชัยชนะในการดำเนินนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการแก้เผ็ดนักล่าอาณานิคมอย่างสวยสดงดงาม ทำให้นักล่าอาณานิคมไม่สามารถกลับไปสู่ฮ่องกงได้อีกต่อไป ดังนั้นไทยและมาเลเซียจึงตกเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกใช้ทดแทนฮ่องกง
ดังนั้นสงครามพันทางทั้งในไทยและมาเลเซียจึงเกิดขึ้นก่อนกำหนด ดังนั้นจึงมีความขลุกขลักอยู่ไม่น้อย แต่โฉมหน้าของสงครามพันทางได้ปรากฏชัดเจนแล้ว
การชุมนุมที่ราชประสงค์เมื่อค่ำวันที่ 15 ตุลาคม 2563 คือการปรากฏตนอย่างชัดเจนของสงครามพันทางในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก แม้ว่าผู้คนจำนวนมากที่เข้าร่วมอาจจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ตามที
แต่ก็มีผู้รู้เท่าทันจำนวนมากเช่นเดียวกันว่าประเทศไทยกำลังตกเป็นเป้าหมายของสงครามพันทางที่จะยกระดับสูงขึ้นไม่ต่างกับฮ่องกง
จากนี้ไปเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในฮ่องกงที่บรรดาร้านค้าต่างๆ ปกป้องร้านค้าและทรัพย์สินของตนเพราะความเสียหายจากการชุมนุมก็จะเกิดขึ้น จากนั้นก็จะเกิดการปะทะกันเป็นระลอก เป็นระยะ และนำไปสู่การเผาและการประทุษร้ายแก่กันเป็นระยะๆ
และเป็นที่แน่นอนว่าบรรดาสปายสายลับของนักล่าอาณานิคมที่ประสานและแฝงตัวกับแนวรบสื่อและโซเชียลมีเดียก็จะเคลื่อนทัพเข้ามาโหมประโคมข่าวเพื่อปลุกเร้าประชาชนในประเทศให้เข้าร่วม เพื่อโหมประโคมข่าวทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและประเทศ และชักลากเอาประเทศบริษัทบริวารทั้งหลายให้แห่กันเข้ามากดดันรัฐบาล
เหล่านี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับแต่นี้ไป ดังนั้นใครมีอำนาจหน้าที่อย่างไรก็ควรจะได้ทำความเข้าใจถึงปรากฏการณ์และบทเรียนที่เกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศ และที่กำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราให้จงดี
ในขณะที่มีบทเรียนและแบบอย่างการเกิดขึ้นของสงครามพันทางดังพรรณนามาแล้ว ก็ควรจะได้ศึกษาทำความเข้าใจแบบอย่างของประเทศทั้งหลายที่เขายืนหยัดต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยผลประโยชน์แห่งชาติและผลประโยชน์ของประชาชนว่าเขาทำกันอย่างไรซึ่งสรุปได้ดังนี้
ประการแรก จะต้องรีบสร้างความสมดุลในด้านการต่างประเทศเพื่อไม่ให้เสียดุลและตกอยู่ในวงล้อมของนักล่าอาณานิคมแต่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะคือการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ เพราะการจะรับมือกับนักล่าอาณานิคมซึ่งทำเป็นขบวนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ประเทศใดประเทศหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายจะทำได้โดยลำพัง
ประการที่สอง จะต้องกำจัดและขับไล่สายลับต่างชาติและบริษัทบริวารที่ขายตัวที่แฝงตัวมาในรูปต่างๆ ไม่ว่าในรูปผู้สื่อข่าวหรือนักท่องเที่ยวแต่ทำหน้าที่เชื่อมโยงโหมประโคมเหตุการณ์รุนแรงออกไปทั่วโลก ในที่นี้จะต้องรวมถึงบรรดาสำนักข่าวใหญ่ๆ ที่เป็นกลไกล่าอาณานิคมซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกแล้วว่ามีสำนักข่าวไหนบ้าง พวกนี้แหละคืออริราชศัตรูของประเทศชาติที่สำคัญมาก
ประการที่สาม จะต้องกำจัดและตัดกำลังขององค์กรทรยศชาติและขายชาติทั้งหลายที่รับสินจ้างรางวัลและผลประโยชน์จากต่างชาติเข้ามาเคลื่อนไหวจัดตั้งนักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชนตลอดจนกลุ่มอาชีพต่างๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งองค์กรบังหน้าทางด้านสิทธิมนุษยชน หรือนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนเป็นต้น
ประการที่สี่ จะต้องทำการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายทางการเงินหรือท่อน้ำเลี้ยงที่เชื่อมโยงหล่อเลี้ยงและสนับสนุนการทำสงครามพันทางของขบวนการต่างๆ ในประเทศและอาจต้องดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติอย่างเฉียบขาด
ประการที่ห้า จะต้องทำลายเครือข่ายนักวิชากินนักวิชาเกิน และนักวิชาโกง ในสถาบันการศึกษาและองค์กรเศรษฐกิจจำนวนมากที่เป็นเครือข่ายการขายชาติและการทรยศชาติ และเป็นจุดประสานสำคัญในการทำสงครามพันทางอย่างเฉียบขาด
ประการที่หก จะต้องทำการจัดตั้งมวลชนและขยายงานมวลชนที่รักเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติให้เข้มแข็งเกรียงไกรเติบใหญ่ มีจิตใจรักประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีประสิทธิภาพและมีปริมาณที่เพียงพอต่อการรับมือ
ประการที่เจ็ด จะต้องกระชับกองทัพแห่งชาติที่เข้าใจสถานการณ์และมีความรักชาติให้เป็นปึกแผ่น และมีสมรรถนะสูงสุดในการปกปักรักษาเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติ ดังเช่นการจัดให้กองทัพปลดแอกประชาชนจีนขึ้นสังกัดต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประมุขแห่งรัฐ หรือการจัดให้กองกำลังปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านขึ้นตรงต่อผู้นำสูงสุดซึ่งเป็นประมุขรัฐ และแบบอย่างลักษณะเดียวกันนี้ในอีกหลายประเทศ
เหล่านี้จะเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันประเทศไทยและคนไทยไม่ให้ตกเป็นทาสของการล่าอาณานิคมแบบแผนใหม่ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี