หัวข้อนี้ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊คของท่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สรุปดังนี้ 1.ขึ้นชื่อว่าเป็นมุขบุรุษ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ของประเทศต่างๆ จำนวนมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน ส่วนมากจะมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสถาบันกองทัพ (ทั้งกองทัพบกกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ) ในอดีตสมัยราชาธิปไตย พระมหากษัตริย์คือจอมทัพที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการรักษาประเทศให้อยู่รอดปลอดภัยมาเป็นเวลานานจนถึงเวลาที่ประชาชนได้มีโอกาสใช้ระบบประชาธิปไตยเพื่อมีส่วนร่วมในการปกครองและบริหารประเทศร่วมกับพระมหากษัตริย์ บางประเทศแม้จะล้มเลิกสถาบันกษัตริย์ไปแล้วด้วยเหตุผลเฉพาะตัวที่ต่างกัน ได้เปลี่ยนระบบการปกครองมาเป็นสาธารณรัฐที่มีประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นประมุขของรัฐ
แต่รัฐธรรมนูญใหม่ของพวกเขา (ทั้งที่เป็นและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร) ก็ยังบัญญัติหรือยอมรับกันว่าให้ประธานาธิบดีนั้นเป็นจอมทัพหรือเป็นผู้มีอำนาจในการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของประเทศด้วย ดังนั้น อำนาจในการประกาศสงครามจึงยังคงเป็นของพระมหากษัตริย์หรือประธานาธิบดีอยู่ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะถือหลักยึดโยงว่าเดิมทีอำนาจเหล่านี้ล้วนเป็นอำนาจที่ชอบธรรมของประมุขแห่งแผ่นดิน (PREROGATIVE)
2.สำหรับประเทศบางประเทศที่อ้างว่าตนเป็นประชาธิปไตยมักจะมีนักการเมืองที่เป็นพวก “กังฉิน” อยู่จำนวนหนึ่งที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยกลายเป็น #ระบอบธนาธิปไตย นักการเมืองประเภทนี้มักจะเป็นคนมีเงินระดับเศรษฐี มหาเศรษฐี หรืออภิมหาเศรษฐี (ส่วนมากจากเงินที่ไม่ค่อยบริสุทธิ์) คนพวกนี้จะเอาเงินของตนมาตั้งพรรคการเมืองหรือซื้อพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้ว เพื่อใช้เป็นฐานแสวงหาอำนาจทางการเมืองให้แก่ตนและครอบครัว เมื่อมีอำนาจทางการเมืองแล้ว พวกเขาก็จะใช้อำนาจทางการเมืองนั้นเพื่อกอบโกยโกงกินสารพัด ขอโทษ! เรียกกันว่า “แดกกันทั้งครอบครัวและตระกูล” บริหารประเทศเหมือนบริหารบริษัท การลงทุนตั้งพรรคการเมืองเหมือนการลงทุนทำธุรกิจต้องแสวงหากำไรให้ได้มากที่สุดจากเงินที่ลงทุนเอาไว้
นักการเมืองประเภทนี้จะใช้เงินทั้งซื้อเสียงจากประชาชน (ที่ส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่น) และใช้เงินควบคุมนักการเมืองไส้แห้งทั้งหลายที่มาสวามิภักดิ์เป็นลูกน้อง นักการเมืองไส้แห้งพวกนี้มักจะมีความสัมพันธ์ในระบบอุปถัมภ์ที่ดีกับประชาชนในพื้นที่ แต่มักจะเป็นคนที่มีกิเลสมาก หนักไปในทางไร้ศีลธรรม จึงพร้อมจะปฏิบัติตนสนองความต้องการของเจ้าของพรรค เพื่อตอบแทนค่าน้ำข้าวน้ำแกงที่เขาเทใส่กะลาให้ได้กินกันในแต่ละเดือน
คนพวกนี้มักจะเป็นคนพูดเก่ง ปากอย่างใจอย่างปากนั้นจะพร่ำพูดตลอดเวลาว่า “รักชาติ รักประชาชนรักประชาธิปไตย” แต่มักจะไม่ค่อยพูดว่า “เกลียดการโกงกินที่ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม” ของหัวหน้าพรรคของตนเอง เราสามารถจะศึกษาดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ มาแล้ว เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศไทย และอีกหลายประเทศในแอฟริกาและลาตินอเมริกา
3.บ้านเมืองใดที่เต็มไปด้วยนักการเมือง “กังฉิน” ทั้งเจ้านายและลูกน้อง พวกเขาย่อมพร้อมจะ#ขายชาติให้กับมหาอำนาจ ที่กำลังแข่งขันกันครองโลกทั้งในอดีตและในปัจจุบัน พวกเขาจะไม่สนใจหรอกว่าประเทศที่ตกเป็นเมืองขึ้นโดยปริยายนั้นจะไม่มีอิสรภาพในการกำหนดนโยบายต่างๆ ด้วยตนเองทั้งนโยบายภายในประเทศและนโยบายต่างประเทศ ประชาชนของเขาจะต้องตกระกำลำบาก ถูกเอารัดเอาเปรียบจากมหาอำนาจผู้เป็นนายมากน้อยเช่นไร เขาสนใจแต่การที่เขาได้มีอำนาจ สามารถกอบโกยโกงกินแบ่งสรรกันระหว่างญาติโกโหติกาและพรรคพวกลิ่วล้อ เพื่อสะสมไว้เป็นฐานการรักษาอำนาจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เท่านั้น แม้ประเทศของเขาจะมีแต่ความแตกแยกย่อยยับ และไม่สามารถจะมีความเจริญในทางเศรษฐกิจได้อย่างมีเสถียรภาพ
4.มีแต่สถาบันกษัตริย์และสถาบันกองทัพเท่านั้นที่ได้รับการอบรม ฝึกปรือ #มิให้เป็นคนกังฉินพร้อมจะขายชาติเพื่อแลกกับประโยชน์ของตน พรรคพวก และเครือญาติ เพราะบรรพบุรุษแห่งสถาบันของพวกเขาได้ล้มตายมามากแล้วพร้อมๆ กับประชาชนผู้รักชาติในการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติจากการรุกรานของประเทศที่มีกำลังเหนือกว่า
แม้ชาติจะเพลี่ยงพล้ำในบางครั้ง กษัตริย์ กองทัพและบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของเราก็ยอมเสียเลือดเสียชีวิตกู้เอกราช ปกป้องแผ่นดินให้เราได้อยู่อาศัยทำมาหากินอย่างเป็นสุขมาตั้งแต่ทวดของทวด ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ จนถึงพวกเรา และลูกหลานเหลนต่อๆ ไปในภายภาคหน้าได้อีกนานแสนนาน (ถ้าเราไม่รีบทำลายมันเสียก่อน) นี่คือประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่เคยชื่อ “ประเทศสยาม” ในอดีตกาล
ขอบคุณเฟซบุ๊ค ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี