คนเรานั้น ถ้าหากมีโลกทัศน์ที่คับแคบเสียแล้ว การกระทำ และการนึกคิดก็จะคับแคบและตีบตันไปโดยปริยาย แต่ยิ่งคนที่มีโลกทัศน์คับแคบและตีบตันมากเท่าไร ก็มักจะคิดเอาเองว่าตนเองนั้นมีความรอบรู้ในทุกสรรพสิ่ง แล้วก็มักจะแสดงออกซึ่งความตื้นเขินอยู่ตลอดเวลา แล้วคนจำพวกดังกล่าวนั้นก็หารู้ไม่ว่าความคิดที่ตื้นเขินเหล่านั้น ได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายต่อสังคม ซึ่งคนมีความคิดคับแคบดำรงชีวิตอยู่
ความตื้นเขินประการหนึ่งที่สาธารณชนและวิญญูชนจับได้ชัดเจนจากกลุ่มคนที่มีความคิดคับแคบคือ การอ้างว่าการสวมเครื่องแบบนักเรียนคือการจำกัดสิทธิ เสรีภาพของผู้สวมใส่ และก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในสังคม
คนที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง ไม่เคยสัมผัสความจริงของโลกใบนี้ยังอ้างด้วยข้อความเท็จอีกว่า โรงเรียนดีๆ ที่มีคุณภาพระดับแนวหน้าของโลกใบนี้ไม่มีการกำหนดให้ผู้เรียนต้องสวมเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งต้องขอย้ำ ณ ตรงนี้ว่า โรงเรียนชั้นดีระดับโลกของอังกฤษ ซึ่งหลายๆ คนยอมรับว่าอังกฤษคือต้นแบบของประชาธิปไตย ก็ยังคงมีกฎระเบียบข้อบังคับให้นักเรียนต้องสวมเครื่องแบบเมื่อเวลาไปเรียนหนังสือ และกฎระเบียบนี้มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1820 แล้ว ตัวอย่างคือ โรงเรียนอีตัน และอีกหลายโรงเรียน แล้วเครื่องแบบนักเรียนก็ยังคงถูกสวมใส่มาจนถึงยุคปัจจุบัน
แม้กระทั่งการเรียนในระดับมหาบัณฑิตในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เช่น ใน business school ระดับ world class ที่มีความน่าเชื่อถือในเชิงวิชาการอย่างสูงมาก ก็ยังมีกฎระเบียบในนักศึกษาของสถาบันต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือในเชิงวิชาชีพเมื่อจะเข้าฟังการบรรยายหรือในการสัมมนาของสถาบันการศึกษา และไม่อนุญาตให้ผู้แต่งกายไม่เหมาะสมเข้าเรียนหรือเข้าร่วมสัมมนาอย่างเด็ดขาด
เหล่านี้คือตัวอย่างที่ยืนยันได้ชัดเจนว่า เครื่องแบบนักเรียน เครื่องแบบนักศึกษา ไม่ใช่การกดขี่ ไม่ใช่เครื่องแบ่งแยกชนชั้น ไม่ใช่เครื่องลิดรอนสิทธิเสรีภาพ หรือความเสมอภาคเหมือนอย่างที่คนบางกลุ่มในประเทศไทยอ้างอิงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
สังคมใดก็ตาม ที่คนโลกแคบออกมาเรียกร้องในสิ่งใดๆ ก็ตาม ก็จะปรากฏความคับแคบและตื้นเขินของสติปัญญาของผู้เรียกร้องปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัดทุกครั้ง คนที่สักแต่ว่าอ้างเรื่องความชอบธรรม เรื่องสิทธิ เสรีภาพ เรื่องความเสมอภาค โดยไม่คำนึง ไม่เคารพกฎระเบียบอันดีงามของสังคม จึงเป็นแค่เพียงผู้ก่อให้เกิดความไร้ระเบียบของสังคมเท่านั้น
คนที่ไม่สามารถยอมรับกฎกติกา และระเบียบอันดีงามของสังคมได้ ย่อมไม่มีวันทำให้สังคมเกิดความสุขสวัสดี เกิดความเป็นระเบียบอันดีงามขึ้นมาได้เป็นอันขาด เพราะคนจำพวกนี้นอกจากจะมีโลกทัศน์คับแคบตื้นเขินและตีบตันแล้ว ยังมีใจที่ไม่ยอมรับความดีงามของสังคม เพราะคนจำพวกนี้เชื่อเอาเอง เพราะมีสติปัญญาอันจำกัด จึงทำให้คิดเอาเองว่าข้อเรียกร้องของตนคือสิ่งถูกต้องที่สุด จึงไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นที่อยู่ร่วมในสังคม คำถามคือ ทำไมเราจึงต้องยอมทำตามคำเรียกร้องและความเห็นของคนที่มีโลกทัศน์คับแคบ แค่เรายอมรับฟังคำพูดและความเห็นของคนจำพวกนี้ ก็ถือว่าเราให้โอกาสพวกเขามากจนเกินพอแล้ว แต่ขอยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำตามความคิดอันคับแคบของคนกลุ่มดังกล่าว เพราะความคิดที่คับแคบไม่เคยทำให้สังคมของเราดีขึ้นแต่อย่างใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี