ผ่านมาร่วม 1 เดือนนับตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่ยังคงส่งแรงกระเพื่อมไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดต่างๆ เพิ่มขึ้นสร้างผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน
ทำให้รัฐบาลต้องเตรียมหามาตรการเยียวยา ดูแลให้ความช่วยเหลือโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมทั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ออกมาส่งสัญญาณดีๆ ว่าได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 6.9 แสนล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบระยะเร่งด่วนให้กับผู้ประกอบการและประชาชน ผ่านการเสริมสภาพคล่อง-บรรเทาหนี้ ลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค รวมทั้งแจกเงินผ่านโครงการ “เราชนะ” รวมทั้งมาตรการใหม่ๆ ที่เตรียมจะประกาศออกมาภายในเดือนมกราคมนี้
แต่ที่ยังถูกละเลยก็คือ กลุ่มเกษตรกรยาสูบจาก 20 กว่าจังหวัดทั่วประเทศที่ยังรอรับเงินชดเชยที่ควรจะได้จากการขาดรายได้ เพราะโดนลดโควตารับซื้อใบยาจากการยาสูบแห่งประเทศไทย ลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ฤดูกาลปลูก 2562/63 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติเงินงบประมาณวงเงินประมาณ 160 ล้านบาท ไว้แล้วแต่ยังไม่สามารถจ่ายให้กับชาวไร่ได้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีสั่งชะลอไว้ก่อนโดยให้เหตุผลว่าเกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือจากมาตรการโควิดเมื่อกลางปี 2563 ไปแล้ว
ในความเป็นจริง ความเดือดร้อนของเกษตรกรยาสูบเป็นผลกระทบมาจากนโยบายของรัฐบาลในการขึ้นภาษียาสูบที่สูงจนเกินไป เงินชดเชยการตัดโควตารับซื้อของชาวไร่ยาสูบจึงเป็นคนละส่วนกับมาตรการช่วยเหลือโควิด
เช่นกรณีของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ก็ได้รับเงินเยียวยาจากผลกระทบการระบาดของโควิดไปแล้ว แต่ล่าสุด รัฐบาลก็เพิ่งอนุมัติงบกลางประจปี 2564 จำนวน 1,477 ล้านบาท ไปใช้สำหรับเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคการเลี้ยงโคนมและผลิตภัณฑ์นม
งบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ที่ต้องใช้เงินสูงถึง 1.47 พันล้านบาทรัฐบาลยังอนุมัติให้ช่วยเหลือได้ เงินชดเชยของชาวไร่ยาสูบใช้งบประมาณเพียง 160 ล้านบาทเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนจะมีข้อติดขัดมากมาย
ทั้งๆ ที่ สส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหลายๆ ท่านจากจังหวัดที่ปลูกยาสูบก็เคยลุกขึ้นอภิปรายในสภาฯ เรื่องเงินชดเชยชาวไร่ยาสูบอยู่หลายครั้ง คณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เช่น กมธ. ปกครอง กมธ.คลัง และกมธ. ราคาพืชผลต่างๆ ก็เริ่มเรียกสรรพสามิตเข้าไปชี้แจง แต่ก็ยังไร้วี่แววการช่วยเหลือจากรัฐบาล
กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตจึงควรรับเป็นเจ้าภาพ เสนอเรื่องจ่ายเงินชดเชยชาวไร่ยาสูบเข้าไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพราะชาวไร่ยาสูบ 3 หมื่นกว่าครอบครัวที่ต้องขาดรายได้และสูญเสียอาชีพทำกินยังคงรอรับความยุติธรรม
หลังจากนั้น รัฐบาลต้องหาทางออกระยะยาวให้กับเกษตรกรกลุ่มนี้ โดยกระทรวงการคลังควรทำการบ้านร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าจะส่งเสริมการปลูกพืชชนิดใดที่จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มชาวไร่ได้เท่าเทียมกับการปลูกยาสูบ พร้อมทั้งจัดการแก้อัตราภาษีใหม่ที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวไร่อีกในอนาคต
รัฐบาลออกมาย้ำว่ามีงบประมาณกว่า 6 แสนล้านบาทในปีนี้ ก็น่าจะเร่งสะสางปัญหาค้างคาเก่าๆ ให้เสร็จสิ้นไปจะได้เดินหน้าดูแลฟื้นฟูเศรษฐกิจรากหญ้า สร้างงาน สร้างอาชีพในท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี